ประกันลดหย่อนภาษีมีทั้งประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ผู้ซื้อประกันสามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนได้ในจำนวนที่แตกต่างกัน ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์และกรมสรรพกร
หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าการทำประกันทั้งประกันชีวิตละประกันสุขภาพ นอกจากจะมอบความคุ้มครองให้เราแล้ว ยังมอบสิทธิประโยชน์ที่สำคัญไม่แพ้กันอย่างการนำไปลดหย่อนภาษี แต่บางคนอาจยังไม่รู้ว่าประกันลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ แล้วต้องซื้อประกันแบบไหนให้เหมาะกับตัวเอง? บทความนี้จะพาทุกคนมาดูว่าประกันแบบไหนลดหย่อนภาษีได้ แต่ละประเภทลดหย่อนได้เท่าไหร่บ้าง เพื่อให้คุณวางแผนการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น ไปดูกันเลย!
สำหรับใครที่ยังสงสัยว่าซื้อประกันลดหย่อนภาษีจริงหรือไม่? คำตอบคือสามารถทำได้จริง เนื่องจากการนำเบี้ยประกันมาใช้ลดหย่อนภาษีนั้น ถือเป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่รัฐมอบให้แก่ผู้มีรายได้ในประเทศ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีความคุ้มครองชีวิตควบคู่ไปกับการวางแผนทางการเงินเพื่อความมั่นคง โดยหากคุณซื้อประกันที่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับกรมธรรม์เป็นไปตามที่สรรพากรกำหนด ก็สามารถใช้เบี้ยประกันลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณเสียภาษีน้อยลงนั่นเอง
ประกันลดหย่อนภาษีนั้นมีหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีเงื่อนไขการลดหย่อนที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับกรมสรรพากรกำหนด เราลองมาดูกันว่าประกันที่นำไปลดหย่อนภาษีได้มีอะไรบ้าง นำมาลดหย่อนภาษีประกันได้มากน้อยแค่ไหน
ผู้ที่ซื้อประกันชีวิตแบบทั่วไปสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ โดยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่
สำหรับผู้ที่ซื้อประกันแบบทั่วไปควบประกันชีวิตแบบบำนาญ เบี้ยประกันชีวิตบำนาญจะนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี ตามที่จ่ายจริง และสามารถแบ่งเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญไปรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไปให้ครบสิทธิ์ลดหย่อนภาษี 100,000 บาทต่อปีได้ แต่หากใครใช้ประกันชีวิตแบบบำนาญไปลดหย่อนภาษีเพียงอย่างเดียว โดยไม่ใช้สิทธิ์รวมกับประกันชีวิตทั่วไป ก็จะลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท ตามที่จ่ายจริง
นอกจากการลดหย่อนภาษีจากประกันชีวิตแล้ว ผู้ทำประกันสุขภาพตัวเองก็นำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย โดยแบ่งเป็นประกันสุขภาพและประกันโรคร้ายแรง ซึ่งใช้ลดหย่อนภาษีตามจำนวนที่จ่ายจริงได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี เมื่อรวมกับค่าลดหย่อนกับเบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไปแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
ไม่เพียงแต่ประกันสุขภาพของตัวเองเท่านั้นที่นำไปลดหย่อนภาษีได้ หากใครซื้อประกันสุขภาพให้พ่อแม่ก็สามารถใช้สิทธิ์ได้เช่นกัน โดยนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนตามจำนวนที่จ่ายจริงได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี และมีเงื่อนไขการใช้สิทธิ์ลดหย่อนคือ พ่อแม่ต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และพ่อแม่หรือเราต้องอยู่ในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 180 วันในปีนั้น ๆ
เพื่อให้คุณสามารถวางแผนชีวิตและวางแผนการเงินได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น นอกจากจะต้องรู้ว่าประกันลดหย่อนภาษีได้มีอะไรบ้าง และซื้อประกันแต่ละประเภทลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่แล้ว ช่วงเวลาซื้อประกันสำหรับลดหย่อนภาษีก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญ โดยเราแนะนำให้ซื้อประกันสำหรับลดหย่อนภาษีไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ควรซื้อในช่วงปลายปีหรือช่วงที่ใกล้จะยื่นภาษี เพื่อให้คุณได้มีเวลาสำหรับวางแผนจัดการเงิน รวมถึงไตร่ตรองเปรียบเทียบประกันแต่ละรูปแบบว่าแบบไหนเหมาะสมและตอบโจทย์มากที่สุด
ประกันที่นำมาลดหย่อนภาษีได้มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตแบบทั่วไป ประกันชีวิตแบบบำนาญ ประกันสุขภาพของตัวเอง และประกันสุขภาพของพ่อแม่ ทั้งยังมีเงื่อนไขการลดหย่อนที่แตกต่างกัน สำหรับใครที่ต้องการซื้อประกันที่ตอบโจทย์เพื่อให้ได้ค่าลดหย่อนภาษีที่คุ้มค่า ควรศึกษารายละเอียดและข้อกำหนดของกรมธรรม์ รวมถึงเงื่อนไขต่าง ๆ เกี่ยวกับการลดหย่อนจากกรมสรรพากรให้ชัดเจน
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที