การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty) เป็นหนึ่งในเทคนิคการศัลยกรรมเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงของจมูกให้โด่งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการผ่าตัดที่ซับซ้อนมากเกินไป เมื่อเทียบกับการเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) การเสริมจมูกแบบปิดจึงเหมาะสมสำหรับผู้ที่มีโครงสร้างจมูกดีอยู่แล้ว หรือต้องการปรับเล็กน้อยโดยไม่ต้องเปิดเผยแผลภายนอก อีกทั้งยังใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า ทำให้กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้รวดเร็วขึ้น
การเสริมจมูกแบบปิด หรือ Closed Rhinoplasty เป็นเทคนิคการผ่าตัดที่ศัลยแพทย์จะเปิดแผลเฉพาะในรูจมูกข้างหนึ่ง โดยไม่ต้องเปิดแผลภายนอก ทำให้ไม่มีรอยแผลภายนอกให้เห็นอย่างชัดเจน แพทย์จะใส่ซิลิโคนเสริมเข้าไปตามแนวฐานกระดูกของจมูก และในบางกรณีอาจมีการใช้เทคนิคการตะไบเล็กน้อยเพื่อปรับฐานจมูกให้สมดุลมากยิ่งขึ้น เทคนิคนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับลักษณะของดั้งจมูกให้โด่งขึ้นเล็กน้อยโดยไม่ต้องแก้ไขโครงสร้างจมูกมากนัก
การเสริมจมูกแบบปิดนั้นเป็นวิธีที่ศัลยแพทย์ใช้เพื่อเสริมความโด่งของดั้งจมูก โดยเปิดแผลภายในรูจมูกเพียงข้างเดียว ซึ่งแผลจะซ่อนอยู่ภายใน ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก กระบวนการนี้มักใช้วัสดุซิลิโคนในการเสริมเพื่อให้ได้ทรงที่ต้องการ
การเสริมจมูกแบบปิดจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานจมูกที่ดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้ที่มีดั้งยาวกำลังดี มีเนื้อจมูกพอสมควร และไม่จำเป็นต้องปรับโครงสร้างจมูกใหม่ ผู้ที่เหมาะกับการทำจมูกแบบปิดมักมีเป้าหมายเพียงเพื่อเสริมให้ดั้งโด่งขึ้น หรือปรับโครงสร้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เทคนิคนี้เหมาะกับเคสที่ทำครั้งแรกและไม่มีปัญหาโครงสร้างที่ซับซ้อน
การเสริมจมูกแบบปิดมีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นที่นิยม
- ไม่มีรอยแผลภายนอก เนื่องจากแผลถูกซ่อนไว้ภายในรูจมูก
- ระยะเวลาพักฟื้นสั้น ทำให้สามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติได้เร็วขึ้น
- ค่าใช้จ่ายต่ำกว่า มีราคาที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิด
- ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่า
- ไม่ต้องวางยาสลบ การเสริมจมูกแบบปิดสามารถทำได้ภายใต้ยาชาเฉพาะที่ ทำให้ผู้ป่วยสามารถตรวจเช็คทรงจมูกได้ทันทีหลังผ่าตัด
- เหมาะกับการเสริมจมูกครั้งแรก สำหรับผู้ที่เสริมจมูกเป็นครั้งแรกและไม่มีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างจมูกมากนัก
การเสริมจมูกแบบปิดมีข้อจำกัดหลายประการที่ควรคำนึงถึง
- การปรับโครงสร้างจมูกที่ซับซ้อนเป็นไปได้ยาก สำหรับผู้ที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกไม่เหมาะกับวิธีนี้ เช่น จมูกงุ้มมาก จมูกสั้นหรือเชิดขึ้น
- ไม่สามารถปรับขนาดของจมูกได้อย่างละเอียด ทำให้เหมาะสำหรับการปรับแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- ความเสี่ยงของการเกิดความไม่สมบูรณ์ โอกาสเกิดการทะลุหรือเบี้ยวได้มากขึ้นเมื่อล่วงเลยเวลา
- ไม่สามารถลดขนาดจมูกได้มาก การทำจมูกแบบปิดจะเน้นการเพิ่มหรือปรับทรงให้ดูโด่งขึ้นมากกว่าการลดขนาดของจมูกให้เล็กลง
การเตรียมตัวก่อนการเสริมจมูกจะช่วยให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน
1. งดการทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาละลายลิ่มเลือดหรือวิตามินอาหารเสริม
2. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแทรกซ้อนระหว่างการผ่าตัด
3. รักษาสุขภาพและพักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายที่แข็งแรงจะช่วยลดระยะเวลาการฟื้นตัว
4. แจ้งประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัว เพื่อให้แพทย์ทราบและเตรียมการอย่างเหมาะสม
1. การซักประวัติ แพทย์จะสอบถามประวัติของคนไข้ เช่น โรคประจำตัวหรือการแพ้ยา เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
2. การประเมินและออกแบบ แพทย์จะตรวจสอบโครงสร้างจมูกเพื่อออกแบบซิลิโคนหรือวัสดุที่ใช้เสริมให้พอเหมาะ
3. การเตรียมความพร้อม ฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณจมูกและตรวจสอบความพร้อมของร่างกายคนไข้
4. ขั้นตอนการผ่าตัด แพทย์จะเปิดแผลภายในรูจมูกเพื่อใส่ซิลิโคนโดยไม่ต้องเปิดโครงสร้างจมูกภายนอก
5. การติดตามผล แพทย์จะนัดตรวจผลหลังการผ่าตัด เช่น ครบ 1 สัปดาห์และ 1 เดือน
การดูแลหลังการเสริมจมูกมีความสำคัญอย่างมาก
1. ประคบเย็นในช่วง 72 ชั่วโมงแรก เพื่อช่วยลดอาการบวมและห้ามเลือด
2. นอนในท่าที่ศีรษะสูง เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีและลดอาการบวม
3. ประคบอุ่นหลัง 72 ชั่วโมง ช่วยลดรอยช้ำและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
4. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจกระทบกระเทือนจมูก เช่น การออกกำลังกายหนัก
5. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เพื่อให้แผลหายเร็ว
- 2 สัปดาห์แรก อาจยังมีอาการบวมอยู่บ้าง แต่จะเริ่มลดลงเรื่อยๆ
- 1 เดือนหลังผ่าตัด อาการบวมและรอยช้ำหายเกือบหมด รูปทรงจมูกเริ่มชัดเจนขึ้น
- 3 เดือนหลังผ่าตัด จมูกจะเริ่มเข้าที่เกือบสมบูรณ์ รูปทรงดูเรียวและเป็นธรรมชาติ
- 6 เดือนถึง 1 ปีหลังผ่าตัด จมูกจะเข้าที่เต็มที่และดูสวยงามอย่างสมบูรณ์
- การเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) แพทย์สามารถเห็นโครงสร้างจมูกทั้งหมด ทำให้สามารถปรับแต่งได้ละเอียด เหมาะกับเคสที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกที่ซับซ้อน
- การเสริมจมูกแบบปิด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการปรับทรงเพียงเล็กน้อย โดยไม่จำเป็นต้องเปิดโครงสร้างจมูกทั้งหมด
สำหรับใครที่อยากทำจมูกด้วยเทคนิค เสริมจมูกแบบปิด แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษาทีมแพทย์มากประสบการณ์ผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านช่วยประเมินและออกแบบการรักษาให้ เพื่อให้ได้รับข้อมูลรายละเอียดที่ครบถ้วนถูกต้องมากที่สุด ปรึกษาได้ที่ Vincent Clinic พร้อมทั้งเลือกทรงที่รับกับใบหน้าและตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้มากที่สุด ด้วยเครื่องสแกนหน้าแบบ 3D สวยตรงเรฟ ช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนของผลลัพธ์หลังทำจมูก
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที