อาหารเป็นพิษ มีอาการอย่างไร? พร้อมวิธีแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน

อาหารเป็นพิษ (Food poisoning) คือภาวะที่เกิดจากรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง สามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย
อาหารเป็นพิษเป็นปัญหาสุขภาพที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยมีสาเหตุมาจากการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อโรค สารพิษ หรือสิ่งสกปรก ซึ่งภาวะปวดท้อง อาหารเป็นพิษอาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารและสุขภาพโดยรวมอย่างรุนแรง การป้องกันและรับมือกับภาวะนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรใส่ใจ ในบทความนี้จึงได้รวบรวมวิธีรักษาอาการอาหารเป็นพิษ พร้อมตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาการอาหารเป็นพิษแต่ไม่ท้องเสียให้ทุกคนได้ทราบข้อมูลเบื้องต้น หากเกิดอาการอาหารเป็นพิษและอาเจียนขึ้น
อาหารเป็นพิษมีอาการอย่างไร? แบบไหนถึงเรียกว่าอาหารเป็นพิษ
โรคอาหารเป็นพิษอาจมีอาการที่แตกต่างกันไปตามชนิดของเชื้อโรคและปริมาณสารพิษที่ได้รับ อย่างไรก็ตาม อาการที่พบบ่อยของภาวะอาหารเป็นพิษ มีดังนี้
-
คลื่นไส้และอาเจียน อาจเกิดขึ้นทันทีหลังรับประทานอาหารที่ปนเปื้อน
-
ปวดท้องหรือปวดเกร็งในช่องท้อง โดยเฉพาะบริเวณลำไส้
-
ท้องเสียที่อาจมีลักษณะเหลว มูก หรือเลือดปน
-
มีไข้ ซึ่งอาจสูงกว่า 38.5°C ร่วมกับอาการหนาวสั่น
-
รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง หรือเวียนศีรษะ
-
มีอาการขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง กระหายน้ำ ปัสสาวะน้อย หรือปัสสาวะสีเข้ม
-
ในบางกรณีอาจมีอาการปวดศีรษะ หรือปวดตามเนื้อตัวร่วมด้วย
สาเหตุของอาการอาหารเป็นพิษที่คุณอาจะไม่รู้!

อาหารเป็นพิษเกิดจากการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อโรค สารพิษ หรือสิ่งปนเปื้อนอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารและสุขภาพ โดยปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้แก่
-
เชื้อแบคทีเรีย เช่น ซาลโมเนลลา (Salmonella) อีโคไล (E. coli) แคมไพโลแบคเตอร์ (Campylobacter) ซึ่งพบได้ในเนื้อสัตว์ดิบ ไข่ดิบ และนมที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อ
-
เชื้อไวรัส เช่น โนโรไวรัส (Norovirus) และโรตาไวรัส (Rotavirus) ที่สามารถปนเปื้อนในน้ำดื่ม อาหาร หรือพื้นผิวที่สัมผัส
-
สารพิษจากเชื้อโรค เช่น คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) ที่สร้างสารพิษในอาหารกระป๋องหรืออาหารที่เก็บไม่ถูกวิธี อาจทำให้มีอาการอาหารเป็นพิษได้
-
พยาธิและปรสิต เช่น พยาธิตัวกลม (Roundworms) หรือพยาธิตืดหมูในอาหารดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ
-
เชื้อรา เช่น อะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ที่เกิดจากเชื้อราบนถั่ว ธัญพืช หรือข้าวสารที่เก็บในสภาพชื้น
-
สารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลงที่ตกค้างในผักและผลไม้ หรือสารเคมีในอาหารทะเล เช่น สารพิษไซโตทอกซินจากหอยที่อยู่ในน้ำปนเปื้อน อาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษแต่ถ่ายไม่ออกได้
-
สารพิษธรรมชาติในอาหาร เช่น สารพิษในมันสำปะหลังดิบ ถั่วลิสงที่ขึ้นรา หรือเห็ดพิษ
-
การปนเปื้อนข้าม เช่น ใช้เขียงหรือมีดเดียวกันสำหรับอาหารดิบและอาหารปรุงสุกโดยไม่ล้างให้สะอาด
-
การเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม เช่น อาหารที่ปล่อยทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องเป็นเวลานาน ทำให้เชื้อโรคเติบโต
-
น้ำที่ปนเปื้อน เช่น น้ำดื่มที่ไม่ได้ผ่านการกรองหรือฆ่าเชื้อ
-
การสัมผัสโดยตรง เช่น พนักงานที่เตรียมอาหารไม่ล้างมือหรือมีแผลเปิดในขณะสัมผัสอาหาร
-
อาหารเก่าหรือหมดอายุ ที่เน่าเสียหรือปนเปื้อนเชื้อโรคจากการเก็บรักษาที่ไม่ถูกวิธีก็เป็นสาเหตุให้เกิดอาหารเป็นพิษและอาการพะอืดพะอมได้
วิธีรักษาอาการอาหารเป็นพิษด้วยตัวเองเบื้องต้น
อาหารเป็นพิษควรได้รับการรักษาเบื้องต้นตามอาการ พร้อมทั้งดูแลตัวเองเพื่อฟื้นฟูสุขภาพให้แข็งแรง โดยสามารถทำได้ดังนี้
-
ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำจากการอาเจียนหรือท้องเสีย
-
จิบน้ำเกลือแร่ขณะอาหารเป็นพิษเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
-
หลีกเลี่ยงอาหารที่ย่อยยาก เช่น อาหารมัน อาหารรสจัด หรืออาหารดิบในช่วงที่ยังมีอาการ
-
พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวจากอาการอ่อนเพลีย
-
พบแพทย์ทันที หากอาการไม่ดีขึ้นใน 24-48 ชั่วโมง หรือมีสัญญาณรุนแรง เช่น อาเจียนหรือท้องเสียจนขาดน้ำมาก มีไข้สูง หรืออุจจาระมีเลือดปน
-
รับประทานยาบรรเทาอาการ เช่น
-
ยาแก้คลื่นไส้และอาหารเป็นพิษ เช่น Domperidone หรือ Metoclopramide
-
ยาแก้ท้องเสีย เช่น Loperamide (ควรใช้เฉพาะกรณีที่ไม่มีไข้หรืออุจจาระมีเลือดปน)
-
ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น Norfloxacin หรือ Ciprofloxacin (ควรรับประทานตามคำแนะนำของแพทย์)
อาหารเป็นพิษแต่ไม่ท้องเสียทำยังไงดี?

หากมีอาการอาการอาหารเป็นพิษแต่ไม่ท้องเสีย ควรดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม หรือโจ๊ก และพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายจากอาการอ่อนเพลีย นอกจากนี้ หากมีอาการคลื่นไส้เพิ่มเติม สามารถรับประทานยาแก้คลื่นไส้ได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาด้วย
อาหารเป็นพิษกี่วันถึงจะหาย?
อาการอาหารเป็นพิษโดยทั่วไปอาจใช้เวลา 1-3 วันในการฟื้นตัว ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อโรคและความรุนแรงของอาการ หากดูแลตัวเองดี อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายในช่วงเวลาดังกล่าว แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้นหลังจากนั้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการดูแลเพิ่มเติม
อาหารเป็นพิษ อาการอันตรายที่มากับอาหาร
อาหารเป็นพิษเป็นปัญหาสุขภาพที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการบริโภคอาหาร หรือเครื่องดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อโรค สารพิษ หรือสิ่งสกปรก ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารและสุขภาพร่างกาย หากปล่อยทิ้งไว้หรือดูแลไม่ถูกวิธี อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น การขาดน้ำรุนแรง ภาวะไข้สูง หรือการติดเชื้อที่ลุกลาม ดังนั้นการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม และการสังเกตอาการที่ผิดปกติ จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงจากอาการอาหารเป็นพิษ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
- ตอนที่ 1 : อาหารเป็นพิษ มีอาการอย่างไร? พร้อมวิธีแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน