ส่งของไปญี่ปุ่น มีขั้นตอนที่ยุ่งยากและซับซ้อน เพื่อให้ง่ายที่สุดควรหาผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบหรือข้อกำหนด และมีประสบการณ์ในการนำเข้าสินค้าไปยังประเทศญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ สะดวกสบาย และตรงต่อเวลา ครอบคลุมทั่วประเทศ อีกทั้งการขนส่งในประเทศญี่ปุ่นยังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในเรื่องการเดินทางและการนำเข้าหรือส่งออกสินค้า ทำให้การส่งของไปญี่ปุ่นเป็นไปอย่างง่ายดาย เนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยนั่นเอง
สินค้าที่นิยมส่งของจากไทยไปญี่ปุ่นมีหลากหลายประเภท ดังนี้
อาหาร
เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
สินค้าแฟชั่น
สินค้าเบ็ดเตล็ด
การส่งของไปญี่ปุ่นมีสินค้าบางประเภทที่มีข้อกำหนดหรือห้ามนำเข้าเข้ามาในประเทศ ญี่ปุ่นเพื่อความปลอดภัยและป้องกันอันตรายต่าง ๆ ต่อสุขภาพของประชากร สินค้าที่ห้ามหรือมีข้อจำกัดในการนำเข้าไปยังประเทศญี่ปุ่น มีดังต่อไปนี้
การส่งสินค้าไปประเทศญี่ปุ่นควรตรวจสอบกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับประเภทของสินค้าที่คุณต้องการส่งไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดในการส่งสินค้าของคุณ
อัตราภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าแต่ละประเภทจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า ค่าธรรมเนียมการจัดเก็บสินค้า และข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น ภาษีนำเข้าเป็นสิ่งที่ผู้ส่งสินค้าต้องรับผิดชอบจ่ายทั้งหมด เมื่อส่งพัสดุไปญี่ปุ่น ราคาภาษีมูลค่าสินค้าที่นำเข้าสามารถคำนวณจากมูลค่า CIF ของสินค้า ซึ่งย่อมาจาก ราคาสินค้า (Cost), ค่าประกันภัย (Insurance), ค่าขนส่ง (Freight) และภาษีมูลค่าเพิ่ม 10%
สูตรการคำนวณภาษีค่าส่งของจากไทยไปญี่ปุ่น:
ภาษีการส่งของไปญี่ปุ่น = มูลค่า CIF x ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
ตัวอย่างการคำนวณภาษีค่าส่งของไปญี่ปุ่น:
สมมติว่าคุณส่งเสื้อยืดไปยังญี่ปุ่น ราคาขายเสื้อยืดคือ 100 บาท ค่าประกันภัย 10 บาท ค่าขนส่ง 50 บาท ดังนั้นมูลค่า CIF ของสินค้าจะเท่ากับ 160 บาท อัตราภาษีนำเข้าสำหรับเสื้อยืดจากประเทศไทยไปยังญี่ปุ่นคือ 10%
ภาษีการส่งของไปญี่ปุ่น = 160 บาท x 10% = 16 บาท
การส่งของไปญี่ปุ่นนั้น โดยทั่วไปแล้วจะมีขั้นตอนดังนี้
การส่งของไทยไปญี่ปุ่น สามารถคำนวณภาษีและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอื่น ๆได้จากข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับจากทางศูนย์ภาษีหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของญี่ปุ่น ที่สำคัญต้องตรวจสอบกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้าในญี่ปุ่น การฝ่าฝืนกฎหมายและข้อกำหนดของญี่ปุ่นอาจส่งผลร้ายแรง เช่น ถูกปรับ ถูกจับ หรือถูกเนรเทศออกจากประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในการส่งของไปต่างประเทศญี่ปุ่น ผู้ส่งสินค้าควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด หรือขอคำปรึกษากับบริษัทขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เพื่อขอข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับการส่งของไปญี่ปุ่นเพิ่มเติม
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที