Detect

ผู้เขียน : Detect

อัพเดท: 19 ก.ค. 2024 15.50 น. บทความนี้มีผู้ชม: 110 ครั้ง

ตู้เย็น 2 ประตู เป็นรูปแบบตู้เย็นที่ทุกบ้านใช้กัน ใช้แช่เย็นปกติและแช่แข็ง ตอบโจทย์ทุกการใช้งานของครัวเรือน ตู้เย็นสองประตูรุ่นไหนบ้างที่น่าใช้ หาคำตอบได้จากบทความนี้


ตู้เย็น 2 ประตู เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนที่ขาดไม่ได้

ตู้เย็น 2 ประตู เป็นรูปแบบตู้เย็นที่ทุกบ้านใช้กัน ใช้แช่เย็นปกติและแช่แข็ง ตอบโจทย์ทุกการใช้งานของครัวเรือน ตู้เย็นสองประตูรุ่นไหนบ้างที่น่าใช้ หาคำตอบได้จากบทความนี้

ปัจจุบันวิธีการถนอมอาหาร, วัตถุดิบประกอบอาหาร, เครื่องดื่ม และผักผลไม้ ต่าง ๆ ให้มีอายุการใช้งานที่ยืนยาวขึ้น ไม่เสียง่าย และได้ผลลัพธ์ดีที่สุด ก็คือ การแช่สิ่งเหล่านั้นในตู้เย็น หากแต่ว่าถ้ามีของที่ต้องแช่ในตู้เย็นเป็นจำนวนมาก ก็ควรเลือกประเภทตู้เย็นที่เหมาะสมแก่การใช้งาน ซึ่งบทความที่จะกล่าวต่อไปนี้จะเน้นพูดถึงตู้เย็น 2 ประตูพร้อมมอบเคล็ดลับในการเลือกแบบตู้เย็นสองประตูที่ใช้แล้วถูกใจแน่นอน

ตู้เย็น 2 ประตู ของที่ทุกบ้านต้องมี


ตู้เย็น 2 ประตูมีกี่แบบ เป็นแบบไหนบ้าง

สำหรับคนที่ต้องการเลือกซื้อตู้เย็นที่ช่วยประหยัดพลังงาน จุของได้เยอะ แนะนำให้ลองพิจารณาตู้เย็น 2 

ประตู เพราะตู้เย็นสองประตูมีลักษณะเด่น ๆ ดังต่อไปนี้

ตู้เย็น 2 ประตู มีกี่แบบ

ตู้เย็น 2 ประตู มีกี่ประเภท

ตู้เย็น 2 ประตูนั้นมีอยู่หลายประเภท ถ้าแยกตามลักษณะการเปิดปิดของตู้เย็นสองประตู ก็จะมีแบบเปิด

ประตูซ้าย - ขวา หรือ อาจจะเป็นแบบเปิดบน - ล่าง ซึ่งเราจะกล่าวถึงตู้แช่เย็น 2 ประตูแบบเปิดบน-ล่าง

  1. ช่องแช่แข็งด้านบน
    ตู้เย็นสองประตูแบบ Top Freezer ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานโดยไม่ต้องก้มๆเงย ๆ ในเวลาที่ต้องหยิบของสดจากช่องแช่แข็ง
  2. ช่องแช่แข็งด้านล่าง
    ครอบครัวที่ใช้งานช่องแช่เย็นมากกว่าช่องแช่แข็งมักจะนิยมใช้ตู้เย็นสองประตูที่มีช่องแช่แข็งด้านล่างเพื่อหลีกเลี่ยงการก้มเงยบ่อย ๆ ที่ไม่จำเป็น อีกทั้งยังสามารถปรับระดับชั้นวางของข้างในได้เหมาะสมกับการใช้งานด้วย

ตู้เย็น 2 ประตู ตอบโจทย์การใช้งานแบบไหน

ตู้เย็น 2 ประตูสามารถตอบโจทย์ลักษณะการใช้งานดังนี้

การใช้งานตู้เย็น 2 ประตู


ตู้เย็น 2 ประตูพร้อมเคล็ดลับในการเลือกซื้อให้ตรงใจ

เมื่อไรก็ตามที่คิดจะซื้อตู้เย็นสักหนึ่งเครื่อง เราควรพิจารณาหลายปัจจัยด้วยกันก่อนที่จะเลือกซื้อตู้เย็นที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานของผู้ใช้ และเหมาะสมกับขนาดบ้าน

เคล็ดลับในการเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตูมีง่าย ๆ แต่ไม่ควรละเลยในความสำคัญของแต่ละปัจจัย ดังนี้

  1. เนื่องจากตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องเสียบปลั๊กอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันพัก ดังนั้นค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปกับค่าไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เราควรเลือกตู้เย็นสองประตูที่สามารถช่วยประหยัดไฟได้มาก เช่น ตู้เย็นฉลากเบอร์ 5 ที่ทำให้เสียค่าไฟเพียงไม่กี่ร้อยบาทต่อปี
  2. ขนาดของตู้เย็น ควรเลือกให้เหมาะกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว เช่น
    • ครอบครัวขนาดกลาง (สมาชิก 3-4 คน) ควรเลือก 12-18 คิว สามารถจุได้ 350-530 ลิตร
    • ครอบครัวขนาดใหญ่ (สมาชิก 5 คนขึ้นไป) ควรเลือก 15 คิวขึ้นไป สามารถจุได้ 440 ลิตรขึ้นไป
  3. ลักษณะการใช้งาน - เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีการปิด-เปิดบ่อย ๆ ที่ส่งผลต่อการทำงานของคอมเพรสเซอร์
  4. ประเภทของตู้เย็น เช่นตู้เย็น 2 ประตูประเภทที่มีช่องแช่แข็งไม่ด้านบนก็ด้านล่างนั้นเหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด 
  5. รูปแบบดีไซน์ภายในตู้เย็นสองประตูที่ช่วยตอบโจทย์การใช้งาน
    • มีช่องผักผลไม้ที่มีความเย็นและชื้นที่เหมาะสมทำให้คงความสดใหม่ได้นาน
    • มีชั้นวางข้างประตูที่กว้างพอให้แช่ขวดนม ขวดน้ำต่าง ๆ 
    • มีลิ้นชัก ช่องแยกภายในที่มีอุณหภูมิเหมาะสมกับอาหารที่แช่
    • สามารถทำความสะอาด ปรับขนาดช่องแช่ได้ง่าย ถอด-เข้าออกได้
  6. มีรายละเอียดข้อมูลของตู้เย็น 2 ประตูที่ต้องการเลือกซื้อ ผู้ผลิต รุ่น ปริมาตรภายใน วิธีการใช้ อุปกรณ์ควบคุม การทำความสะอาด การบำรุงรักษา มีฟีเจอร์เสริมอะไรบ้าง เช่น ระบบทำความเย็น ระบบกรองอากาศ ระบบประหยัดพลังงาน ฯลฯ
  7. ควรมีการรับประกันเพื่อป้องกันความเสียหาย อีกทั้งยังง่ายในการซ่อมแซม
  8. เลือกรูปแบบที่ทันสมัย ใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน และสามารถเคลื่อนย้ายเพื่อจัดวางได้สะดวก
  9. ตู้เย็น 2 ประตูราคามีหลากหลายเริ่มตั้งแต่หลายพันจนถึงหลายหมื่น ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลายกลุ่ม

ตู้เย็น BEKO 2 ประตู รุ่นสุดคุ้มที่ตอบโจทย์ทุกข้อ

ตู้เย็น 2 ประตู จัดเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีไว้ใช้ประจำบ้านหรือประจำสำนักงาน ปัจจุบันมีตู้เย็นสองประตูให้เลือกอยู่หลากหลายแบรนด์ ขนาดตู้เย็น 2 ประตูก็มีให้เลือกหลายขนาดเพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกและปริมาณอาหารที่ต้องการเก็บ นอกจากนี้ราคาตู้เย็น 2 ประตูก็มีให้เลือกให้เข้ากับงบประมาณที่ตั้งไว้

อย่างไรก็ดีเรามีตู้เย็น beko 2 ประตูที่อยากจะแนะนำให้คนที่สนใจจะเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตูซึ่งก็มีให้เลือกอยู่2 ประเภทด้วยกัน ดังต่อไปนี้

ตู้เย็นสองประตูช่องแช่แข็งด้านบน

1. ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อ Beko รุ่น RDNT271I50HFK

ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อ Beko รุ่น RDNT271I50HFK

ขอบคุณรูปภาพจาก beko.com

ตู้เย็น Beko 2 ประตู ขนาด 9 คิว สีดำ มีช่องแช่แข็งด้านบน ไซส์ตู้เย็นคือ 54x165x60 ซม. ส่วนระบบทำความเย็นเป็นแบบแยกส่วน และเป็นแบบ No-Frost Dual Cooling ทำให้ไม่มีน้ำแข็งเกาะ หรือมีกลิ่นปะปนกัน

ชั้นวางทำจากกระจกนิรภัย แข็งแรง ทนทาน รับน้ำหนักได้มากถึง 25 กก. 

•  มีน้ำหนักแค่ 47 กก.
•  มีถาดทำน้ำแข็งแบบบิดหมุนได้ จึงทำน้ำแข็งได้ง่าย ๆ 
•  ใช้เทคโนโลยีแสงสามสี (Harvest Fresh) ที่ช่วยรักษาคุณค่าวิตามิน A, C ของผักให้ยาวนานขึ้น
•  มีโหมดพักร้อน (Vacation Mode) ที่ช่วยประหยัดพลังงานโดยปิดส่วนทำความเย็น
•  มีระบบควบคุมแบบ Electronic
•  มีสัญญาณเตือนประตูเปิด
•  รับประกันคอมเพรสเซอร์ 12 ปี
•  ประหยัดไฟเบอร์ 5
•  ราคา 9,990.- บาท

2. ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อ Beko รุ่น RDNT200I50S

ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อ Beko รุ่น RDNT200I50S

ขอบคุณรูปภาพจาก beko.com

ตู้เย็น Beko 2 ประตู ขนาด 6.5 คิว สีเทา มีช่องแช่แข็งด้านบน ไซส์ตู้เย็นคือ 54x135x55 ซม. มีน้ำหนักแค่ 35 กก.

•  ชั้นวางทำจากกระจกนิรภัย แข็งแรง ทนทาน รับน้ำหนักได้มากถึง 25 กก 
•  มีเทคโนโลยีทำความเย็นอัจฉริยะ (NeoFrost) ทั้งช่องแช่เย็น และช่องแช่แข็ง กลิ่นอาหารไม่ปนกัน
•  มีถาดทำน้ำแข็งแบบบิดหมุนได้ จึงทำน้ำแข็งได้ง่าย ๆ 
•  มีระบบควบคุมอุณหภูมิแบบดิจิตัล (Digital Tjemp Control)
•  มีตัวกรองกลิ่น (Active Odor Filter) ทั้งช่องแช่เย็น และช่องแช่แข็ง
•  มีโหมดพักร้อน (Vacation Mode) ที่ช่วยประหยัดพลังงานโดยปิดส่วนทำความเย็น
•  มีขอบยางแบบป้องกันการสะสมแบคทีเรีย
•  รับประกันคอมเพรสเซอร์ 12 ปี
•  ประหยัดไฟเบอร์ 5
•  ราคา 7,790.- บาท

ตู้เย็นสองประตูช่องแช่แข็งด้านล่าง

1. ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อ Beko รุ่น RCNT415E20VZHFGW

ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อ Beko รุ่น RCNT415E20VZHFGW

ขอบคุณรูปภาพจาก beko.com

ตู้แช่เย็น 2 ประตู ขนาด 14 คิว สีกระจกขาว มีช่องแช่แข็งด้านล่าง 70 ซม. ไซส์ตู้เย็นคือ 70x172x67 ซม. มีน้ำหนัก 72 กก.

•  ชั้นวางทำจากกระจกนิรภัย แข็งแรง ทนทาน รับน้ำหนักได้มากถึง 25 กก.
•  มีโหมดพักร้อน, โหมดประหยัดพลังงาน และมีนวัตกรรม Prosmart Inverter Compressor ที่ปรับการทำงานให้เหมาะสมกับอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง
•  ใช้เทคโนโลยีแสงสามสี (Harvest Fresh) ที่ช่วยรักษาคุณค่าวิตามิน A, C ของผักให้ยาวนานขึ้น
•  มีระบบควบคุมแบบ Electronic
•  มีตัวกรองกลิ่น (Active Odor Filter) ทั้งช่องแช่เย็น และช่องแช่แข็ง
•  มีสัญญาณเตือนประตูเปิด
•  รับประกันคอมเพรสเซอร์ 12 ปี
•  ประหยัดไฟเบอร์ 5
•  ราคา 21,990.- บาท

2. ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อ Beko รุ่น RCNT340I30VHFSUBL

ตู้เย็น 2 ประตู ยี่ห้อ Beko รุ่น RCNT340I30VHFSUBL

ขอบคุณรูปภาพจาก beko.com

ตู้แช่เย็น 2 ประตู ขนาด 11.4 คิว สีน้ำเงิน มีช่องแช่แข็งด้านล่าง 60 ซม. ไซส์ตู้เย็นคือ 60x172x67 ซม. น้ำหนัก 66 กก.

•  ชั้นวางทำจากกระจกนิรภัย แข็งแรง ทนทาน รับน้ำหนักได้มากถึง 25 กก.
•  มีเทคโนโลยีทำความเย็นอัจฉริยะ (NeoFrost) ทั้งช่องแช่เย็น และช่องแช่แข็ง กลิ่นอาหารไม่ปนกัน
•  ใช้เทคโนโลยีแสงสามสี (Harvest Fresh) ที่ช่วยรักษาคุณค่าวิตามิน A, C ของผักให้ยาวนานขึ้น
•  มีตัวกรองกลิ่น (Active Odor Filter) ทั้งช่องแช่เย็น และช่องแช่แข็ง
•  มีโหมดพักร้อน (Vacation Mode) ที่ช่วยประหยัดพลังงานโดยปิดส่วนทำความเย็น
•  มีถาดทำน้ำแข็งแบบบิดหมุนได้ จึงทำน้ำแข็งได้ง่าย ๆ พร้อมกล่องเก็บน้ำแข็ง
•  มีสัญญาณเตือนประตูเปิด
•  รับประกันคอมเพรสเซอร์ 12 ปี
•  ประหยัดไฟเบอร์ 5
•  ราคา 12,990.- บาท


สรุป ตู้เย็น 2 ประตูที่ไม่ควรพลาด

ปัจจุบันมีตู้เย็นหลากหลายยี่ห้อ รูปแบบดีไซน์ ขนาดความจุ ราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสนซึ่งมีให้เลือกใช้ได้ตามความต้องการของลูกค้า ขอแค่ได้มีการศึกษาหาข้อมูลพร้อมพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ ซึ่งทางเราขอแนะนำตู้เย็น 2 ประตูรุ่นต่าง ๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วเบื้องต้น เพราะมีฟังก์ชั่นใช้งานที่คุ้มค่าสมราคา รูปแบบสวยทันสมัยเหมาะที่จะเป็นเครื่องตกแต่งภายในบ้านอีกชิ้นหนึ่ง


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที