ปัญหาเกี่ยวกับสายตา เป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถรู้ตัวได้ไม่ยาก ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติกับดวงตาของเรา และหนึ่งในโรคและอาการที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคน คือต้อลม ต้อเนื้อ โดยอาการเหล่านี้ มีสาเหตุมาจากเรื่องใกล้ตัว และเราจะมาทำความเข้าใจ สาเหตุของการเกิดต้อลมเบื้องต้น พร้อมวิธีรับมือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้ รวมไปถึงความรู้เกี่ยวกับอาการต้อลม รักษาได้อย่างไร พร้อมแนวทางการดูแลตัวเองกับโรคทางสายตา
ต้อลม คืออาการที่เกี่ยวกับดวงตา มีชื่อทางการว่า Pinguecula มีลักษณะเป็นเนื้อนูน ที่ติดอยู่บริเวณเยื่อตาขาว เป็นเนื้อเยื่อที่มองเผิน ๆ จะไม่เห็นชัดเจน แต่หากมองดี ๆ เราจะเห็นได้ชัด ซึ่งจะเห็นว่าเป็นเหมือนก้อนเนื้อสีเหลืองปิดทับดวงตา ซึ่งอาการดังกล่าว ไม่ส่งผลให้ผู้ที่เป็นเกิดความเจ็บปวดใด ๆ โดยเราสามารถสังเกตตัวเองได้ เพราะต้อลมส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่บริเวณหัวตาใกล้จมูกทั้งสองข้าง ตาต้อลมก็มีโอกาสเกิดได้ทั้งหัวตาและหางตา
อาการต้อลม ที่เราเห็นเกาะอยู่บริเวณเยื่อบุตา จะเป็นก้อนที่สะสมจากไขมัน แคลเซียม โปรตีน หรือจะเป็นไปได้ทั้งหมด ลักษณะหรือรูปทรงของต้อลม จะเป็นได้ทั้งรูปแบบวงกลม หรือสามเหลี่ยม และมีการเจริญเติบโต หรือขยายใหญ่ขึ้นได้หากไม่รักษา หรือรับมือกับต้อลม แน่นอนว่าหากเราพบว่าเราเป็นต้อลมอาการเริ่มต้น เราจะรู้สึกได้ว่าการมองเป็นเปลี่ยนไป มีการระคายเคือง หรือแสบ ๆ คัน ๆ บริเวณรอบดวงตา และมีน้ำตาไหลบ่อยครั้ง
โดยตาต้อลม ที่มีลักษณะเป็นเนื้อเหลือง ๆ ติดอยู่ที่เยื่อบุตา หากลามไปถึง Corner หรือกระจกตาดำ ทางการแพทย์ จะถือว่าเป็นตาต้อเนื้อ หรือ Pterygium ที่มีเส้นเลือดหรือเนื้อรูปร่างวงกลมหรือสามเหลี่ยมติดบนกระจกตาดำ แน่นอนว่า หากต้อลมเริ่มมีอาการหนัก จะเกิดการระคายเคืองบ่อยครั้ง มีน้ำตาไหลเนื่องจากการระคายเคือง อาจมีอาการตาบวม ตาแดง โดยเบื้องต้น เราสามารถแก้ไขการระคายเคืองจากต้อลมด้วยการใช้ยาหยอดตา
สาเหตุของการเกิดต้อลม หรือต้อเนื้อ เกิดได้หลัก ๆ 2 กรณี โดยแบ่งออกเป็นอาการของผู้ที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงจากการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแสงแดดในชีวิตประจำวัน อีกกรณีของต้อลมที่ตาหากไม่ได้มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง ก็มักจะเกิดในช่วงวัยชรา หรือเกิดกับผู้สูงอายุ โดยอัตราการเกิดต้อลมในผู้สูงอายุมีมาก ขึ้นอยู่กับอาการว่าเป็นมากหรือเป็นน้อย โดยรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุ ของการเกิดต้อลม ต้อเนื้อ สามารถพิจารณาเพิ่มเติมได้ดังนี้
สาเหตุการเกิดต้อลม ต้อเนื้อ จากช่วงวัย
โรคต้อลม เกิดได้กับผู้ที่อยู่ในช่วงวัยชรา หรือเป็นผู้สูงอายุ มีอายุเฉลี่ย 40 ปีขึ้นไป และจะเริ่มเกิดอาการชัดเจนขึ้นเมื่อมีอายุมากขึ้น ซึ่งต้อลมในผู้สูงอายุ หรือ Pinguecula คืออาการที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้มาก โดยลักษณะจะไม่ต่างจากผู้ที่เป็นต้อลม ต้อเนื้อทั่วไป สามารถรักษาให้หายได้ แต่จะยิ่งเกิดขึ้นหรือมีอาการหนักขึ้น หากเราเป็นทั้งผู้สูงอายุ และมีพฤติกรรมที่ต้องเจอแสงแดด แสง UV รวมไปถึงการอยู่กับฝุ่น หรือควันเป็นเวลานานจนระคายเคืองตา
สาเหตุการเกิดต้อลม จากสภาพแวดล้อม
สภาพแวดล้อมที่ส่งผลกับอาการต้อลม คือพื้นที่ ที่มีสภาพแห้ง เต็มไปด้วยฝุ่นและควัน ส่งผลให้ดวงตาได้รับผลกระทบ เกิดการระคายเคืองอย่างต่อเนื่อง และปัจจัยหลักของการเกิดต้อลม คือการที่ดวงตาสัมผัสกับ แสงแดด หรือ แสง UV แน่นอนว่าอาการไม่ได้ร้ายแรง หรือเกิดขึ้นทันที แต่เกิดจาก ดวงตาที่สัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลาต่อเนื่อง ซึ่ง ต้อลมเป็นอาการที่เมื่อเกิดอาการแล้ว สามารถแก้ไขเบื้องต้นด้วยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรม และพื้นที่ดังกล่าว
ต้อลม ต้อเนื้อ อันตรายไหม
โรคต้อลม หรือต้อเนื้อ ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ได้มีผลอันตรายจนถึงขั้นตาบอด และไม่ส่งผลใด ๆ กับดวงตาที่จะสร้างผลกระทบร้ายแรง แต่จะทำให้ผู้ที่เป็นโรคต้อลม ต้อเนื้อ ระคายเคือง และแสบ ๆ คัน ๆ จนทำให้การใช้ชีวิตประจำวันไม่ปกติได้ โดยอาการดังกล่าวหากเป็นน้อย เราก็สามารถหาวิธีรักษาต้อลมด้วยตัวเองได้ ในขณะเดียวกัน ก็สามารถหลีกเลี่ยงสาเหตุของการเกิดต้อลมได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น ต้อลม คือโรคที่เราสามารถรับมือกันมันได้
ผลกระทบจากต้อลม
ขั้นตอนการรักษาโรคต้อลม หรือต้อเนื้อ จะขึ้นอยู่กับอาการว่าเป็นหนักหรือเบา ในกรณีที่ไม่ได้เป็นหนัก จะมีหนทางแก้ไขไม่ยาก สามารถใช้วิธีรักษาต้อลมด้วยตัวเองได้ ทั้งการหลีกเลี่ยง และการรักษา ให้ทำทั้งสองอย่างควบคู่กัน ในขณะที่ หากอยู่ในกรณีที่เป็นต้อเนื้อ มีการระคายเคือง และส่งผลต่อการมองเห็นอย่างรุนแรง ต้อลม ก็รักษาให้หายได้ด้วยการพบ จตุแพทย์ในโรงพยาบาล เพื่อช่วยประเมินอาการ และดำเนินการรักษาให้หายต่อไป
สำหรับผู้ที่มีอาการในระยะเริ่มต้น อยู่ในระดับไม่รุนแรง
สามารถแก้หรือรักษาอาการต้อลมเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง เริ่มจากการหลีกเลี่ยง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น นั่นคือการหลีกเลี่ยงในการทำงาน หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้สายตาต้องกับแสง UV ในกรณีที่ผู้ป่วย จำเป็นต้องเผชิญกับแสง UV ให้ใส่แว่นกันแดด หรืออุปกรณ์ป้องกันฝุ่น และแสง ที่ส่งผลกระทบต่อสายตา เพื่อลดการระคายเคือง ในกรณีที่ผู้ป่วยต้อลม มีอาการคัน สามารถใช้ยาหยอดตาต้อลมบรรเทาอาการอักเสบ และคันได้
ผู้ที่มีอาการต้อลมระยะรุนแรง และมีการระคายเคืองอย่างต่อเนื่อง
ในผู้ที่มีอาการต้อเนื้อ หรือเป็นต้อลม เช่น กรณีที่มีเนื้อลุกลามในกระจกตามากเกินไป และมีอาการที่พิจารณาแล้วว่าเป็นต้อลมเรื้อรัง มีการระคายเคืองต่อเนื่อง และส่งผลกับการมองเห็น รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวัน วิธีรักษาต้อลมให้หายขาด คือการเข้าไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ และจะต้องมีการผ่าตัดเอาเนื้อออกไปจากเยื่อตา แน่นอนว่าเมื่อรักษาหายแล้ว ต้อลมที่ตา มีโอกาสกลับมาเป็นสูง หากยังไม่หลีกเลี่ยงพฤติกรรม และพื้นที่เสี่ยง
โดยสรุปแล้ว อาการต้อลม สามารถป้องกันได้ และรักษาให้หายได้ เพราะความเป็นจริงแล้ว ต้อลม ต้อเนื้อ ไม่ได้ส่งผลให้ตาบอด แต่เกิดจากเนื้อที่ลุกลามไปที่ตาดำ และส่งผลต่อการมองเห็น หากเข้ารับการผ่าตัด ก็สามารถกับมามองเห็นได้ สำคัญคือการป้องกัน และดูแลรักษา เมื่อมีอาการ เราจะต้องปฏิบัติให้เคร่งครัด โดยเฉพาะผู้ที่เป็นต้อลมระยะแรก หากทำได้ ก็ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ดังนั้นในผู้ที่มีความสุ่มเสี่ยงอย่างผู้สูงอายุ จึงต้องระมัดระวังเสมอ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
