Q&A คอร์สภาษาญี่ปุ่น

โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น)
School of Language & Culture, Technology Promotion Association (Thailand-Japan)



คำถามเกี่ยวกับโรงเรียน

คอร์สภาษาญี่ปุ่นของ ส.ส.ท. มีคอร์สอะไรบ้าง

คอร์สเรียนเป็นกลุ่ม มีให้เลือกตามระดับชั้น โดยมีคอร์สเร่งรัดวันธรรมดา (เรียนวันละ 4 ชั่วโมง) คอร์สปกติตอนเย็น (เรียนสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 ชั่วโมง) คอร์สปกติวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ (เรียนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 4 ชั่วโมง)

คอร์สเรียนส่วนตัว สามารถกำหนดตารางสอนได้ตามวันเวลาที่ต้องการเรียน

ส.ส.ท. มีจุดเด่นที่แตกต่างจากโรงเรียนอื่นอย่างไร

คอร์สของ ส.ส.ท. ปกติแล้ว จะสอนโดยอาจารย์ชาวไทยและอาจารย์ชาวญี่ปุ่นควบคู่กัน อาจารย์ชาวไทยจะอธิบายคำศัพท์และไวยากรณ์เป็นภาษาไทยและสอนให้ฝึกใช้รูปประโยคพื้นฐาน ส่วนอาจารย์ชาวญี่ปุ่นจะสอนคันจิ ฝึกการฟัง และการสนทนากับไวยากรณ์ที่ได้เรียนไปแล้ว

จะลงเรียนเมื่อไรก็ได้ใช่ไหม

คอร์สเรียนเป็นกลุ่มจะกำหนดรอบเรียน โดยมีผู้เรียนขั้นต่ำ 8 คนขึ้นไป สามารถดูวันเปิดเรียนได้ที่เว็บไซต์ http://www.tpa.or.th/slc/download.php?file=brochure

ส่วนคอร์สเรียนตัวต่อตัว ผู้เรียนสามารถเริ่มเรียนได้ตามวันเวลาที่ต้องการ โดยกรอกความต้องการผู้เรียนในแบบฟอร์ม https://www.tpa.or.th/slc/download/C-Private-Japanese.pdf

ส่งแบบฟอร์มที่เมล xtracourse@tpa.or.th

สามารถเข้าดูการเรียนการสอนได้หรือไม่

ณ ปัจจุบันยังไม่สามารถให้เข้าดูการเรียนการสอนคอร์สภาษาญี่ปุ่นได้

มีแนะแนวเรียนต่อญี่ปุ่นหรือเปล่า

ทางเรามีบริการรับสมัครผู้เรียนไปที่ ABK COLLEGE สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นของ ABK (เขต Bunkyo กรุงโตเกียว) ได้ สามารถดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ http://www.tpa.or.th/slc/abk.php

คำถามเกี่ยวกับคอร์สกลุ่มและคอร์สตัวต่อตัว

ระหว่างเรียนเป็นกลุ่มกับเรียนตัวต่อตัว อันไหนดีกว่ากัน

ทั้งสองแบบต่างก็มีข้อดีต่างกัน

ถ้าเรียนเป็นกลุ่ม ก็จะได้ฝึกสนทนาและทำกิจกรรมกับเพื่อนร่วมชั้น การแข่งขันกับเพื่อนจะสร้างแรงกระตุ้นให้ได้เรียนรู้ดียิ่งขึ้น และในขณะเดียวกันก็ยังปรึกษาหรือช่วยกันสอนเองได้ แต่หากเลือกเรียนคอร์สตัวต่อตัว จะสามารถปรับความเร็วตามระดับความเข้าใจของผู้เรียน และยังขอให้อาจารย์เน้นจุดที่ไม่เข้าใจเป็นพิเศษได้

ถ้าลงเรียนคอร์สตัวต่อตัวและคอร์สกลุ่ม (ยกเว้นคอร์ส JB, JI) สามารถขอให้ทางโรงเรียนจัดตารางสอนที่ตรงกับความต้องการของผู้เรียนได้

คอร์สกลุ่ม 1 ห้องเรียนรับผู้เรียนได้สูงสุดกี่คน

ผู้เรียนคอร์สกลุ่ม 1 ห้องรับประมาณ 8 - 15 คน

เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมานิดหน่อย จะเข้าคอร์สไหนดี

ขอแนะนำให้เข้ามาสอบวัดระดับที่โรงเรียนก่อนเพื่อให้เจ้าหน้าที่แนะนำคอร์สที่เหมาะกับระดับความรู้ของผู้เรียนจากผลสอบได้

ผู้เรียนติดต่อสอบได้ทุกวันตามรอบสอบ
วันจันทร์ - วันพฤหัสบดี เวลา 14:00 น. หรือ 18:30 น.
วันศุกร์ - วันอาทิตย์ เวลา 14:00 น.
ใช้เวลาสอบประมาณ 30 นาที ถึง 1.45 ชั่วโมง แล้วแต่ระดับการเรียน มีค่าสอบ 100 บาท กรุณาจองเวลาล่วงหน้า

คำถามเกี่ยวกับตำรา, การเรียนตัวอักษร, ชั่วโมงเรียน

เรียนด้วยตำราอะไร

คอร์สชั้นต้นใช้ตำรา “มินนะ โนะ นิฮงโกะ” หรือ “มะรุโกะโตะ” นอกจากนี้ก็ยังมีตำราอื่น ๆ ที่เลือกให้ตรงกับวัตถุประสงค์และระดับของผู้เรียน

ตำรา “มินนะ โนะ นิฮงโกะ” กับ “มะรุโกะโตะ” ต่างกันอย่างไร เล่มไหนดีกว่ากัน

ความแตกต่างของตำราทั้งสองเล่มมีดังนี้

“มินนะ โนะ นิฮงโกะ” แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนไวยากรณ์อย่างจริงจัง และอนาคตมีเป้าหมายที่จะสอบ JLPT (การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น) หรือมีโครงการจะไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น

“มะรุโกะโตะ” แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนเน้นสนทนาอย่างสนุกสนาน ผู้ที่ต้องการไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น หรือต้องการพูดคุยกับชาวญี่ปุ่นในที่ทำงานแบบง่าย ๆ

การเรียนตัวอักษร (ฮิรางานะ, คาตาคานะ, คันจิ) จำเป็นหรือไม่

ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องเรียนตัวอักษรก็ได้ แต่ในระยะยาวก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนอย่างจริงจัง ถ้าสามารถอ่านเขียนตัวอักษรได้ ก็จะสามารถต่อยอดไปได้เรื่อย ๆ และยังช่วยในเรื่องการออกเสียงที่ถูกต้องอีกด้วย

ถ้าเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ควรเรียนอย่างน้อยกี่ชั่วโมง

แนะนำให้เริ่มต้นเรียนประมาณ 50 ชั่วโมง ซึ่งจะได้เรียนตัวอักษรคานะ และเนื้อหาเบื้องต้น

อยากทดลองเรียนสัก 30 ชั่วโมง จะพูดได้ขนาดไหน

ถ้าเรียนตัวอักษรด้วย จะได้อ่านและเขียนตัวอักษรฮิรางานะ คาตาคานะ และเรียนรู้สำนวนทักทาย แนะนำตัวเองและตัวเลข แต่ถ้าไม่ได้เรียนตัวอักษร นอกจากเรียนรู้สำนวนข้างต้นแล้ว จะสามารถถามทาง บอกวันและเวลาได้

อยากพูดได้ต้องเรียนกี่ชั่วโมง แล้วต้องเรียนกี่ชั่วโมงถึงจะสอบผ่าน JLPT

เนื่องจากเงื่อนไขในการเรียนของแต่ละคนต่างกัน อาจแนะนำเป็นเกณฑ์คร่าว ๆ ได้เท่านั้นว่า ถ้าเรียนสนทนาพื้นฐานในชีวิตประจำวัน ให้เรียน 270 – 300 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเกณฑ์ในการสอบ JLPT N5

หลังจากนั้น ถ้าต้องการสอบระดับ N4 จะต้องเรียนเพิ่มอีก 250 – 280 ชั่วโมง และถ้าต้องการสอบระดับ N3 จะต้องเรียนเพิ่มอีก 280 – 300 ชั่วโมง (การสอบ JLPT แบ่งเป็น 5 ระดับ ตั้งแต่ระดับ N5 – N1)

คำถามเกี่ยวกับการเรียนและอาจารย์

ถ้าเรียนกับอาจารย์ญี่ปุ่นอย่างเดียวจะเก่งขึ้นมั้ย

ไม่สามารถฟันธงได้ว่าเรียนกับอาจารย์ชาวญี่ปุ่นอย่างเดียวแล้วจะดี จริงอยู่ถ้าหากว่าคุ้นเคยกับสำเนียงของคนญี่ปุ่นแล้ว ความสามารถในการพูดและฟังจะดีขึ้น แต่ถ้าต้องการทำความเข้าใจไวยากรณ์อย่างละเอียดก็ควรจะเรียนควบคู่กับอาจารย์ชาวไทยด้วย

ในชั่วโมงเรียนอย่างเช่น คอร์สตัวต่อตัว สามารถให้ครูอธิบายเป็นภาษาอังกฤษได้หรือไม่

ได้ สามารถขอเรียนกับอาจารย์ที่พูดภาษาอังกฤษได้

อาจารย์ชาวญี่ปุ่นสามารถพูดภาษาไทยได้หรือไม่ ในห้องเรียนพูดเป็นภาษาไทยกันไหม

อาจารย์ที่สามารถพูดภาษาไทยได้ก็มี แต่ในชั่วโมงเรียน อาจารย์จะพยายามพูดภาษาญี่ปุ่นให้มากที่สุด ถ้าต้องการเรียนกับอาจารย์ชาวญี่ปุ่นที่อธิบายเป็นภาษาไทย ก็สามารถขอเรียน (ตัวต่อตัวหรือคอร์สกลุ่ม) กับอาจารย์ที่พูดภาษาไทยเก่งได้

ถ้าขาดเรียนไปจะมีการสอนเสริมหรือมีชีทเรียนให้หรือไม่

ณ ปัจจุบันยังไม่มีการสอนเสริมให้ในกรณีที่นักเรียนขาดเรียน แต่ถ้าในวันที่ขาดเรียน อาจารย์มีแจกชีท ก็จะแจกให้ในคาบถัดมา

คำถามเกี่ยวกับคอร์สบริษัท

1 สัปดาห์เรียนกี่วัน กี่ชั่วโมงดี

ขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการเรียน แต่ถ้าอยากเรียนให้ได้ประสิทธิภาพ แนะนำให้เรียนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 ชั่วโมง

จะได้เรียนคำศัพท์และสำนวนที่ใช้ในที่ทำงานหรือเปล่า

ถ้าเป็นชั้นต้นมาก ๆ จะต้องเรียนเนื้อหาพื้นฐานอย่างน้อย 200 ชั่วโมงก่อน จากนั้นจึงจะค่อย ๆ เรียนรู้คำศัพท์และสำนวนเฉพาะทางได้

ถ้าขอเรียนที่บริษัท อาจารย์สามารถไปสอนได้ทุกที่ไหม

ทางเรามีประสบการณ์การสอนที่บริษัททั้งในเขตกรุงเทพและจังหวัดใกล้เคียง เช่น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดชลบุรี (นิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้) ฯลฯ (เราส่งอาจารย์ไปสอนที่บริษัทปีละกว่า 100 บริษัท)

คอร์สสำหรับบริษัท นอกจากที่จะส่งอาจารย์ไปสอนที่บริษัทแล้ว บริษัทก็สามารถส่งพนักงานมาเรียนที่โรงเรียนภาษาฯ สุขุมวิท 29 ได้เช่นเดียวกัน


หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่น สามารถติดต่อที่เมล tpaschool@tpa.or.th