แม้จะส่องประกายแวววาว แต่ผู้ซื้อมักจะมองข้ามเครื่องประดับเงินและหันไปเลือกเครื่องประดับทอง ซึ่งเป็นโลหะสีโทนอบอุ่นกว่าและดูหรูหรากว่า ทว่าโชว์รูมเครื่องประดับในงานแฟชั่นวีคช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่ง นักออกแบบนำเสนอคอลเลกชันที่อาจจะวางจำหน่ายในร้านช่วงฤดูหนาวนั้น กลับเต็มไปด้วยเครื่องประดับที่ทำจากโลหะเงิน
จากข้อมูลของ Net-a-Porter ผู้ค้าปลีกสินค้าหรูออนไลน์นั้น ยอดการค้นหาคำว่า ‘เครื่องประดับเงิน’เพิ่มขึ้น 50% ในปี 2566 เพราะลูกค้าหันมาให้ความสนใจแนวการแต่งตัวแบบมินิมอลและลุคทันสมัยกันมากขึ้น ขณะที่ข้อมูลจาก Bullion by Post แสดงให้เห็นถึงราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้นเป็น 88 เท่าของราคาโลหะเงิน การหันไปหาเครื่องประดับเงินจึงถือเป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์ทั้งฝั่งผู้ประกอบการและผู้บริโภค
ในกรุงปารีส Eéra แบรนด์อิตาเลียนได้เปิดตัวสร้อยเงินลายโซ่ และเพิ่มลูกเล่นให้กับแบรนด์ โดยเน้นหนักไปที่การผสมผสานประเภทโลหะที่หลากหลาย รวมถึงเพิ่มสินค้าในกลุ่มเครื่องประดับเงินเป็นทางเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น ซึ่งการนำเสนอสินค้าดังกล่าวข้างต้นนี้ช่วยให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม เพราะสินค้ามีระดับราคาที่กว้างยิ่งขึ้นกว่าเดิม
Victoria Lampley Berens จาก The Stax บริษัทที่ปรึกษาด้านเครื่องประดับได้สังเกตเห็นว่า แบรนด์ต่างๆ ได้หันมาใช้โลหะเงินในการผลิตเครื่องประดับในราคาที่ย่อมเยาแต่ดูดีขึ้น ขณะที่การผสมผสานโลหะต่างๆ ก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน เช่น การนำทองขาวและเงินสเตอริงค์มาผสมเข้าด้วยกันทำให้เกิดความเก๋ไก๋เช่นเดียวกับทองขาวและทองคำ เป็นต้น
โอกาสที่ต้องไปให้สุด
แนวทางการซื้อสินค้าที่กล่าวมาข้างต้นจะเป็นแนวคิดหลักสำหรับผู้ค้าปลีกในปี 2567 แต่การเปลี่ยนแปลงไม่ได้มาจากเรื่องของความประหยัดเท่านั้น เพราะโลหะเงินเองก็สามารถนำไปใช้ตกแต่งได้ง่ายและเป็นที่ต้องการพอๆ กับทองคำ
ในมุมมองของ Lampley Berens นั้น เงินกับทองไม่ต่างกัน เพราะมีความคลาสสิกและไม่เคยล้าสมัย เงินเบากว่าทอง ทำให้เหมาะกับการนำมาผลิตเครื่องประดับชิ้นใหญ่ ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนความสำเร็จให้กับแบรนด์อย่าง Tiffany & Co. และ Georg Jensen
สำหรับ Sophie Howard ผู้ก่อตั้ง By Pariah บริษัทเครื่องประดับในลอนดอนแล้ว ในปีนี้บริษัทฯ ของเธอได้เปลี่ยนสินค้าจากเงินเคลือบทองหันมาจำหน่ายแบบทองคำ 14k เท่านั้น เครื่องประดับเงินที่วางจำหน่ายอยู่ด้วยจึงมีระดับราคาที่น่าซื้อมากกว่าที่ผ่านมา ชิ้นที่ได้รับความนิยมสูงสุดได้แก่ กระดุมข้อมือและต่างหูขนาดเล็กรุ่น Luna โดยเธอเชื่อว่ากระดุมข้อมือของ Tiffany ที่ออกแบบโดย Elsa Peretti ที่ถูกนำกลับเข้าสู่ตลาดเมื่อไม่นานมานี้มีผลอย่างมากต่อความนิยมนี้
ระดับราคาที่ต่ำทำให้เครื่องประดับเงินเหมาะสำหรับการทดลอง โดย Eéra ได้พัฒนาสร้อยลายโซ่รุ่น Rein ให้เป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันสำหรับผู้ชาย ซึ่งได้กลายเป็นเครื่องประดับยูนิเซ็กส์ที่ติดอันดับขายดีที่สุดสำหรับนักช้อปที่ชื่นชอบการแต่งตัวอย่างมีสไตล์
นอกจากนี้ โลหะเงินยังเป็นวัสดุแห่งการดิสรัปชั่นอีกด้วย โดย Fope บริษัทฯ ที่เชี่ยวชาญในการผลิตสร้อยลายโซ่ได้สร้างสรรค์เครื่องประดับแบบลวดตาข่ายถัก (Chain-Link) ที่มีความยืดหยุ่น โดดเด่นด้วยลูกเล่นทันสมัย ขณะที่แบรนด์เครื่องประดับ Statement Paris ได้พลิกโฉมความล้ำค่าโดยการนำเพชรมาจับคู่กับเงินในสไตล์อาร์ตเดโคที่เตะตา
ตัวอย่างการนำไข่มุกมาตกแต่งบนตัวเรือนช่วยให้เครื่องประดับเงินแลดูโก้และหรูหรายิ่งขึ้น
(ซ้าย) สร้อยข้อมือจากแบรนด์ Eéra และ (ขวา) ต่างหูจากแบรนด์ By Pariah
เสน่ห์ที่แตกต่าง
กระแสนิยมเครื่องประดับเงินในขณะนี้อาจเป็นเพราะถึงเวลาของโลหะเงินแล้วในโลกแฟชั่น กางเกงแวววาวบนรันเวย์แสดงให้เห็นแล้วว่าเสน่ห์ของโลหะสีขาวนี้ไม่เคยจางหาย ไม่ว่าจะเป็นแหวนวงหนาใหญ่ หรือสร้อยลายโซ่เส้นบาง โลหะชนิดนี้เป็นมากกว่าแค่ตัวแทนของทองคำ ‘ความมินิมอลที่ดูสะอาดตาสร้างเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ให้กับตัวมันเอง’
ติดตามข้อมูลด้านการตลาดอัญมณีและเครื่องประดับได้ที่เว็บไซต์ https://infocenter.git.or.th/
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที