Bancha

ผู้เขียน : Bancha

อัพเดท: 27 ก.ย. 2024 09.38 น. บทความนี้มีผู้ชม: 44 ครั้ง

อาการของมะเร็งตับป็นสิ่งที่ควรระวัง หากสังเกตเห็นอาการมะเร็งตับอาการเบื้องต้นได้เร็ว จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาอาการคนเป็นมะเร็งตับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


การแยกอาการคนเป็นมะเร็งตับ ช่วยให้จัดการดูแลสุขภาพได้ถูกต้อง

 

การแยกอาการคนเป็นมะเร็งตับ ช่วยให้จัดการดูแลสุขภาพได้ถูกต้อง

การแยกแยะอาการของมะเร็งตับด้วยตัวเองในเบื้องต้นถือว่าเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจากอาการคนเป็นมะเร็งตับหลายอย่างของมะเร็งตับอาจคล้ายกับโรคอื่น ๆ ดังนั้นการรู้จักอาการมะเร็งตับอาการเบื้องต้นและทำความเข้าใจถึงสัญญาณเตือนของมะเร็งตับสามารถช่วยให้การตรวจพบได้เร็วขึ้นและมีโอกาสรักษาได้ดีกว่า ในบทความนี้เราจะพาไปดูอาการของมะเร็งตับเพื่อให้สามารถแยกแยะและสังเกตอาการได้รวดเร็วขึ้น

เช็กความเสี่ยง อาการของมะเร็งตับแบบไหน? เข้าข่ายระยะอันตราย

มะเร็งตับ เป็นหนึ่งในโรคร้ายแรงที่สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่มีอาการของมะเร็งตับแสดงชัดเจนในระยะแรก ทำให้ผู้ป่วยหลายรายตรวจพบเมื่อมะเร็งได้ลุกลามไปแล้ว การเช็กความเสี่ยงและอาการของมะเร็งตับเบื้องต้นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยให้การรักษาทำได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยอาการเบื้องต้นที่สามารถใช้แยกแยะมะเร็งตับได้ มีดังนี้

 

เจ็บบริเวณชายโครงขวา

 

อาการมะเร็งตับอาการนี้เกิดจากตับที่ขยายใหญ่ขึ้นและกดทับบริเวณรอบ ๆ ทำให้รู้สึกเจ็บบริเวณชายโครงขวา หรือบางครั้งอาจเจ็บบริเวณสะบักขวา อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม หากมีอาการปวดเช่นนี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาอย่างเหมาะสม

 

เบื่ออาหารและน้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว


หากสังเกตเห็นว่าน้ำหนักตัวของเราลดลงอย่างรวดเร็วโดยไม่มีสาเหตุ หรือรู้สึกเบื่ออาหารโดยเฉพาะอาหารที่เคยชอบทาน นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนที่ควรให้ความสำคัญ เพราะอาการเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่รุนแรง เช่น มะเร็งตับ หรือปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหารและการทำงานของตับ

 

ท้องอืด ท้องโตขึ้น


มะเร็งตับ สามารถทำให้เกิดการสะสมของของเหลวในช่องท้อง หรือ ภาวะท้องมาน (Ascites) อาการนี้เกิดจากการทำงานของตับผิดปกติ รวมถึงการที่เนื้องอกหรือเซลล์มะเร็งกดทับหลอดเลือด ทำให้ของเหลวสะสมในช่องท้องมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกท้องอืดหรือท้องโตขึ้นอย่างชัดเจน ในกรณีที่มีอาการนี้ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษา

 

ผิวและตาขาวมีสีเหลือง


อาการมะเร็งตับอาการเป็นปัญหาที่เกิดจากตับทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เกิดการสะสมของสารบิลิรูบินในร่างกาย ซึ่งเป็นสารสีเหลืองที่เกิดจากการสลายตัวของเซลล์เม็ดเลือดแดง หากตับไม่สามารถกำจัดบิลิรูบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ สารนี้จะสะสมในเลือดและเนื้อเยื่อของร่างกาย ทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า ดีซ่าน (Jaundice) และผลที่ตามมาคือผิวหนังและตาขาวจะเริ่มมีสีเหลืองอย่างชัดเจน นี่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าตับเริ่มมีปัญหาหรืออาจเป็นอาการของมะเร็งตับในระยะเริ่มต้น 

 

อ่อนเพลียและไม่มีเรี่ยวแรง
 

ในระยะเริ่มต้นอาการของมะเร็งตับจะรู้สึกอ่อนเพลียและหมดเรี่ยวแรงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะพักผ่อนเพียงพอแล้ว เป็นสัญญาณสำคัญที่ควรระวัง เพราะการที่ร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้าหรือหมดแรงเป็นประจำโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน อาจบ่งชี้ว่าการทำงานของตับเริ่มมีปัญหานั่นเอง

หากคุณพบสัญญาณเตือนอาการของมะเร็งตับในข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด หรือปวดท้อง ร่วมกับอาการอ่อนเพลียและหมดเรี่ยวแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงทันที การตรวจพบอาการมะเร็งตับอาการเบื้องต้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะสามารถเริ่มต้นรักษาอาการคนเป็นมะเร็งตับได้เร็ว ซึ่งอาจช่วยเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวและป้องกันการลุกลามของโรค

 

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที