ธนงทวย

ผู้เขียน : ธนงทวย

อัพเดท: 19 ม.ค. 2025 18.58 น. บทความนี้มีผู้ชม: 34 ครั้ง

ส่งของไปญี่ปุ่นง่าย ๆ ด้วยบริการครบวงจร ทั้งค่าส่งของจากไทยไปญี่ปุ่นราคาเริ่มต้นเบา ๆ ไม่ว่าจะส่งของเพื่อธุรกิจหรือของใช้ส่วนตัว พร้อมจัดส่งไวถึงปลายทางได้อย่างมั่นใจ


ส่งของไปญี่ปุ่น ง่ายนิดเดียว! จัดส่งถึงมือปลายทางแบบรวดเร็ว

ส่งของไปญี่ปุ่น

ส่งของไปญี่ปุ่นง่าย ๆ ด้วยบริการครบวงจร ทั้งค่าส่งของจากไทยไปญี่ปุ่นราคาเริ่มต้นเบา ๆ ไม่ว่าจะส่งของเพื่อธุรกิจหรือของใช้ส่วนตัว พร้อมจัดส่งไวถึงปลายทางได้อย่างมั่นใจ

อยากส่งของขวัญไปเซอร์ไพรส์เพื่อนที่ญี่ปุ่น หรือจะส่งสินค้าไปขายที่นั่น แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง? ส่งของไปญี่ปุ่น อาจดูเหมือนเรื่องยุ่งยาก แต่ถ้ารู้เคล็ดลับและเลือกบริการให้เหมาะสม ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะในปัจจุบันมีบริการขนส่งพัสดุไปญี่ปุ่นที่หลากหลายและสะดวกสบายมากขึ้น

บทความนี้จะพาทุกคนไปไขข้อข้องใจทุกอย่างเกี่ยวกับการส่งของไปญี่ปุ่น ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมของ วิธีเลือกช่องทางขนส่ง ไปจนถึงค่าส่งของไปญี่ปุ่นที่ต้องเตรียมพร้อม ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดส่ง หรือผู้มีประสบการณ์แล้ว ก็สามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างแน่นอน พร้อมแล้วไปลุยกันเลย!


ส่งของไปญี่ปุ่น ง่ายนิดเดียว! เลือกช่องทางไหนดี?

การส่งของไปประเทศญี่ปุ่นมีหลากหลายช่องทางให้เลือกใช้ แต่ละช่องทางมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า ปริมาณ และความเร่งด่วนในการส่งมอบ มาดูกันว่ามีช่องทางไหนบ้าง และแต่ละช่องทางเหมาะกับการส่งอะไร

ช่องทางการส่งของไปญี่ปุ่น

เลือกช่องทางไหนดี?


ส่งของไปญี่ปุ่น ค่าใช้จ่ายที่ควรรู้

การส่งของไปญี่ปุ่นอาจดูยุ่งยาก แต่ก็สะดวกสบายกว่าที่คิด ค่าใช้จ่ายในการส่งของไปประเทศญี่ปุ่นขึ้นอยู่กับค่าจัดส่งและภาษีต่าง ๆ ดังนี้

  1. ค่าจัดส่งในการส่งของไปญี่ปุ่น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่
    • น้ำหนักและขนาดของสินค้า: สินค้าที่มีน้ำหนักและขนาดใหญ่จะมีค่าจัดส่งสูงกว่าสินค้าที่มีขนาดเล็ก
    • ระยะทาง: ระยะทางจากจุดส่งในประเทศไทยไปยังปลายทางในญี่ปุ่นมีผลต่อค่าจัดส่ง
    • ประเภทของบริการ: บริการขนส่งของจากไทยไปญี่ปุ่นแบบด่วน จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าบริการขนส่งปกติ
    • บริษัทขนส่ง: แต่ละบริษัทจะมีอัตราค่าบริการแตกต่างกันไป
  1. ภาษี: การส่งของไปญี่ปุ่นอาจมีการเรียกเก็บภาษี ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า มูลค่าของสินค้า และกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น
    • สินค้าส่วนบุคคล: ส่งของไปประเทศญี่ปุ่น หากเป็นสินค้าส่วนบุคคล เช่น ของขวัญ อาจมีข้อยกเว้นภาษีในปริมาณที่เหมาะสม แต่หากมีมูลค่าสูงเกินไป อาจต้องเสียภาษี
    • สินค้าเพื่อการค้า: สินค้าเพื่อการค้าจะต้องเสียภาษีนำเข้าตามอัตราที่กำหนด ซึ่งแตกต่างกันไปตามประเภทของสินค้า

ค่าส่งพัสดุไปญี่ปุ่น หากสินค้ามีมูลค่าต่ำกว่า 10,000 เยน หรือประมาณ 2,200 บาท ไม่ต้องเสียภาษี แต่หากสินค้ามีมูลค่าเกินจะเก็บภาษีในอัตราที่จำแนกแต่ละประเภท เช่น เสื้อผ้าเสียภาษีนำเข้า 20%, เครื่องดื่มชา กาแฟ เสียภาษีนำเข้า 15% ของชำร่วยหรือสินค้าอุปโภคเสียภาษีนำเข้า 3% เป็นต้น

สรุปค่าจัดส่งและภาษีเมื่อส่งของไปญี่ปุ่น มีความซับซ้อนและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย การวางแผนและเตรียมข้อมูลให้พร้อมก่อนส่งของจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้


ส่งของไปญี่ปุ่น ใช้ระยะเวลานานแค่ไหน? มาดูกัน!

ส่งของจากไทยไปญี่ปุ่น

ระยะเวลาในการส่งของไปญี่ปุ่นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ช่องทางการขนส่ง ประเภทของสินค้า ช่วงเวลา และระยะทางจุดหมายปลายทาง โดยทั่วไปแล้ว จะใช้เวลาประมาณดังนี้

ช่องทางการขนส่งของไปต่างประเทศญี่ปุ่นและระยะเวลาโดยประมาณ ดังนี้

  1. ทางอากาศ (Air Freight):
    • รวดเร็วที่สุด: เหมาะสำหรับสินค้าต้องการความรวดเร็ว เช่น ของสด สินค้าแฟชั่น หรือชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
    • ระยะเวลา: ประมาณ 2-5 วันทำการ (ไม่รวมเวลาดำเนินการศุลกากร)
  1. ทางทะเล (Sea Freight):
    • ประหยัดที่สุด: เหมาะสำหรับสินค้ามีน้ำหนักมากและไม่เร่งด่วน
    • ระยะเวลา: ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน ขึ้นอยู่กับท่าเรือต้นทางและปลายทาง
  1. บริการไปรษณีย์ (Postal Service):
    • สะดวก รวดเร็ว: เหมาะสำหรับส่งพัสดุไปญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็ก
    • ระยะเวลา: ประมาณ 3-10 วันทำการ ขึ้นอยู่กับบริการที่เลือก
  1. บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ (International Express):
    • รวดเร็ว มีบริการเสริม: เหมาะสำหรับสินค้ามีมูลค่าสูง หรือต้องการความปลอดภัย
    • ระยะเวลา: ประมาณ 2-4 วันทำการ (ไม่รวมเวลาดำเนินการศุลกากร)

สิ่งของต้องห้ามส่งไปญี่ปุ่น รู้ก่อนส่ง เพื่อความปลอดภัย

การส่งของไปญี่ปุ่นอาจมีข้อจำกัดบางประเภท เพื่อป้องกันอันตรายต่อสุขภาพ สัตว์ และสิ่งแวดล้อมของประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นก่อนจะส่งของไปประเทศญี่ปุ่น ควรศึกษาสิ่งของต้องห้ามนำเข้าให้เข้าใจก่อน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้

สิ่งของต้องห้ามส่งไปญี่ปุ่นโดยทั่วไป ได้แก่


สรุปส่งของไปญี่ปุ่น ง่ายนิดเดียว!

ส่งของไปญี่ปุ่นไม่ยุ่งยาก หากเข้าใจขั้นตอนและกฎระเบียบ ก่อนส่งต้องเช็กลิสต์สิ่งของต้องห้ามอย่างละเอียด เพราะญี่ปุ่นมีกฎหมายที่เข้มงวด ช่องทางขนส่งของไทยไปญี่ปุ่น มีทั้งทางอากาศรวดเร็วค่าใช้จ่ายสูง ทางทะเลประหยัดใช้เวลานาน หรือบริการไปรษณีย์ที่สะดวก แต่ละช่องทางมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ควรเลือกให้เหมาะกับประเภทของสินค้าหรือความเร่งด่วน รวมทั้งอย่าลืมเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อจะได้ส่งของไปประเทศญี่ปุ่นได้อย่างราบรื่น


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที