ปัญหาขนขึ้นไม่พึงประสงค์ เป็นเรื่องที่หลายคนกังวลใจ เพราะนอกจากจะส่งผลต่อความมั่นใจในตัวเองแล้ว ยังอาจทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่น ขนคุด ผิวหนังอักเสบ หรือแม้แต่ปัญหาเรื่องกลิ่นตัวในบริเวณที่มีขนหนาแน่น วิธีการเลเซอร์ขน จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในการกำจัดขนได้อย่างถาวร ช่วยให้ผิวเนียนเรียบ ดูสะอาดตา และมีความมั่นใจมากขึ้น
บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกเรื่องเกี่ยวกับการเลเซอร์ขน ไม่ว่าจะเป็นหลักการทำงานของเลเซอร์ขน ข้อดี-ข้อเสีย พร้อมตอบคำถามการทำเลเซอร์ขนแบบไหนดีที่สุด? รวมถึงคำแนะนำก่อนและหลังการทำเลเซอร์ เพื่อให้คุณได้ข้อมูลที่ครบถ้วนก่อนตัดสินใจทำหัตถการนี้
การทำเลเซอร์ขนเป็นวิธีการกำจัดขนโดยใช้ พลังงานแสงเลเซอร์ ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจงยิงเข้าสู่ผิวหนัง พลังงานนี้จะถูกดูดซึมโดยเม็ดสีเมลานินในรากขน ทำให้เกิดความร้อนที่สามารถทำลายรากขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการนี้ช่วยลดการงอกใหม่ของขนในบริเวณที่ทำเลเซอร์ ดังนั้น การเลเซอร์ขนจึงเป็นวิธีการที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาขนอย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว
เลเซอร์ขนมีหลักการทำงานโดยใช้พลังงานแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจง โดยประมาณที่ 755 - 1064 nm ขึ้นอยู่กับประเภทเลเซอร์ ยิงเข้าสู่ผิวหนังเพื่อกำจัดขนที่ไม่พึงประสงค์ โดยเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนังจะเป็นตัวรับพลังงานแสงนี้เอง และเมื่อพลังงานแสงถูกดูดซึมเข้าไป ก็จะถูกแปลงเป็นพลังงานความร้อนเพื่อเข้าไปทำลายรากขน (hair follicle) รวมถึงเซลล์ต้นกำเนิด (stem cells) ที่ทำหน้าที่ผลิตขนใหม่ กระบวนการนี้เรียกว่า Selective Photothermolysis ซึ่งเน้นการทำลายเฉพาะรากขนโดยไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง
โดยที่ระดับความลึกของเลเซอร์ที่ยิงเข้าไป เพื่อทำให้ขนหยุดการเจริญเติบโต ต้องลงลึกถึงชั้นผิวหนังชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ซึ่งไม่เป็นการไปทำลายเซลล์ผิวหนังด้านบน แต่เน้นพลังงานไปที่เมลานินในรากขนเพียงเท่านั้น และในอีกกรณีหนึ่งคือ การยิงลึกถึงผิวหนังชั้นหนังแท้ (Dermis) ซึ่งเป็นที่อยู่ของรากขนและเซลล์ต้นกำเนิด โดยเฉพาะในบริเวณลึกสุดของรูขุมขน เลเซอร์ต้องลงลึกถึงชั้นนี้ (ประมาณ 2-4 มิลลิเมตร ขึ้นอยู่กับบริเวณของร่างกาย) เพื่อทำลายโครงสร้างของขนที่เป็นต้นเหตุให้ขนงอกใหม่นั่นเอง
การเลเซอร์ขนเป็นวิธีการกำจัดขนที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ดีและสะดวกสบาย แต่ก็มีหลายคนที่สงสัยว่าการเลเซอร์ขนเหมาะกับใครบ้าง? วิธีการเลเซอร์ขนนั้นเหมาะกับผู้ที่มีความต้องการดังต่อไปนี้
ปัจจุบันมีเลเซอร์ขนหลายประเภทที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวและสีขนที่หลากหลาย โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและความเหมาะสมที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็นดังนี้
Alexandrite Laser มีความยาวคลื่น 755 นาโนเมตร ซึ่งเป็นความยาวคลื่นที่สั้นกว่า Diode Laser เหมาะสำหรับผิวขาวถึงผิวสีปานกลาง เพราะมีประสิทธิภาพสูงในการดูดซับเมลานิน จึงเหมาะสำหรับกำจัดขนสีเข้มบนผิวขาว และตัวเครื่องเลเซอร์ขนสามารถทำงานได้เร็ว ครอบคลุมพื้นที่กว้างใช้เวลาในการทำไม่นาน แต่อาจไม่เหมาะกับคนที่มีผิวสีเข้ม เพราะอาจทำให้เกิดรอยไหม้หรือรอยดำได้ และไม่เห็นผลชัดเจนกับขนสีอ่อนมาก เช่น ขนสีบลอนด์หรือขาว
IPL Laser ไม่ใช่เลเซอร์แบบเดียวกับที่กล่าวมาข้างต้น แต่เป็นแสงพลังงานสูงที่สามารถปรับช่วงความยาวคลื่นได้ (400-1200 นาโนเมตร) ซึ่งตัวเครื่องกำจัดขนจะให้ผลลัพธ์คล้ายคลึงกับเลเซอร์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดขนบาง ๆ และไม่หนาแน่นมาก หรือทดลองกำจัดขนในครั้งแรก และมักใช้กำจัดขนในพื้นที่กว้าง เช่น ขา แขน ไม่เหมาะกับผิวเข้มและขนหนามาก
Nd: YAG Laser เป็นเลเซอร์กําจัดขนที่มีความยาวคลื่นลึกที่สุด คือ 1064 นาโนเมตร สามารถลงลึกถึงชั้นหนังแท้ได้ดี จึงเหมาะสำหรับผิวสีเข้มถึงผิวคล้ำ ข้อดีของการทำเลเซอร์ชนิดนี้คือ มีความเสี่ยงต่ำที่ทำให้เกิดรอยไหม้หรือรอยดำบนผิวสีเข้ม และสามารถกำจัดขนในชั้นลึกได้ดี จึงเหมาะสำหรับขนหนาและแข็ง เช่น ขนบริเวณบิกินี
Diode Laser เป็นเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเนื่องจากมีความยาวคลื่นที่หลากหลาย สามารถปรับให้เหมาะสมกับสีผิวและสีขนได้ ทำให้เหมาะสำหรับกำจัดขนบนผิวสีปานกลางถึงสีเข้ม และมีประสิทธิภาพในการกำจัดขนที่มีสีเข้มและหนาในบริเวณต่าง ๆ เช่น ขา รักแร้ และบิกินี อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ดีแม้กับผิวที่มีเมลานินสูง จึงเหมาะกับทุกสภาพผิวอีกด้วย แต่กระบวนการกำจัดขนอาจกินเวลานานกว่าการทำเลเซอร์ขนประเภทอื่น
Ruby Laser เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นสั้นแค่ 694 นาโนเมตรทำให้ดูดซับเมลานินได้ดี จึงเหมาะสำหรับคนที่มีผิวขาว มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดขนบางและสีอ่อน เลเซอร์นี้ไม่เหมาะกับผิวสีเข้ม เพราะอาจเกิดรอยไหม้ได้ง่าย และใช้ระยะเวลาในการทำหัตถการค่อนข้าง
การทำเลเซอร์ขน อาจไม่ได้กำจัดขนอย่างถาวรในทันที แต่ช่วยลดจำนวนเส้นขนและทำให้ขนที่ขึ้นใหม่บางลงได้ในระยะยาว หากมีการทำเลเซอร์อย่างต่อเนื่อง จะทำให้อัตราการงอกใหม่ของขนจะลดลงมาก และในบางกรณีอาจทำให้ขนหยุดการเจริญเติบโตถาวรในบริเวณที่ทำอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เลเซอร์ไม่ได้กำจัดขนในรอบการเติบโตที่ยังไม่สมบูรณ์ เช่น เส้นขนที่อยู่ในระยะพัก ดังนั้นจึงต้องมีการทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้ครอบคลุมรอบการเจริญเติบโตทั้งหมดของเส้นขน
โดยทั่วไปการทำ Laser ขนอาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพียงอาการชั่วคราวและสามารถบรรเทาได้เอง อย่างไรก็ตาม หากมีอาการผิดปกติรุนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
ผลข้างเคียงทั่วไปหลังเลเซอร์ขน
ผลข้างเคียงที่รุนแรงและควรพบแพทย์
การเตรียมผิวอย่างเหมาะสมก่อนทำเลเซอร์ขนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้น ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และปกป้องผิวจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้ได้
หลังจากทำเลเซอร์ขนแล้ว การดูแลผิวอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง มีข้อควรปฏิบัติดังนี้
หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหากวนใจเรื่องขนก็คือ การทำเลเซอร์กำจัดขน ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยกำจัดขนถาวรและปลอดภัย โดยใช้พลังงานจากแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจง ยิงลงไปที่รากขน ทำให้รากขนดูดซับพลังงานความร้อนและถูกทำลายไปทำให้ขนที่ขึ้นใหม่มีลักษณะบางลงหรืออาจไม่ขึ้นอีกเลยในระยะยาว ซึ่งประเภทการเลเซอร์ขนที่นิยม ได้แก่ Diode Laser, Nd:YAG Laser, Alexandrite Laser เป็นต้น ดังนั้น การทำเลเซอร์ขนจึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาขนอย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
