ค้างค่างวด กี่วันถึงโดนยึดรถ รู้ไว้ว่ามีอะไรบ้างที่เราไม่ควรทำเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้รถสุดที่รักของโดนยึด บทความนี้จะมาแนะนำให้แบบละเอียดเพื่อให้รถอยู่กับเราไปนานๆ
แม้ว่าเราจะวางแผนการเงินไว้อย่างดี แต่ถ้าหากวันดีคืนดีการเงินสะดุดจนเป็นเหตุให้จำเป็นต้องค้างค่างวดรถ เพื่อนำเงินตรงส่วนนี้มาใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้หลายคนอาจสงสัยหรือมีคำถามว่า หากค้างค่างวดจะส่งผลอย่างไรบ้าง? จะถูกยึดรถหรือไม่? และสามารถชำระค่างวดช้าที่สุดได้กี่วัน ก่อนที่จะโดนยึดรถ ซึ่งข้อสงสัยและคำถามต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้เราได้รวบรวมรายละเอียดมาไว้ให้แล้ว ตามมาดูกันเลย
การค้างค่างวดรถเป็นเรื่องที่หลายคนกังวลใจ โดยปกติแล้ว บริษัทไฟแนนซ์จะอนุโลมให้ผู้กู้สามารถชำระค่างวดช้ากว่ากำหนดได้ประมาณ 30 วัน นับจากวันที่ครบกำหนดชำระ (เรียกว่าระยะเวลาผ่อนผัน) แต่หากเกินระยะเวลานี้ อาจถูกนับเป็นการค้างชำระได้ และไฟแนนซ์จะเริ่มดำเนินการแจ้งเตือนหรือติดตามทวงถาม สำหรับผู้ที่สงสัยว่าสามารถค้างค่างวดได้กี่งวดก่อนโดนยึดรถ เรามีคำตอบมาให้ดังนี้
การค้างค่างวดรถไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซต์ มักนำมาซึ่งปัญหาที่ส่งผลกระทบทั้งด้านการเงินและชีวิตประจำวัน หากปล่อยให้เกิดการค้างชำระโดยไม่มีการแก้ไขหรือเจรจาอย่างเหมาะสม ผลกระทบที่ตามมาอาจรุนแรงและยากต่อการจัดการ ซึ่งในส่วนของผลกระทบจากการค้างค่างวดจะมีดังนี้
ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบดังกล่าว คุณควรรีบติดต่อสถาบันการเงินทันทีเมื่อเริ่มพบปัญหาในการชำระค่างวด ซึ่งไฟแนนซ์มักมีทางให้เลือก เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ การพักชำระ หรือการขยายระยะเวลาชำระให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของผู้กู้
หากในตอนนี้คุณกำลังเผชิญปัญหาเรื่องการผ่อนรถไม่ไหวและมีการค้างค่างวด สิ่งสำคัญคือหาวิธีจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางกฎหมายและการถูกยึดรถในที่สุด ซึ่งในส่วนของวิธีการแก้ไขปัญหาที่อยากแนะนำมีดังนี้
อย่าปล่อยให้มีการค้างค่างวดรถ เกิน 2 เดือน รีบติดต่อไฟแนนซ์เพื่อแจ้งสถานการณ์การค้างชำระของคุณทันที เพราะไฟแนนซ์มักมีทางเลือกช่วยเหลือ เช่น
สมมุติว่าคุณค้างค่างวดรถ 6 เดือน และไม่สามารถชำระเต็มจำนวนได้ ลองเสนอไฟแนนซ์เพื่อขอชำระบางส่วนหรือผ่อนผันระยะเวลาเพิ่มเติม เพื่อเป็นการแสดงความตั้งใจในการแก้ไขปัญหา และช่วยลดโอกาสที่ไฟแนนซ์จะดำเนินการยึดรถ
การรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินอื่นอาจช่วยลดดอกเบี้ย หรือปรับค่างวดให้เหมาะสมกับความสามารถในการชำระของคุณได้ แต่ทั้งนี้ต้องมั่นใจว่าภาระใหม่ไม่หนักจนเกินไป
หากประเมินแล้วว่าคุณไม่สามารถผ่อนต่อได้จริง การหาคนที่สนใจรับช่วงต่อสัญญาเช่าซื้อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่คุณสามารถทำได้ แต่ต้องได้รับการอนุมัติจากไฟแนนซ์ และโอนสิทธิ์ตามขั้นตอนที่ถูกต้อง
หากคุณมีประวัติการค้างค่างวดไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบ้าน หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ล้วนส่งผลกระทบต่อการขอสินเชื่อใหม่ในอนาคตทั้งสิ้น โดยเฉพาะในเรื่องประวัติทางการเงิน (Credit History) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินใช้ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ในส่วนของผลกระทบจากการค้างค่างวดรถต่อการขอสินเชื่อ จะมีดังนี้
การค้างชำระจะถูกบันทึกในฐานข้อมูลของเครดิตบูโร และธนาคารสามารถตรวจสอบได้ หากมีประวัติค้างค่างวดรถเกิน 30 วัน หรือค้างชำระต่อเนื่อง จะส่งผลให้เครดิตเสียซึ่งลดโอกาสในการขอสินเชื่อใหม่
การค้างค่างวดทำให้คะแนนเครดิตลดลง ซึ่งคะแนนนี้จะเป็นตัวชี้วัดความน่าเชื่อถือของผู้ขอสินเชื่อ ยิ่งคะแนนต่ำยิ่งยากต่อการได้รับอนุมัติ
หากธนาคารหรือไฟแนนซ์พิจารณาอนุมัติสินเชื่อในกรณีที่มีประวัติการค้างชำระ ผู้กู้อาจต้องเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เนื่องจากถูกมองว่ามีความเสี่ยงในการชำระหนี้
การค้างค่างวดส่งผลต่อการขอสินเชื่ออย่างชัดเจน ทั้งในแง่คะแนนเครดิตและการพิจารณาของสถาบันการเงิน ดังนั้นควรป้องกันไม่ให้เกิดการค้างชำระ หรือรีบแก้ไขปัญหาหากเกิดขึ้นแล้ว เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือและโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อในอนาคต
หากคุณมีปัญหาทางด้านการเงินและค้างค่างวด ควรรีบติดต่อไฟแนนซ์ทันทีเพื่อแจ้งปัญหาและขอคำปรึกษา อาจขอพักชำระ ปรับโครงสร้างหนี้ หรือขยายเวลาชำระ เพื่อลดภาระทางการเงิน หากไม่สามารถผ่อนต่อได้ ควรพิจารณาขายรถหรือหาผู้รับช่วงต่อสัญญา ซึ่งการจัดการปัญหาอย่างรวดเร็วจะช่วยป้องกันผลกระทบต่อเครดิตบูโรและลดโอกาสถูกยึดรถในอนาคต
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที