ริ้วรอยใต้ตาเป็นปัญหาที่มาพร้อมอายุที่มากขึ้น ทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัย ชวนมาส่องสาเหตุพร้อมวิธีลดริ้วรอยที่ทำแล้วเห็นผลจริง ไม่ต้องรอนาน เปลี่ยนหน้าแก่เป็นหน้าเด็ก!
ปัญหาริ้วรอยใต้ตา รอยย่นใต้ตา มีเส้นใต้ตาเป็นร่อง ใต้ตาเหี่ยวย่น ตัวการสำคัญที่ทำให้ใบหน้าดูแก่ ทาแป้งหรือลงคอนซีลเลอร์แล้วยิ่งเห็นเป็นเส้นริ้วที่ชัดเจน และไม่ใช่จะเกิดขึ้นกับคนที่อายุมากเท่านั้น แต่ปัญหาใต้ตามีริ้วรอยยังพบได้ในคนอายุน้อยได้อีกด้วย เพราะบางคนอาจละเลยดูแลผิวพรรณบริเวณรอบดวงตา นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้น วันนี้เราจะพาทุกคนมาค้นหาสาเหตุกันว่าริ้วรอยใต้ตาเกิดจากอะไร พร้อมวิธีลดริ้วรอยใต้ตาแบบธรรมชาติและเทคนิคแก้ริ้วรอยใต้ตาทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ริ้วรอยใต้ตาเกิดจากหลายสาเหตุ โดยในบางคนอาจพบปัญหาใต้ตามีริ้วรอย มีรอยย่นใต้ตาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงปัจจัยภายนอกที่เป็นตัวการทำร้ายผิวหนังบริเวณรอบดวงตา
วิธีแก้ริ้วรอยใต้ตาสามารถทำได้หลากหลายวิธี ทั้งการรักษาทางการแพทย์ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ หรือใช้มาหมดทุกวิธีแล้วแต่ยังไม่เห็นผล และวิธีลดริ้วรอยใต้ตาแบบธรรมชาติที่สามารถทำได้เองง่าย ๆ เพิ่มเป็นการดูแลตัวเองได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
สำหรับหัตถการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นเทคนิครักษาริ้วรอยใต้ตาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยการใช้สารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ผลิตเลียนแบบกรดไฮยาลูรอนิก แอซิดที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกาย หลังฉีดริ้วรอยใต้ตาแล้วจะช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง ช่วยให้ใต้ตาเต็มขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่กระดูกใต้ตายุบตัวส่งผลให้ใต้ตาหย่อนคล้อย
ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ไขริ้วรอยใต้ตา ร่องลึกใต้ตา ลดถุงใต้ตา ยังช่วยปรับผิวใต้ตาดำคล้ำให้กระจ่างใสขึ้นได้อีกด้วย หลังทำแล้วเห็นผลได้เลยทันที ช่วยให้ใบหน้าแลดูอ่อนวัย หลังฉีดแล้วให้ผลลัพธ์ได้อย่างยาวนานประมาณ 12 - 24 เดือน* ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้และการดูแลตัวเองของแต่ละคน
วิธีลดริ้วรอยใต้ตาด้วยการใช้คลื่นวิทยุที่ส่งผ่านพลังงานความร้อนเข้าสู่ชั้นผิว ช่วยกระตุ้นให้คอลลาเจนเกิดการหดตัว กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและเกิดการเรียงตัวใหม่แบบเป็นระเบียบ เหมาะกับการแก้ไขปัญหาผิวใต้ตาหย่อนคล้อย ช่วยกระชับผิวบริเวณรอบดวงตา แก้ไขปัญหารอยย่นใต้ตา เส้นใต้ตาเล็ก ๆ ที่เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนในชั้นผิวให้ตื้นขึ้น
ด้วยการส่งผ่านคลื่นอัลตราซาวนด์ลงในชั้นผิวลึกที่ต้องการได้แบบเฉพาะเจาะจง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ช่วยให้ผิวหนังยกกระชับเต่งตึง ทำให้ผิวแน่นอิ่มฟูขึ้น ลดริ้วรอยรอบดวงตาเส้นเล็ก ๆ นอกจากนี้ ยังเหมาะกับการแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา เปลือกตาและใต้ตาหย่อนคล้อย ลดไขมันรอบดวงตา มีปัญหาหางตาตก ยกคิ้ว หลังทำเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรก เหมาะกับคนที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตาและรอยย่นใต้ตาที่มีลักษณะเป็นเส้นบาง ๆ ในระดับที่ไม่รุนแรง
การใช้โบท็อกเป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่ช่วยรักษาริ้วรอยใต้ตาที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าบ่อย ๆ เช่น การยิ้มและหัวเราะ เป็นการใช้สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) เพื่อเข้าไปทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้น ๆ คลายตัว จึงช่วยให้ริ้วรอยใต้ตา ตีนกาใต้ตา ตีนกาหางตา รอยเส้นใต้ตาดูจางลงได้ หลังจากฉีดริ้วรอยใต้ตาจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ใน 3 - 5 วัน และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ใน 14 วัน สำหรับระยะเวลาของผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 3 - 6 เดือน* ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่ใช้และสภาพผิวพรรณของแต่ละบุคคล
เทคนิคการฉีดไขมันใต้ตาเป็นวิธีแก้ริ้วรอยใต้ตาด้วยไขมันของตัวคนไข้เอง จากการดูดไขมันส่วนเกินจากบริเวณหน้าท้อง, แขน หรือสะโพก จากนั้นนำมาผ่านกระบวนการปั่นคัดแยกเซลล์ไขมันที่มีคุณภาพ แล้วนำมาฉีดไขมันบริเวณใต้ตา ช่วยเติมเต็มริ้วรอยใต้ตาให้ตื้นขึ้น แต่เทคนิคนี้มีข้อเสีย คือ หลังฉีดแล้วอาจไม่เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก เพราะด้วยกลไกของร่างกายที่ดึงนำไขมันส่วนเกินมาใช้ ซึ่งต้องกลับมาทำหลายครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
การทำศัลยกรรมริ้วรอยใต้ตาที่รักษาและเคลียร์ปัญหาได้อย่างถาวร ด้วยการผ่าตัดนำผิวหนังใต้ตาเหี่ยวย่นและมีความหย่อนคล้อยออก จากนั้นเย็บเก็บผิวหนังให้เต่งตึงขึ้น กระชับผิวใต้ตา ช่วยแก้ไขปัญหาตีนกาใต้ตา แต่ทั้งนี้วิธีนี้มีข้อควรระวัง คือ ต้องทำผ่าตัดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ผ่าตัดเท่านั้น หลังการผ่าตัดต้องมีการพักฟื้น และต้องมีการระมัดระวังเรื่องแผลผ่าตัด เพราะหากดูแลได้ไม่ดีพออาจเสี่ยงต่อภาวะอักเสบติดเชื้อ
วิธีลดริ้วรอยใต้ตาแบบธรรมชาติด้วยการทาครีมบำรุงรอบดวงตาเป็นประจำ ซึ่งแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ครีมทาใต้ตาลดริ้วรอยที่ใช้กับผิวหนังรอบดวงตาโดยเฉพาะ หรือจะเลือกใช้วาสลีนลดริ้วรอยใต้ตาทาเป็นประจำได้ทั้งตอนเช้าและตอนเย็น เพื่อช่วยคงความชุ่มชื่นให้กับผิวใต้ตา ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใต้ตา รอยย่นใต้ตา เส้นใต้ตา ตีนกาใต้ตา แต่ทั้งนี้เป็นวิธีที่ต้องใช้เวลา 4 สัปดาห์ขึ้นไปถึงจะเห็นผลลัพธ์ หรือในบางรายอาจแทบไม่เห็นผล
วิธีลบริ้วรอยใต้ตาที่มีประโยชน์ทั้งในแง่ของการป้องกัน ชะลอ และดูแลตัวเองไม่ให้เกิดริ้วรอยใต้ตาได้อย่างตรงจุด นั่นก็คือ การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิวรอบดวงตา เช่น เลี่ยงการนอนดึก อดนอน การโดนแสงแดด งดการขยี้ตาแรง ๆ งดการใช้สายตาหนัก ดื่มน้ำน้อย ไม่ทาครีมกันแดด โดยสามารถดูแลตัวเองได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ รวมถึงดูแลตัวเองหลังทำหัตถการลดริ้วรอยใต้ตา
ในรายที่เคยลองมาทุกวิธีแล้วแต่ปัญหารอยย่นใต้ตายังไม่ดีขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการลดริ้วรอยใต้ตาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากให้ผลลัพธ์ได้เลยทันที ไม่ต้องพักฟื้น โดยเฉพาะในรายที่มีปัญหาใต้ตามีริ้วรอย มีเส้นใต้ตา ที่เกิดจากอายุที่มากขึ้นทำให้โครงสร้างผิวเสื่อมโทรม กระดูกใต้ตามีการทรุดตัว ชั้นไขมันบางลง ส่งผลให้มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา การเติมเต็มใต้ตาด้วยการทดแทนการสูญเสียไฮยาลูรอนิกยังช่วยในการอุ้มน้ำในชั้นผิว ช่วยให้ผิวกลับมาชุ่มชื่น ผิวพรรณใต้ตาดูกระจ่างใส เรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย
ถึงแม้ว่าการผ่าตัดแก้ไขริ้วรอยใต้ตาจะให้ผลลัพธ์ที่ถาวร แต่ทั้งนี้ เป็นเทคนิคที่ต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ผ่าตัดเท่านั้น และคนไข้ยังต้องใช้เวลาในการพักฟื้นที่นานกว่าเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งคนไข้ยังต้องดูแลแผลผ่าตัดอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากการผ่าตัด เช่น หากแพทย์ขาดประสบการณ์โดยผ่าตัดนำผิวหนังส่วนเกินออกมากเกินไปอาจทำให้ตาแบะหรือทำให้เกิดภาวะเอ็นตาหย่อนคล้อย ส่งผลให้หลับตาได้ไม่สนิท
การฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นเทคนิคการรักษาริ้วรอยใต้ตาที่แนะนำและเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยข้อดีหลายอย่าง เช่น หลังฉีดแล้วเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้เลยทันที โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดแผล มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ไม่ทำให้เกิดแผลเป็น มีการดูแลตัวเองที่ไม่ยุ่งยาก และยังช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาอื่น ๆ ได้อย่างครอบคลุมโดยไม่ต้องผ่าตัด ทั้งนี้ หากยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับวิธีรักษาริ้วรอยใต้ตาด้วยเทคนิคใด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับการประเมินปัญหาที่มีอย่างตรงจุด
ริ้วรอยใต้ตา รอยย่นใต้ตา เส้นใต้ตา ปัญหานี้เกิดได้กับทุกคนทั้งในคนที่อายุมากและอายุน้อย แต่เริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยวิธีการใช้ครีมทาริ้วรอยใต้ตาไปพร้อมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผิวใต้ตาเสื่อมโทรมจนเกิดรอยย่นใต้ตา
ทั้งนี้ สามารถใช้วิธีทางการแพทย์ควบคู่กันไปด้วยเพื่อแก้ไขริ้วรอยใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลได้ชัดเจนและรวดเร็ว โดยแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวิเคราะห์ปัญหาใต้ตาและเลือกใช้วิธีการรักษาที่เหมาะกับเรามากที่สุด นอกจากนี้ แนะนำให้เข้ารับการรักษาโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และเลือกใช้บริการกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัยกับตัวเราเองทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
