การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการเติมเต็มผิวในบริเวณที่มีปัญหาซูบตอบ มีร่องลึก หรือในจุดที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มด้วยวิธีการใช้สารประเภท HA ทำให้ผิวดูเต็มตึงกระชับขึ้น
นาทีนี้ต้องยกให้ฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่มาแรงและถูกพูดถึงในทุก ๆ แพลตฟอร์มในโลกโซเชียล รวมไปถึงการบอกต่อกันปากต่อปาก เพราะนี่คือหนึ่งในหัตถการที่ทำให้ใบหน้าของเราแลดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ ปรับตำแหน่งรูปหน้าให้ดูสมส่วนกันมากยิ่งขึ้น ด้วยตัวสารที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติและยังเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้เร็ว ไม่ต้องรอนาน และถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์บทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น พร้อมข้อมูลเบื้องต้นที่ควรรู้ก่อนฉีด
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ การแก้ไขปรับรูปหน้าด้วยการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “HA” เข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการปรับเปลี่ยน โดยเฉพาะในบริเวณที่มีร่องลึกจากโครงสร้างผิวที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งสารชนิดนี้จะเข้าไปทดแทนกระดูกและไขมันที่หายไปทำให้ผิวในบริเวณนั้นดูเต็มขึ้น มีความเรียบเนียน เต่งตึง หรือปรับรูปหน้าให้เข้ากันและดูสมส่วนขึ้น นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ยังช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นได้อีกด้วย เพราะตัวสารมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดี
ยังมีหลายคนที่สงสัยว่าเราฉีดฟิลเลอร์ไปเพื่ออะไร ? ขออธิบายแบบนี้ว่าผิวของเราเมื่ออายุมากขึ้นกลไกการทำงานที่สำคัญอย่างคอลลาเจนหรืออีลาสตินใต้ชั้นผิวมีประสิทธิภาพลดลง ส่งผลให้ความยืดหยุ่น หรือผิวที่เคยแน่นกระชับก็เริ่มหย่อนคล้อย ดูเป็นร่องลึก ทั้งยังมีริ้วรอยร่วมด้วย และเมื่อเราฉีดสารเติมเต็มอย่าง HA Filler เข้าไป ตัวสารชนิดนี้ก็จะเข้าไปเติมเต็มร่องลึกตามพื้นผิวบริเวณต่าง ๆ ให้ดูเรียบเนียนขึ้น ส่งผลให้ผิวดูตึง กระชับ จากผิวที่ดูมีอายุก็จะดูอ่อนเยาว์ลงนั่นเอง
ซึ่งนอกจากการเติมร่องลึกแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ยังช่วยปรับใบหน้าให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสมอย่างเช่น การฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อเสริมรูปคางให้ยาวขึ้น หรือการฉีดฟิลเลอร์ขมับเพื่อแก้ปัญหาขมับตอบ รวมไปถึงการฉีดฟิลเลอรปากเพื่อปรับเปลี่ยนรูปทรงปากตามเทรนความงามในปัจจุบัน เป็นต้น
การฉีดฟิลเลอร์สามารถทำได้แทบจะทุกตำแหน่งบนใบหน้า โดยเฉพาะในจุดที่มีปัญหาร่องลึก แต่ตำแหน่งยอดฮิตที่คนมักเข้ามาฉีดเติมเต็มกันนั่นก็คือ
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการแก้ไขปัญหาร่องลึกใต้ตา ใต้ตาหมองคล้ำ ถุงใต้ตา เบ้าตาลึก โหล หรือปัญหาใต้ตาที่เกิดจากการยุบตัวลงของชั้นกระดูกและไขมันจนทำให้ผิวใต้ตาหย่อนคล้อย ดูโทรมหรือมีอายุ ซึ่งหลังจากที่ฉีดใต้ตาไปแล้วผิวใต้ตาก็จะดูสดใส มีชีวิตชีวาขึ้น สำหรับ filler ใต้ตาจะฉีดอยู่ที่ 1-2 cc แต่สำหรับใครที่มีปัญหาใต้ตาค่อนข้างลึกแพทย์จะประเมินอยู่ที่ 3-4 cc
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนรูปทรงปากตามเทรนความงามแต่กลัวการผ่าตัดฟิลเลอร์ปากเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มากเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะสามารถฉีดปากสายฝอ หรือฉีดปากกระจับ รวมไปถึงการยกมุมปากฉีดปากตามสไตล์เกาหลีได้แล้ว ยังช่วยแก้ริ้วรอยร่องปาก หรือปากแห้งได้ด้วย และฟิลเลอรปากจะอยู่ที่ 1-2 cc แต่ถ้าหากใครที่มีเนื้อปากอยู่แล้วต้องการปรับให้เป็นทรงสามารถฉีดปาก 1 cc ได้
การฉีดฟีลเลอร์คางจะช่วยแก้ไขปัญหารูปคาง เช่น คางสั้น คางตัด คางไม่เท่ากัน หรือคางเบี้ยว ซึ่งหลังจากฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแล้วก็จะทำให้รูปหน้าดูสมส่วนกันมากยิ่งขึ้น ใบหน้าเรียวสวยโดยไม่ต้องง้อวิธีการผ่าตัดเลยแม้แต่ขั้นตอนเดียว โดยในบริเวณคางแพทย์มักจะประเมินเริ่มต้นที่ 1 cc หรือใครที่มีปัญหาคางสั้น ต้องการเพิ่มความยาวคางแพทย์ก็จะประเมิน cc เพิ่มขึ้นตามความเหมาะสม
ฟิลเลอร์หน้าผากเป็นการแก้ไขปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ มีริ้วรอย ร่องลึกหรือรอยบุ๋ม และเมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแล้วจะช่วยเพิ่มความเรียบเนียนให้กับพื้นผิวบริเวณหน้าผาก ทั้งยังช่วยเพิ่มความโหนกนูนของหน้าผากได้ดี ทำให้หน้าผากดูมีมิติมากยิ่งขึ้นด้วย บริเวณหน้าผากจะใช้สารเติมเต็มอยู่ที่ประมาณ 1-2 cc
การเติมฟิลเลอร์ขมับเป็นอีกหนึ่งจุดที่ได้รับความนิยมในการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่สวยงามขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาขมับยุบ ตอบ ขมับลึก หลังฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วบริเวณขมับก็จะดูเติมขึ้น ไร้ร่องลึก บางรายมักเติมขมับเพื่อส่งเสริมด้านการค้าขาย หน้าที่การงานตามความเชื่อโบราณ ซึ่งในบริเวณนี้แพทย์จะประเมินอยู่ในปริมาณ 1-4 cc ขึ้นอยู่กับความลึกของร่องขมับ หากไม่ลึกมากอาจจะอยู่ที่ 1 cc
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นการเติมเต็มร่องลึกบริเวณแก้มจากกระดูกที่ยุบตัวลงให้ดูตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงเพราะการมีร่องแก้มทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย เวลาแสดงสีหน้าก็จะไม่เห็นเส้นหน้าแก้ม นอกจากนี้ฟิลเลอรร่องแก้มยังทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย ส่วนใหญ่ตำแหน่งนี้แพทย์จะเลือกใช้ฟิลเลอร์อยู่ที่ 1-2 cc หรือใครที่มีปัญหาร่องแก้มลึกมากอายุที่เยอะขึ้นก็จะอยู่ที่ 3-4 cc
หากฉีดฟิลเลอร์ด้วยสารเติมเต็มอย่าง Hyaluronic Acid จะมีความปลอดภัย เนื่องจากสารชนิดนี้ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเติมเต็มใต้ชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใกล้เคียงกันกับสารที่มีอยู่ในร่างกายของเราอยู่แล้ว อีกทั้งตัวสารยังสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยไม่ได้ขึ้นอยู่กับ HA Filler เพียงแค่นั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น ความชำนาญและประสบการณ์ของแพทย์ว่ามีความรู้และทักษะในการฉีดมากน้อยแค่ไหนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา แต่โดยปกติแล้วหลังฉีดอาจมีอาการบวม แดง หรือมีรอยช้ำเพียงเล็กน้อยเกิดขึ้นได้เป็นอาการปกติ ไม่ได้อันตรายและมันสามารถหายไปได้เอง
หลังฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าในตำแหน่งใดก็ตามผลลัพธ์จะอยู่ที่ 12-24 เดือน หลังจากนั้นมันจะค่อย ๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ แต่การคงอยู่ของสารขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น สภาพผิว ปริมาณที่ฉีด ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ และการดูแลตัวเองหลังฉีด
หลังฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรก แต่จะมีอาการบวมเล็กน้อยจากรอยเข็ม อาการนี้เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ปกติซึ่งมันจะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 2-3 วัน รวมไปถึงรอยช้ำจากเข็มจะดีขึ้นภายใน 7-14 วัน หลังจากฉีดไปแล้วเป็นเวลา 2 สัปดาห์ก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เต็มที่และชัดเจนขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์เป็นการเติมเต็มร่องลึกตามตำแหน่งต่าง ๆ บนใบหน้าให้ดูตื้นขึ้น ทำให้ผิวในบริเวณที่แก้ไขมีความเรียบเนียน เต่งตึงหรือดูเต็มขึ้น แต่การฉีดโบท็อกเป็นการแก้ไขริ้วรอยบนใบหน้าด้วยการเข้าไปออกฤทธิ์กับกล้ามเนื้อใต้ชั้นผิวให้เกิดการคลายตัวทำให้ริ้วรอยดูจางลง ผิวยกกระชับและเรียบเนียนขึ้น
โดยทั้งสองหัตถการนี้สามารถทำพร้อมกันได้เพราะมีกระบวนการทำงานที่แตกต่างกัน เช่น ใครมีปัญหาร่องแก้มลึกร่วมกับริ้วรอยที่หน้าผาก ก็สามารถฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มร่วมกับการฉีดโบท็อกหน้าผากได้แต่ไม่แนะนำให้ทำในจุดเดียวกัน
ฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ไขปัญหาร่องลึก ซูบตอบจากกระดูกหรือชั้นไขมันที่หายไป ด้วยการใช้สาร HA Filler เข้าไปเติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ ให้ดูเต็มขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่เข้ากัน หรือเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม แก้ไขปัญหาปากแห้ง พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดี
ในปัจจุบันก็มีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อให้เราได้เลือกใช้ไม่ว่าจะเป็น ฟิลเลอร์ juvederm , ฟิลเลอร์ restylane หรือฟิลเลอร์เกาหลี eptq และ neuramis อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเลือกยี่ห้อไหนก็ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และควรศึกษาการเช็กฟิลเลอร์แท้ก่อนใช้บริการเพื่อความปลอดภัย
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
