Detect

ผู้เขียน : Detect

อัพเดท: 21 ก.ค. 2024 20.40 น. บทความนี้มีผู้ชม: 23 ครั้ง

ส่งของไปญี่ปุ่น มีขั้นตอนที่ยุ่งยากและซับซ้อน เพื่อให้ง่ายที่สุดควรหาผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบหรือข้อกำหนด และมีประสบการณ์ในการนำเข้าสินค้าไปยังประเทศญี่ปุ่น


ส่งของไปญี่ปุ่น มีขั้นตอนอะไรบ้าง และการคำนวณภาษีส่งออกสินค้าคิดอย่างไร?

ส่งของไปญี่ปุ่น

ส่งของไปญี่ปุ่น มีขั้นตอนที่ยุ่งยากและซับซ้อน เพื่อให้ง่ายที่สุดควรหาผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบหรือข้อกำหนด และมีประสบการณ์ในการนำเข้าสินค้าไปยังประเทศญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ สะดวกสบาย และตรงต่อเวลา ครอบคลุมทั่วประเทศ อีกทั้งการขนส่งในประเทศญี่ปุ่นยังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในเรื่องการเดินทางและการนำเข้าหรือส่งออกสินค้า ทำให้การส่งของไปญี่ปุ่นเป็นไปอย่างง่ายดาย เนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยนั่นเอง


สินค้าใดที่ได้รับความนิยมในการส่งไปญี่ปุ่น?

สินค้าที่นิยมส่งของจากไทยไปญี่ปุ่นมีหลากหลายประเภท ดังนี้

อาหาร

เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

สินค้าแฟชั่น

สินค้าเบ็ดเตล็ด


ส่งของไปญี่ปุ่นห้ามส่งอะไร?

ค่าส่งพัสดุไปญี่ปุ่น

การส่งของไปญี่ปุ่นมีสินค้าบางประเภทที่มีข้อกำหนดหรือห้ามนำเข้าเข้ามาในประเทศ ญี่ปุ่นเพื่อความปลอดภัยและป้องกันอันตรายต่าง ๆ ต่อสุขภาพของประชากร สินค้าที่ห้ามหรือมีข้อจำกัดในการนำเข้าไปยังประเทศญี่ปุ่น มีดังต่อไปนี้

  1. อาหารและเครื่องดื่ม: สินค้าที่มีการกำหนดของเข้าตามกฎหมายอาหารและยา และสินค้าที่มีการกำหนดของเข้าตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยของอาหาร เช่น อาหารที่มีสารกันบูด, สารเสพติด, พิษหรือสารก่อมะเร็ง เป็นต้น
  2. ยาและเวชภัณฑ์: ยาที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ ยาที่ไม่ได้รับอนุญาตจากองค์กรอนามัยโลก (WHO) หรือไม่ได้รับการจดทะเบียนในประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น
  3. สิ่งของที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ: เช่น ของเสียหายที่มีอาการก่อให้เกิดโรค วัตถุเสพติด, อาวุธ, สารเคมีที่ถูกห้าม, ของที่มีการควบคุมตามกฎหมาย
  4. สิ่งของที่เป็นอันตราย: เช่น วัตถุระเบิด, วัตถุระเบิด, วัตถุที่เป็นอันตรายต่อสาธารณสุข
  5. สินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์: เช่น สินค้าปลอม สินค้าลอกเลียนแบบ หนังสือ เพลง ภาพยนตร์

การส่งสินค้าไปประเทศญี่ปุ่นควรตรวจสอบกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับประเภทของสินค้าที่คุณต้องการส่งไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดในการส่งสินค้าของคุณ


ส่งของไปญี่ปุ่นคิดภาษีอย่างไร?

อัตราภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าแต่ละประเภทจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า ค่าธรรมเนียมการจัดเก็บสินค้า และข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น ภาษีนำเข้าเป็นสิ่งที่ผู้ส่งสินค้าต้องรับผิดชอบจ่ายทั้งหมด เมื่อส่งพัสดุไปญี่ปุ่น ราคาภาษีมูลค่าสินค้าที่นำเข้าสามารถคำนวณจากมูลค่า CIF ของสินค้า ซึ่งย่อมาจาก ราคาสินค้า (Cost), ค่าประกันภัย (Insurance), ค่าขนส่ง (Freight) และภาษีมูลค่าเพิ่ม 10% 

สูตรการคำนวณภาษีค่าส่งของจากไทยไปญี่ปุ่น:

ภาษีการส่งของไปญี่ปุ่น = มูลค่า CIF x ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 

ตัวอย่างการคำนวณภาษีค่าส่งของไปญี่ปุ่น:

สมมติว่าคุณส่งเสื้อยืดไปยังญี่ปุ่น ราคาขายเสื้อยืดคือ 100 บาท ค่าประกันภัย 10 บาท ค่าขนส่ง 50 บาท ดังนั้นมูลค่า CIF ของสินค้าจะเท่ากับ 160 บาท อัตราภาษีนำเข้าสำหรับเสื้อยืดจากประเทศไทยไปยังญี่ปุ่นคือ 10% 

ภาษีการส่งของไปญี่ปุ่น = 160 บาท x 10% = 16 บาท


ส่งของไปญี่ปุ่นมีขั้นตอนอย่างไร?

การส่งของไปญี่ปุ่นนั้น โดยทั่วไปแล้วจะมีขั้นตอนดังนี้

  1. ตรวจสอบกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการส่งของไปประเทศญี่ปุ่น เช่น กฎหมายเจรจาความปลอดภัยของอาหารและยา และกฎหมายเจรจาการส่งออก-นำเข้า
  2. จัดเตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น ใบขนส่งสินค้า (Bill of Lading), ใบกำกับภาษี (Invoice), ใบรับรองสิทธิบัตรสิ่งทอ (Certificate of Origin) และเอกสารสิทธิบัตรอื่น ๆ ตามที่เกี่ยวข้อง
  3. ทำการแพ็คสินค้าให้เรียบร้อยและปลอดภัยตามข้อกำหนดของญี่ปุ่น เช่น การใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมและมีคุณภาพ
  4. เลือกวิธีการขนส่งที่เหมาะสมกับประเภทและปริมาณของสินค้า เช่น ทางเรือ, ทางอากาศ หรือทางถนน
  5. จัดการค่าใช้จ่ายการนำเข้าสินค้าในญี่ปุ่น เช่น การจ่ายอากรและภาษี, การตรวจสอบสินค้าที่เข้าประเทศ, และการได้รับอนุญาตทางกฎหมาย
  6. จัดส่งสินค้าไปยังปลายทางและให้บริการติดตามสินค้าเพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่ถูกต้องและตรงตามเวลา และควรให้ข้อมูลติดต่อของผู้รับสินค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องในกรณีที่ต้องการการติดต่อเพิ่มเติมหรือในกรณีฉุกเฉิน

ส่งของไปญี่ปุ่นง่ายขึ้น สะดวกขึ้น กับระบบขนส่งที่ครอบคลุมทั่วประเทศ

การส่งของไทยไปญี่ปุ่น สามารถคำนวณภาษีและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอื่น ๆได้จากข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับจากทางศูนย์ภาษีหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของญี่ปุ่น ที่สำคัญต้องตรวจสอบกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้าในญี่ปุ่น การฝ่าฝืนกฎหมายและข้อกำหนดของญี่ปุ่นอาจส่งผลร้ายแรง เช่น ถูกปรับ ถูกจับ หรือถูกเนรเทศออกจากประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในการส่งของไปต่างประเทศญี่ปุ่น ผู้ส่งสินค้าควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด หรือขอคำปรึกษากับบริษัทขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เพื่อขอข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับการส่งของไปญี่ปุ่นเพิ่มเติม


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที