ธนงทวย

ผู้เขียน : ธนงทวย

อัพเดท: 26 มิ.ย. 2024 23.21 น. บทความนี้มีผู้ชม: 115 ครั้ง

OEM คือ โรงงานที่รับจ้างผลิตสินค้าให้ลูกค้า เพื่อนำไปจำหน่าภายใต้แบรนด์ของตนเอง โดยโรงงาน OEM จะทำหน้าที่ผลิตสินค้าให้ตรงตามสเปคและมาตรฐานที่ลูกค้ากำหนด


ธุรกิจ OEM คืออะไร ทำไมถึงสำคัญกับคนที่เริ่มทำแบรนด์?

 OEM

 

เจ้าของแบรนด์มือใหม่ควรทราบ ก่อนตัดสินใจลงทุนกับสินค้าของตัวเอง การเลือกโรงงาน OEM ที่ดีมาเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์มีความสำคัญอย่างมาก เพื่อวางแผนให้ธุรกิจเติบโตไปอย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพมากที่สุด มาทำความเข้าใจว่าธุรกิจ OEM คืออะไร? ทำไมได้รับความนิยมในปัจจุบันในหมู่เจ้าของแบรนด์ที่ต้องการเริ่มทำแบรนด์สินค้าครั้งแรก


ทำความรู้จักกับ OEM ว่าคืออะไร

OEM คืออะไร

 

OEM ย่อมาจาก Original Equipment Manufacturer คือ ผู้ผลิตอุปกรณ์ตามแบบฐาน เป็นโรงงานหรือบริษัท OEM ที่รับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์อื่น โดยใช้แบบร่าง สูตร หรือเทคโนโลยีที่ทางแบรนด์กำหนด สินค้าที่ผลิตแบบ OEM นั้น แบรนด์จะติดชื่อแบรนด์ของตัวเอง และวางจำหน่ายในตลาด

 


ข้อดีและข้อเสียของ OEM เป็นอย่างไร

ข้อดีของ OEM

ต้นทุนต่ำ - สินค้า OEM มักมีราคาต้นทุนต่ำกว่าสินค้าที่ผลิตเอง เพราะโรงงาน OEM ผลิตสินค้าจำนวนมาก และมีประสิทธิภาพในการผลิตสูง

ระยะเวลาในการผลิตสั้น - โรงงาน OEM มักมีประสบการณ์และเทคโนโลยีในการผลิตสินค้า ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้รวดเร็ว

ความเสี่ยงต่ำ - แบรนด์ไม่จำเป็นต้องลงทุนในโรงงาน หรือเครื่องจักร จึงมีความเสี่ยงต่ำ

ความหลากหลาย - โรงงาน OEM หลายแห่ง สามารถผลิตสินค้าได้หลากหลายประเภท ทำให้แบรนด์สามารถเลือกสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้

ข้อเสียของ OEM

การควบคุมคุณภาพ - แบรนด์อาจควบคุมคุณภาพสินค้าได้ยาก เพราะสินค้าผลิตโดยโรงงาน OEM

การขาดความแตกต่าง - สินค้า OEM มักมีดีไซน์ หรือฟังก์ชั่นที่คล้ายคลึงกัน ทำให้แบรนด์มีความแตกต่างจากคู่แข่งน้อย

การพึ่งพาโรงงาน OEM - แบรนด์อาจพึ่งพาโรงงาน OEM มากเกินไป หากโรงงาน OEM มีปัญหา อาจส่งผลต่อธุรกิจของแบรนด์


ประเภทของโรงงานผลิตอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ OEM มีอะไรบ้าง

โรงงาน OEM

 

OEM, ODM และ OBM ต่างเป็นโมเดลธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้า แต่มีความแตกต่างกันในแง่ของขอบเขตงาน ความรับผิดชอบ และความเสี่ยงต่างๆ ความแตกต่างระหว่างโรงงาน OEM กับ ODM และ OBM มีดังนี้

ODM (Original Design Manufacturer)

การทำ ODM นั้น เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสินค้าที่มีความแตกต่างจากคู่แข่ง ควบคุมคุณภาพได้ดีกว่า OEM และมีส่วนร่วมในกระบวนการออกแบบ ซึ่งโรงงานจะออกแบบและผลิตสินค้าตามความต้องการของเจ้าของแบรนด์ แต่แบรนด์สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ โดยที่แบรนด์รับผิดชอบในการกำหนดแนวคิด ความต้องการหลัก และกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก 

 

ข้อดีคือ ควบคุมคุณภาพได้ดีกว่า OEM มีความแตกต่างจากคู่แข่ง แบรนด์มีส่วนร่วมในกระบวนการออกแบบ

ข้อเสียคือ ต้นทุนสูงกว่า OEM ระยะเวลาในการผลิตนานกว่า OEM ความเสี่ยงปานกลาง

OBM (Original Brand Manufacturer)

การทำ OBM นั้น เหมาะสำหรับแบรนด์ที่มีความมั่นคงทางการเงิน ต้องการควบคุมทุกกระบวนการ และต้องการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งโรงงานจะรับผิดชอบทุกกระบวนการ ตั้งแต่การออกแบบ พัฒนา ผลิต ไปจนถึงทำการตลาด และจำหน่ายภายใต้แบรนด์ของตนเอง 

ข้อดีคือ ควบคุมคุณภาพได้ มีความแตกต่างจากคู่แข่งสูงสุด กำไรสูง

ข้อเสียคือ ต้นทุนสูงที่สุด ระยะเวลาในการผลิตนานที่สุด ความเสี่ยงสูง


ข้อควรรู้ก่อนเลือกทำโรงงาน OEM

การเริ่มต้นธุรกิจแบรนด์ OEM นั้น เต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย แต่ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่เวทีธุรกิจ สิ่งสำคัญคือการเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จ และลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด ข้อควรรู้ก่อนเริ่มทำแบรนด์ OEM คือ

1. ศึกษาตลาดและกลุ่มเป้าหมาย

2. กำหนดคอนเซ็ปต์แบรนด์

3. เลือกโรงงาน OEM ที่ดี

4. การพัฒนาสินค้า

5. เตรียมแผนการตลาด

6. ศึกษาเรื่องกฎหมาย

7. คำนวณงบการเงิน


วิธีการผลิตสินค้า OEM ดีต่อแบรนด์จริงหรือไม่?

OEM คือวิธีการผลิตสินค้าที่ได้รับความนิยมจากแบรนด์หลายแห่ง เพราะช่วยให้แบรนด์สามารถลดต้นทุน ระยะเวลาในการผลิต กลยุทธ์ทางธุรกิจ และความเสี่ยง แต่แบรนด์ควรพิจารณาข้อดี และข้อเสียของการใช้สินค้า OEM อย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการ OEM


 

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที