แบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น)
สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ “ส.ส.ท.” เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ก่อตั้งอย่างเป็นทางการใน วันที่ 24 มกราคม 2516 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมความรู้และนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเผยแพร่ และถ่ายทอดให้แก่บุคลากรไทย เพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย โดย ส.ส.ท. เคารพและตระหนักถึงสิทธิความเป็นส่วนตัวของทุกท่าน ที่มาติดต่อ เข้ารับบริการ หรือทำงานร่วมกับ ส.ส.ท. (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านจะได้รับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ส.ส.ท. จึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงแนวทางในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
นอกจากนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว ส.ส.ท. ได้จัดทำประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในแต่ละกิจกรรม เพื่อแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในแต่ละกิจกรรมทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่ถูกประมวลผล วัตถุประสงค์และเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงมี
ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความขัดแย้งกันในสาระสำคัญระหว่างความในประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในแต่ละกิจกรรมกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ ให้ถือตามความในประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมนั้น
โดยนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีเนื้อหาสาระ ดังต่อไปนี้
คำนิยาม
- ข้อมูลส่วนบุคคล หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
- ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
- การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งในที่นี้คือ ส.ส.ท.
- เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ ส.ส.ท. เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
- เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับ ส.ส.ท. เช่น การสมัครเป็นสมาชิกของ ส.ส.ท. หรือปฏิบัติตามสัญญาใด ๆ ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา เช่น การฝึกอบรม การสัมมนา การเรียนภาษา และการออกใบรับรองต่าง ๆ
-
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ ส.ส.ท. หรือของบุคคลอื่น เช่น
- เพื่อให้ ส.ส.ท. สามารถจัดการ พัฒนา และดำเนินการใด ๆ เพื่อให้สามารถให้บริการแก่ท่าน ในทุกช่องทาง การจัดการความสัมพันธ์ของสมาชิกและบุคคลภายนอก การบำรุงรักษาและการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
- เพื่อประโยชน์ทางด้านความปลอดภัย เช่น จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วย เช่น การเข้าสถานที่ของ ส.ส.ท. การเข้าสู่ระบบ (Log in) เข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของ ส.ส.ท.
- เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูล เช่น การแจ้งข่าวสารและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของสมาชิก ผ่านทางอีเมล เอสเอ็มเอส แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ ไดเร็กเมล รวมถึงเพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้า การลงทุน และการประกอบอุตสาหกรรม เช่น การขอความเห็น การจัดทำแบบสอบถาม การเข้าสัมภาษณ์
- เพื่อการตรวจสอบภายใน การตรวจสอบทางการเงินและการบัญชี การตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกง การทุจริต หรือการกระทำผิดกฎหมาย หรือเพื่อใช้เตรียมการในการดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายอื่นของ ส.ส.ท.
- เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ
- เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย
-
กรณีที่ท่านให้ความยินยอม ส.ส.ท. ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- เพื่อส่งข่าวสารการจัดงานสัมมนา การประชุม การฝึกอบรม ทัศนศึกษา การเรียนการสอน การทดสอบ และการให้บริการต่าง ๆ ของ ส.ส.ท. หรือของพันธมิตรของ ส.ส.ท. ผ่านทางอีเมล เอสเอ็มเอส แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ และไดเร็กเมลของท่าน
- กิจกรรมอื่น ๆ นอกจากที่กล่าวมาข้างต้น โดยอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติม ซึ่งจะแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมจากท่านเป็นคราว ๆ ไปทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับความยินยอมได้ในข้อ 4
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม ส.ส.ท. จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น
- ข้อมูลเฉพาะตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อกลาง ชื่อเล่น ลายมือชื่อ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ เลขที่ใบขับขี่ เลขที่หนังสือเดินทาง ข้อมูลทะเบียนบ้าน เป็นต้น
- ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ทางไปรษณีย์ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ชื่อผู้ใช้งานในโซเชียลมีเดีย
- ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการศึกษา เช่น ประเภทการจ้างงาน อาชีพ ยศ ตำแหน่ง หน้าที่ ความเชี่ยวชาญ สถานภาพใบอนุญาตทำงาน ข้อมูลบุคคลอ้างอิง หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ประวัติการดำรงตำแหน่ง ประวัติการทำงาน ข้อมูลเงินเดือน วันเริ่มงาน วันออกจากงาน ผลการประเมิน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ พัสดุในครอบครองของผู้ปฏิบัติงาน ผลงาน หมายเลขบัญชีธนาคาร สถาบันการศึกษา วุฒิการศึกษา ผลการศึกษา วันที่สำเร็จการศึกษา เป็นต้น
- ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลชีวภาพ (ข้อมูลสแกนใบหน้า ลายนิ้วมือ ม่านตา) เพื่อใช้ในการระบุตัวตน ข้อมูลศาสนาซึ่งปรากฏอยู่ในบัตรประชาชนของท่าน เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่านหรือดำเนินการทางภาษี ข้อมูลการแพ้อาหาร เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น
การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม
- ในกรณีที่ ส.ส.ท. ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับ ส.ส.ท. ได้ ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
- หากท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับ ส.ส.ท. หรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้ ส.ส.ท. ไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในประกาศนี้ได้
- หากท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ ก่อนการให้ความยินยอมโปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อำนาจปกครองให้ ส.ส.ท. ทราบเพื่อให้ ส.ส.ท. สามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองด้วย
แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
ส.ส.ท. เก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่ ส.ส.ท. เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริการต่าง ๆ เช่น ขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียน สมัครงาน ลงนามในสัญญา เอกสาร ทำแบบสำรวจหรือใช้บริการ หรือช่องทางให้บริการอื่นที่ควบคุมดูแลโดย ส.ส.ท. หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับ ส.ส.ท. ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดย ส.ส.ท. เป็นต้น
- ข้อมูลที่ ส.ส.ท. เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ หรือบริการอื่น ๆ ตามสัญญาหรือตามพันธกิจ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ หรือบริการของ ส.ส.ท. ด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น (ท่านสามารถดูรายละเอียดของการเก็บข้อมูลผ่านคุกกี้ได้ในหัวข้อที่ 6)
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่ ส.ส.ท. เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น จากผู้แทนโดยชอบธรรมตามกฎหมายของท่านในกรณีที่ท่านเป็นผู้เยาว์ จากหน่วยงานหรือผู้แทนหน่วยงานของท่านกรณีที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรมในฐานะตัวแทนของหน่วยงาน จากผู้ให้บริการเกี่ยวกับการสรรหาหรือรับสมัครงาน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังหมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่ ส.ส.ท. ดังนั้น ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามประกาศนี้หรือประกาศของกิจกรรม ตามแต่กรณี ให้บุคคลดังกล่าวทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลนั้นหากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่ ส.ส.ท.
ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของ ส.ส.ท. อาจเป็นผลให้ ส.ส.ท. ไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
คุกกี้
ส.ส.ท. เก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของ ส.ส.ท. เช่น www.tpa.or.th หรือบนอุปกรณ์ของท่านตามแต่บริการที่ท่านใช้งาน ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของ ส.ส.ท. และเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของ ส.ส.ท. และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของ ส.ส.ท. ให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของท่าน
ส.ส.ท. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บุคคลอื่นทราบ ดังนี้
- ผู้ให้บริการนำเข้าข้อมูล (Data entry service providers)
- ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ตรวจประเมิน วิทยากร อาจารย์ และ/หรือ ผู้ตรวจสอบบัญชีภายนอก
- ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม เช่น ผู้ให้บริการด้านการบริหาร หรือด้านการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับกิจการของ ส.ส.ท. เช่น การจัดงานสัมมนา การประชุม การฝึกอบรม ทัศนศึกษา การเรียนการสอน การทดสอบ
- เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง กรณีจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่
- บุคคลภายนอกซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายงานข้อมูล หรือผู้ให้บริการจัดหางาน ในกรณีที่การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการรับสมัครและคัดเลือกพนักงานเข้าทำงาน และ/หรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับสมัครงานของ ส.ส.ท.
บุคคลที่สามมีสิทธิในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในสัญญาที่ทำกับ ส.ส.ท. เท่านั้น โดยข้อกำหนดส่วนหนึ่งของสัญญาที่ ส.ส.ท. ทำกับบุคคลที่สามเหล่านี้กำหนดให้บุคคลดังกล่าวต้องปฏิบัติตามกฎหมายและประกาศใด ๆ ตามที่ ส.ส.ท. กำหนด และบุคคลเหล่านี้จะต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้เกิดความมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองและปลอดภัย
การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
- ส.ส.ท. อาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บุคคลอื่นในต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่าง ส.ส.ท. กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่านหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
- ส.ส.ท. อาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่ ส.ส.ท. จะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
- ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ส.ส.ท. จะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามกฎหมาย รวมถึง ส.ส.ท. จะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
- ส.ส.ท. จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน ส.ส.ท. จะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี
- ส.ส.ท. จัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
- กรณีที่ ส.ส.ท. ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน ส.ส.ท. จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอมและ ส.ส.ท. ดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดี ส.ส.ท. จะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้ ส.ส.ท. สามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้
มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
- ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ ส.ส.ท. และ ส.ส.ท. ได้นำมาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึงการใช้การเปลี่ยนแปลง หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด โดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
- ส.ส.ท. จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- ท่านสามารถขอเข้าถึง ขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ส.ส.ท. กำหนด ณ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ส.ส.ท. อาจปฏิเสธคำขอของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามคำสั่งศาล
- ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับ ส.ส.ท. ได้ตลอดระยะเวลาที่ ส.ส.ท. จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- ท่านสามารถขอแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ และทำให้ข้อมูลของท่านเป็นปัจจุบันได้
- ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
- คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน
- ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- ร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ ส.ส.ท. หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของ ส.ส.ท. หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- ท่านสามารถขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่เป็นกรณีที่ ส.ส.ท. ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว
ทั้งนี้ ส.ส.ท. จะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านต่อไป และสิทธิตามที่กล่าวมาข้างต้น เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
การเปลี่ยนแปลงประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ส.ส.ท. จะทำการพิจารณาทบทวนประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ส.ส.ท. จะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการปรับข้อมูลให้เป็นปัจจุบันลงในเว็บไซต์ของ ส.ส.ท. โดยเร็วที่สุด
- สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น)
- สถานที่ติดต่อ ส.ส.ท. สำนักงานสาขาพัฒนาการ: 534/4 ซอยพัฒนาการ 18 ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง 10250 โทร. 02-717-3000
- Website: www.tpa.or.th
แบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ส.ส.ท. จัดให้มีแบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ขอเพิกถอนความยินยอม ขอโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงขอให้แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ เป็นต้น
ช่องทางการส่งแบบคำร้องฯ
-
ส่ง ณ ที่ทำการ ส.ส.ท. โดยติดต่อที่ฝ่ายหรือหน่วยงานที่ท่านใช้บริการ/หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้ หรือติดต่อที่จุดบริการ/ประชาสัมพันธ์ส่วนกลาง
ดูรายละเอียดการติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ ของ ส.ส.ท. ได้ที่: << Click >>
ดาวน์โหลดแบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (PDF) : << Click >>
- เขียนแบบคำร้องผ่านทางเว็บไซต์ << Click >>