Mobile Application คืออะไร ทำไมหลายธุรกิจถึงมีพนักงาน Mobile Application เป็นของตัวเอง พร้อมเผยจุดเด่น และความแตกต่างของ Mobile application แต่ละประเภท ในยุคปัจจุบัน เลี่ยงไม่ได้เลยว่าโทรศัพท์มือถือ ได้กลายมาเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต่าง ๆ ของคนมากมายอย่างเห็นได้ชัด หนึ่งตัวอย่างที่ชัดที่สุดนั่นก็คือ การจ่ายเงินจากเดิมที่จ่ายเป็นเงินสด ทำให้เกิดปัญหาที่ต้องพกเงินติดตัวไว้ตลอดเวลา อาจจะศูนย์หาย หรือเกิดความเสียหายได้ แต่ปัจจุบันผู้คนได้หันมาจ่ายผ่าน Mobile application กันเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีความปลอดภัย สะดวกสบาย และง่ายต่อการใช้ชีวิต
ทำให้เจ้าธุรกิจหลาย ๆ คนได้หันมาทำ Mobile application กันเป็นจำนวนมาก โดยบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักถึงความสำคัญของ Mobile application, Mobile application มีกี่แบบ, ข้อดี หรือไม่ว่าจะเป็นจุดเด่นที่เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสปความสำเร็จด้วย Mobile application
Mobile application คือ Software ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานในหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Application ให้ความบันเทิงอย่าง Streaming application, เกม หรือ แพลตฟอร์มคลิปวิดีโอ นอกจากนี้ Mobile application ยังมีอีกหลายหลายหมวดหมู่ เช่น แอปจองคิว, แอปให้ความรู้ หรือแอปแต่งรูป เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้ผ่านอุปกรณ์พกพาเคลื่อนที่อย่าง โทรศัพท์มือถือ หรือ แท็บแล็ต
หากธุรกิจอยากจะหันมาทำ Mobile application นั้นจำเป็นจะต้องมีทักษะเฉพาะด้านสูงมาก จึงทำให้หลาย ๆ องค์กรเลือกที่จะจ้างบริษัท Application หรือ it support outsource ที่มี Mobile Application service โดยเฉพาะ เพื่อรังสรรค์ให้แอปพลิเคชั่นมีคุณภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด โดย Moble application ประกอบไปด้วย
Hybrid Application : เป็น Mobile application ที่หลายธุรกิจนิยมใช้กันมากที่สุด เนื่องจาก Hybrid Application สามารถใช้ได้กับทุกระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น Android หรือ IOS ผ่าน Framework อย่าง React Native หรือ Flutter
Native Application : Native Application คือแอปที่เขียนขึ้นมาเพื่อระบบปฏิบัติการนั้น ๆ ด้วยภาษาที่เฉพาะเจาะจง เช่น ระบบปฏิบัติการ Android ใช้ภาษา Kotlin หรือ Java ส่วนระบบปฏิบัติการ IOS ใช้ภาษา Swift เป็นต้น โดยมีข้อดีคือ ประสิทธิภาพที่สูงกว่าแอปพลิเคชั่นแบบอื่น ๆ ทั้งในด้านของความเร็ว และการเข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ของอุปกรณ์
Web Application : ถือเป็นอีกหนึ่งประเภทของ Mobile application ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน โดย Web application สามารถเปิดผ่าน Browser ได้หากคุณมีอินเทอร์เน็ต ทำให้ใช้ทรัพยากรพื้นที่น้อยที่สุด เหมาะสำหรับแอปพลิเคชั่นที่ไม่ได้มีฟีเจอร์อะไรมาก
เข้าถึงลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง : Mobile application ทำให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อกับธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อสินค้า การบริการ หรือการติดต่อสอบถาม ทำให้ธุรกิจสามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
สร้างประสปกรณ์ที่ดีแก่ลูกค้า : เจ้าของธุรกิจสามารถใช้ Mobie application เป็นตัวกลางในการสนองความต้องการของลูกค้าได้ โดยการออกแบบฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ลูกค้าต้องการ
สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อนำมาวิเคราะห์แนวทางได้ : Mobile application คือเครื่องมือที่สำคัญของนักการตลาดที่จะช่วยเก็บข้อมูลของลูกค้า ว่าลูกค้าส่วนใหญ่มีพฤติกรรม ความชอบ หรืองบประมาณเท่าไหร่ ในการใช้บริการ เพื่อนำมาวิเคราะห์ และนำไปออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
การมี Mobile Application สำหรับธุรกิจไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า แต่ยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของนักการตลาดในการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
Mobile application สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลก เนื่องจากการที่ธุรกิจเลือกทำ Mobile application ก็เหมือนเป็นการเอาธุรกิจของตัวเองลงไปโปรโมทในโลกดิจิทัล ที่ User สามารถมองเห็นเราได้ทั่วโลก เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต จึงเป็นการสร้างโอกาสในการโฆษณาของธุรกิจได้ดีกว่าธุรกิจที่ไม่ได้ทำ Mobile application
ธุรกิจที่สามารถสร้าง Conversion ได้ คือธุรกิจที่ประสปความสำเร็จ แต่ใช่ว่าธุรกิจที่ประสปความสำเร็จจะสามารถสร้าง Brand Royalty ได้ ซึ่งการที่ธุรกิจเลือกทำ Mobile application ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า หรือสามารถแก้ไข Pain point ของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากธุรกิจสามารถแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้ มีโอกาสสูงมาก ๆ ที่ลูกค้าจะเกิด Brand Royalty ต่อธุรกิจของคุณ ยกตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชั่นเรียกรถ ที่ปัจจุบันคนนิยมใช้กันเยอะมากในประเทศไทย, แอปสั่งอาหาร หรือแอปจองคิวร้านอาหาร เป็นต้น Mobile application เหล่านี้ถือเป็น Mobile application ที่มี Brand Royalty สูงมาก เนื่องจากสามารถแก้ไขปัญหาของผู้ใช้งานได้อย่างตรงจุด และมีประสิทธิภาพนั่นเอง
เนื่องจาก Mobile application มีฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมายที่จะช่วยให้ธุรกิจทำการตลาดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด เช่น ฟีเจอร์การสะสมแต้ม จะช่วยให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ และกระตุ้นความอยากซื้อสินค้าของเรามากยิ่งขึ้น หรือฟังก์ชั่นการให้คำแนะนำ ที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า โดยการให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ และสามารถแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้
Mobile Application ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัลให้ประสปความสำเร็จ ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่สามารถสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ยอดขายมีโอกาสโตขึ้นได้หลายเท่า สร้าง Brand Royalty ได้ และยังเป็นช่องทางในการเก็บข้อมูลเชิงลึกเพื่อพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจให้มีความแม่นยำ การนำ Mobile Application มาใช้จึงเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจให้เติบโต และประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที