ฉีดเมโสแฟต อีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยลดไขมันเฉพาะจุด จัดการปัญหาไขมันส่วนเกินตามร่างกายให้สลายไป เพราะไขมันที่สะสมอยู่ในบางจุดของร่างกายนั้นลดได้ยาก เช่น เหนียง ต้นแขน ต้นขา เป็นต้น แม้จะออกกำลังกายหรือคุมอาหารไขมันบริเวณนั้นก็ยังไม่ยอมลดลงไป ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ ใช้ชีวิตได้ไม่เต็มที่ หากใครที่ยังไม่แน่ใจว่าเหมาะกับการฉีดแฟตไหม ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง อันตรายไหม สามารถติดตามอ่านรายละเอียดได้ในบทความนี้
Meso Fat คือ การสลายไขมันเฉพาะจุดตามร่างกายในบริเวณที่ลดยากด้วยการฉีดตัวยาที่จะเข้าไปช่วยให้ไขมันเกิดการแตกตัว จัดการปัญหาโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือดูดไขมัน โดยหลังจากที่ตัวยาเข้าไปสลายไขมันแล้วร่างกายจะขับออกมาทางระบบขับถ่าย ทำให้ไขมันบริเวณที่ฉีดแฟตไปลดลง โดยตัวยาหลักมีดังนี้
Meso fat เป็นตัวช่วยสำหรับคนที่อยากสลายไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด ให้ลดลงได้เร็วกว่าวิธีการปกติทั่วไปอย่างการออกกำลังกายหรือการคุมอาหาร ช่วยลดไขมันได้หลายบริเวณ เช่น ฉีดลดแก้ม ฉีดลดเหนียง ฉีดลดต้นแขน ฉีดลดต้นขา ฉีดลดสะโพก หรือในบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินสะสมเยอะ
เมโสแฟต และ โบท็อกซ์ ถึงแม้จะทำให้สัดส่วนของบริเวณที่ฉีดลดลงได้ แต่การออกฤทธิ์มีความแตกต่างกันสิ้นเชิง ฉีดเมโสแฟตช่วยสลายไขมัน ฉีดโบท็อกซ์ระงับการทำงานของกล้ามเนื้อให้หยุดลงกล้ามเนื้อบริเวณนั้นจึงเล็กลงชั่วคราว ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าปัญหาที่คนไข้กำลังเผชิญเกิดจากไขมันที่เยอะหรือกล้ามเนื้อที่ใหญ่ เพื่อที่จะวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด โดยแพทย์อาจจะประเมินให้ใช้ทั้ง 2 วิธีควบคู่กันไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
เมโสแฟต โดยปกติจะมีความปลอดภัยเพราะผ่านการรับรองจาก อย. ซึ่งมีตัวยาที่ใช้สำหรับการสลายไขมัน แต่อันตรายที่มักจะเกิดขึ้นนั้นมาจากการฉีดแฟตกับหมอกระเป๋าที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เถื่อนไม่ได้คุณภาพ มีส่วนผสมของสารอันตรายมากกว่าปกติ ทำให้เกิดเป็นผลข้างเคียงร้ายแรงตามมา เพราะหมอกระเป๋าไม่สามารถที่จะซื้อยาจริงได้เนื่องจากมีการควบคุมทางกฎหมาย โดยมากมักจะดึงดูดลูกค้าด้วยราคาที่ถูกมาก ๆ จนน่าตกใจ ไม่สามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้ รวมถึงบางคลินิกที่ต้องการลดต้นทุนก็อาจจะเลือกใช้สารชนิดอื่น ๆ มาใช้แบบผิดวิธี โดยมีสารที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงปัญหาตามมา 2 ชนิด ที่นิยมนำมาใช้ ได้แก่
ฉีดแฟต สามารถฉีดได้หลายจุดในร่างกาย แต่ส่วนใหญ่คนมักจะนิยมบริเวณใบหน้า คาง และเหนียง เป็นหลัก ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการปรับรูปหน้าจากคนที่หน้าบาน หน้ากลม เมื่อไขมันลดลงก็จะช่วยให้หน้าดูเล็กและเรียวลงได้ นอกจากนั้นยังสามารถฉีดสลายไขมันตามร่างกาย ได้แก่ หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา น่อง สะโพก เป็นต้น ดูดีขึ้นตั้งแต่หัวจรดเท้า
เมโสแฟตแก้ม โบท็อกซ์กราม และการตัดไขมันกระพุ้งแก้ม ถึงแม้จะช่วยในเรื่องของใบหน้าให้ได้รูปมากขึ้น แต่มีความแตกต่างกันออกไปในเรื่องของการออกฤทธิ์และผลลัพธ์ที่ได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
เมโสแฟตเป็นการฉีดเพื่อสลายไขมัน โดยการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของเซลล์ไขมันขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคน เช่น การกินอาหารที่มีไนมันหรือของหวานเยอะ การออกกำลังกาย กินอาหารมื้อดึกบ่อย เป็นต้น ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่เต็มประสิทธิภาพ
สำหรับใครที่ต้องการลดแก้ม การฉีดโบท็อกซ์กรามก็จะช่วยได้อย่างเห็นผลชัดเจน เพราะบริเวณนั้นมีกล้ามเนื้อกรามอยู่ สามารถสังเกตได้จากการสัมผัสที่แก้มเวลาที่เรากัดฟันกรามจะเด้งขึ้นมา การฉีดโบจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อชั่วคราวทำให้เนื้อบริเวณแก้มนั้นยุบเล็กลงได้
เป็นหัตถการที่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน โดยจะเป็นการผ่าตัดเอาไขมันบริเวณแก้มออก ซึ่งต้องอยู่ภายใต้การดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและเชี่ยวชาญเทคนิคการตัดไขมันกระพุ้งแก้ม เพราะหากตัดออกเยอะมากเกินไปสามารถส่งผลทำให้เกิดปัญหาแก้มตอบหรือหน้าห้อยได้ นอกจากนั้นการตัดไขมันในบริเวณที่ใกล้กับผิวหนังมากเกินไปก็ไม่สามารถทำได้ ซึ่งไขมันส่วนนี้เป็นจุดที่คนนิยมลดกันมาก ฉีดเมโสแฟตจึงเหมาะสมกว่า
เมโสแฟต ฉีดลดหน้าท้องสามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินที่สะสมบริเวณหน้าท้อง เนื่องจากบริเวณนี้เป็นส่วนที่ไขมันสะสมอยู่เยอะและลดค่อนข้างยาก นอกจากฉีดเมโสแฟตแล้วจึงควรออกกำลังกายและควบคุมเรื่องอาหารร่วมด้วย เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาสะสมมากกว่าเดิม
Meso fat บริเวณต้นแขนและต้นขาสามารถทำได้ แต่ต้องให้แพทย์ประเมินว่าปัญหาเกิดจากไขมันสะสมเยอะหรือกล้ามเนื้อที่โต การรักษาก็จะแตกต่างกันออกไป โดยการฉีดแฟตบริเวณต้นแขนและต้นขาซึ่งเป็นจุดที่ลดไขมันได้ยากจะช่วยให้บริเวณนั้นดูเล็กลงได้ แต่หากมีไขมันสะสมมากเกินไปการฉีดแฟตอาจจะได้ผลไม่เต็มที่ แพทย์อาจแนะนำให้ทำอย่างอื่นร่วมด้วย
เมโสแฟตน่อง แพทย์มักจะแนะนำให้ใช้การฉีดโบท็อกซ์น่องมากกว่า เพราะน่องเป็นบริเวณที่มีกล้ามเนื้อมากกว่าไขมัน โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินเพื่อเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละเคสที่มีความแตกต่างกันออกไป
ฉีดแฟต เหมาะกับบริเวณที่มีเส้นประสาทและเส้นเลือดเยอะ ๆ เช่น บริเวณใบหน้า แก้ม ลำคอ เหนียง เป็นต้น การดูดไขมันอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะไปกระทบกับเส้นเลือดและเส้นประสาทได้ สำหรับในส่วนของ ต้นขา หน้าท้อง ต้นแขน การดูดไขมันจะช่วยได้มากกว่าแต่อาจจะต้องเกิดอาการบวมช้ำเยอะ พักฟื้นนาน หากใช้การฉีดแฟตในบริเวณนี้อาจจะต้องใช้ปริมาณยาที่เยอะกว่าบริเวณอื่นมาก ทำให้ราคาที่ต้องจ่ายมากขึ้นตามไปด้วย
เมโสแฟตสลายไขมัน หลังฉีดอาจเกิดอาการบวมได้ โดยจุยุบไปได้เองหลังฉีดประมาณ 4 – 5 ชั่วโมงหลังทำ ซึ่งเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งไม่เกิดอาการปวด ไม่อักเสบ หรืออาจเกิดอาการบวมเข็มได้เล็กน้อย จึงไม่ต้องกังวล
เมโสแฟต หลังฉีดอาจเกิดอาการบวมขึ้นได้เล็กน้อย แต่จะหายไปได้เองประมาณ 4 – 5 ชั่วโมงหลังฉีด เนื่องจากตัวยาของ meso fat จะเข้าไปทำปฏิกิริยาให้ไขมันแตกตัวและยุบตัวลงไป ถูกขับออกมาจากร่างกาย
Meso fat หลังฉีดสามารถเห็นผลลัพธ์บริเวณที่ฉีดยุบลงได้ภายใน 1 สัปดาห์และผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นจนเห็นผลลัพธ์เต็มที่ใน 3 สัปดาห์ เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ หากใครที่ต้องให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหรือมีไขมันปริมาณมาก อาจจะต้องฉีด 4 – 5 ครั้ง และทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว
ผลลัพธ์ เมโสแฟต สามารถคงอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น การกินอาหาร การพักผ่อน การออกกำลังกาย เป็นต้น หากดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดผลลัพธ์จะยิ่งอยู่ได้นานขึ้น โดยหลังฉีดสามารถคงผลลัพธ์ที่ดีไปได้นานประมาณ 2 – 3 เดือน
เมโสแฟต มีตัวยาอยู่ด้วยกันหลายยี่ห้อ ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป โดยแพทย์จะประเมินปัญหา ตำแหน่งที่ฉีด รวมถึงความต้องการของคนไข้ เพื่อเลือกสูตรยาที่เหมาะกับแต่ละรายบุคคลมากที่สุด
ราคาของ Meso fat ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ปริมาณ หรือสูตรยาที่เลือกใช้ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้เลือกใช้ตามความเหมาะสม หากต้องการทราบรายละเอียดของราคาที่แน่นอน แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับแพทย์โดยตรงเพื่อที่แพทย์จะได้ออกแบบการรักษาได้ถูกต้องตอบโจทย์ปัญหามากที่สุด
เมโสแฟต ระหว่างฉีดอาจจะรู้สึกเจ็บได้เล็กน้อยหรือในระหว่างที่ตัวยากำลังเข้าสู่ผิว ซึ่งจะมีการประคบเย็นเข้าช่วย หากในรายที่กลัวเจ็บมาก ๆ สามารถใช้การแปะยาชาแทนได้
Meso fat ใน 1 ขวดจะมีปริมาณอยู่ที่ 10 ซีซี ซึ่งในแต่ละเคสก็อาจจะใช้ไม่เท่ากันจึงต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินและเลือกปริมาณที่เหมาะสมให้
การฉีดเมโสแฟตหน้าท้อง เหมือนกับการฉีดที่บริเวณอื่น ๆ โดยจะรู้สึกเจ็บได้เล็กน้อยในระหว่างที่ตัวยากำลังเข้าสู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งเจ็บน้อยกว่าการดูดไขมันเป็นอย่างมาก ระหว่างฉีดเมโสแฟตจะใช้การประคบเย็นร่วมด้วยเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บ หากใครที่กลัวเจ็บมาก ๆ สามารถใช้การแปะยาชาได้เช่นกัน
สำหรับการซื้อยาเมโสแฟตมาฉีดเอง ไม่แนะนำให้ทำ เพราะตัวยาที่เป็นของแท้ที่ผ่าน อย. จะต้องซื้อโดยแพทย์เท่านั้น หากไปซื้อเองตามอินเทอร์เน็ตให้ระลึกไว้เลยว่าเป็นของปลอมหากฉีดเข้าไปในร่างกายอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงตามมา นอกจากนั้นการฉีดแฟตต้องเป็นแพทย์ผู้มีประสบการณ์สูงเป็นผู้ฉีดให้เพื่อให้การฉีดตรงตามตำแหน่งของปัญหาต้นตอจริง ๆ ไม่สามารถที่จะฉีดเองหรือให้ใครอื่นฉีดให้ได้
ฉีดเมโสแฟตของแท้และแพทย์มีประสบการณ์สูง วางตำแหน่งการฉีดได้แม่นยำ ทำให้การกระจายตัวของยาทำได้ดี ไม่เกิดอาการเป็นก้อนหลังทำ นอกจากนั้นตัวยายังสามารถดูดซึมได้เองจึงไม่ทำให้เกิดอาการเป็นก้อน
แนะนำให้รอหลังคลอดและผ่านช่วงให้นมบุตรไปก่อนค่อยเข้ามาปรึกษากับแพทย์อีกครั้ง
เมโสแฟต เป็นหัตถการที่ช่วยลดไขมันเฉพาะจุดได้ดี เห็นผลไว โดยสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ โดยต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งจะเป็นผู้ประเมินปัญหา เลือกยี่ห้อที่ใช้ คำนวณปริมาณที่ฉีด วางตำแหน่งการฉีด ให้เหมาะสมกับแต่ละรายบุคคลมากที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย หากใครที่ปัยหาไขมันกวนใจไม่ว่าจะหน้ากลม เหนียงเยอะ ต้นแขนใหญ่ ต้นขาตัน หรือมีห่วงยางหน้าท้อง แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์ของ Vincent Clinic เพื่อออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที