Detect

ผู้เขียน : Detect

อัพเดท: 20 มิ.ย. 2024 00.27 น. บทความนี้มีผู้ชม: 43 ครั้ง

IELTS หรือ ไอเอล การสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษโดยองค์กร ESOL 3 แห่ง โดยแบ่งข้อสอบออกเป็น 4 พาร์ท ได้แก่ Listening, Reading, Writing และ Speaking


ทำความรู้จักกับ IELTS คืออะไร ออกสอบอะไรบ้าง?

IELTS คืออะไร

IELTS หรือ ไอเอล การสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษโดยองค์กร ESOL 3 แห่ง โดยแบ่งข้อสอบออกเป็น 4 พาร์ท ได้แก่ Listening, Reading, Writing และ Speaking

สำหรับใครก็ตามที่ศึกษาภาษาอังกฤษ ต้องการนำภาษาอังกฤษไปใช้ศึกษาในภาคอินเตอร์ หลักสูตรนานาชาติ หรือต้องการศึกษาต่อต่างประเทศ ในหลายๆที่จะต้องการผลคะแนน IELTS เพื่อบ่งบอกถึงความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้สอบ โดยสำหรับการสอบ IELTS เป็นการสอบวัดประเมินความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน จึงทำให้หลายคนต้องการได้คะแนน IELTS ที่ดี โดยเราจะมาดูกันว่า IELTS คืออะไร มีการสอบอะไรบ้าง ประเภทการสอบ IELTS มีกี่ประเภท ไปดูกันเลย 


IELTS ทำความรู้จัก คืออะไร ทำไมต้องสอบ

IELTS นั้นย่อมาจาก “Internaional English Language Test System” โดยเป็นแบบทดสอบที่มาจากความร่วมมือจากองค์การ ESOL 3 แห่งโดยมีองค์กรมาจากองค์กรการศึกษา IDP IELTS ของออสเตรเลีย, บริติชเคานซิล และ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ 

IELTS หรือไอเอล คือแบบทดสอบภาษาอังกฤษที่ได้รับจากนานาชาติ จุดประสงค์ของการสอบ IELTS คือประเมินความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้านคือด้าน การฟัง การเขียน การอ่านและการพูดของผู้พูดที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา โดยวัดความสามารถในความเข้าใจ การใช้ภาษาในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้ได้ Certificate ในการนำไปยื่นเพื่อการศึกษาต่อภาคอินเตอร์ หรือต่างประเทศ ย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร โดยคะแนนการประเมินของ IETLS จะแบ่งออกเป็น 9 ระดับหรือที่เข้าใจกันว่าคะแนน 1 ถึง 9 ที่เราเคยได้ยินกันนั่นเอง โดยผู้ที่ได้คะแนนระดับ 1 คือผู้ที่ไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เลย จนถึงระดับ 9 ที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์ต่างๆได้อย่างเชี่ยวชาญ 

ในปัจจุบัน IELTS มีอยู่ใน 140 ประเทศ ได้รับการยอมรับมาตรฐานจากทั่วโลก มีสถานที่สอบมากกว่า 1,200 แห่ง สำหรับ ILETS Certificate ได้มีการใช้ไปประเมินความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษของเจ้าหน้าที่และนักศึกษา จากหลายองค์กร มหาวิทยาลัยชั้นนำต่างๆของโลก และหน่วยงานต่าง ๆ ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานและสื่อสาร 


IELTS มีประเภทการสอบอะไรบ้าง ต่างกันอย่างไร 

IELTS เป็นการทดสอบวัดระดับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด 4 ทักษะคือการ การฟัง การเขียน การอ่าน และการพูด โดยประเภทการสอบ IELTS มีดังนี้คือ 

IELTS Academic 

IELTS แบบ Academic เป็นการสอบวัดระดับความสามารถภาษาอังกฤษในเชิงวิชาการโดยมีทั้งแบบปกติและแบบ UKVI (UKVI คือ IELTS สำหรับการยื่นวีซ่าเพื่อศึกษาต่อและตรวจคนเข้าเมืองของสหราชอาณาจักร ) จุดประสงค์เพื่อสำหรับใช้ในการยื่นเพื่อศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา ปริญญาโท ปริญญาเอกในมหาลัยชั้นนำหลายแห่งทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ IELTS Academic สามารถใช้ยื่นได้ทั้งภาคปกติที่ต้องการคะแนน การศึกษาต่อภาคอินเตอร์ และการศึกษาต่อต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารและการเรียน

IELTS General Training

IELTS แบบ General Training คือ IELTS ที่มาการสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษ 4 ด้านเช่นเดียวกับแบบ IELTS Academic โดยสำหรับพาร์ท Listening และ Speaking นั้นเหมือนกับ Academic สำหรับพาร์ทที่แตกต่างนั้นคือพาร์ท Reading และ Writing ที่จะมีความซับซ้อนและยากน้อยกว่าแบบ IELTS Academic เรียกได้ว่าเป็นการวัดระดับภาษาอังกฤษระดับพื้นฐาน โดยจุดประสงค์ของ IELTS General Training คือเพื่อใช้ในการยื่นสื่อสารต่อต่างประเทศหรือภาคอินเตอร์ในระดับต่ำกว่าอุดมศึกษา และ สำหรับผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานและไปทำงานต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร 


IELTS ออกสอบอะไรบ้าง มีกี่ส่วน 

อย่างที่กล่าวไปว่า IELTS นั้นเป็นการสอบวัดระดับการใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด 4 ทักษะนั่นคือ การฟัง (Listening), การอ่าน(Reading), การเขียน(Writing) และการพูด(Speaking) โดยในพาร์ทแต่ละพาร์ทนั้นมีรายละเอียดดังนี้คือ 

Listening

การสอบ IELTS พาร์ทการฟัง (Listening) จะใช้เวลา 30 นาทีในการสอบ มีคำถามทั้งหมด 40 ข้อ โดยเนื้อหาที่สอบจะจำลองสถานการณ์บทสนทนา บทพูดต่าง ๆโดยผู้สอบจะฟังจากเครื่องเล่น CD และสามารถฟังได้เพียงรอบเดียวเท่านั้น และจะมีเวลาให้สำหรับการอ่านคำถามและการเขียนคำตอบลงกระดาษคำตอบ และในช่วงท้ายนั้นจะมีเวลาให้ผู้สอบ IELTS ได้ทำการตรวจความถูกต้องในกระดาษคำตอบอีก 10 นาที 

Reading

สำหรับพาร์ทการอ่าน(Reading)ของ IELTS ใช้เวลา 60 นาที มีคำถามทั้งหมด 40 ข้อ โดยจะประกอบด้วยเนื้อหาบทความให้ผู้สอบ IELTS อ่าน 3 บทความซึ่งเนื้อหาของบทความสามารถมาได้จากหลายแบบ สำหรับ IELTS Academic บทความมักเป็นบทความจากประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม และ วิทยาศาสตร์ ซึ่งต่างจาก IELTS General Trainning ที่บทความจะเน้นไปทางบทความที่เห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวันเช่น หนังสือพิมพ์ บทความข่าว และ นิตยสาร เป็นต้น โดยในพาร์ทนี้ผู้สอบ IELTS ควรทำเวลาให้ดีโดยควรทำข้อสอบ 1 ข้อไม่ควรเกิน 1.30 นาทีเพื่อที่ทำข้อสอบได้ทันเวลา 

Writing

สำหรับพาร์ทการเขียน(Writing) ของ IELTS ใช้เวลาทั้งหมด 60 นาที โดยจะแบ่งเป็น 2 เรื่องดังนี้คือ

  1. IETLS Task 1 จะเป็นการบรรยายกราฟ ชาร์ท หรือไดอะแกรม โดยใน Task 1 นั้นจะต้องเขียนตามข้อมูลที่ข้อสอบนั้นให้มาอย่างน้อย 150คำ โดยลักษณะการเขียนเป็นการเปรียบเทียบข้อมูล บรรยายข้อมูล การทำงานของระบบต่าง ๆ ซึ่งผู้สอบควรเขียนข้อมูลให้ชัดเจนและถูกต้อง และเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของข้อสอบเพื่อเป็นการเพิ่มคะแนนให้กับ Writing Task 1 
  2. IELTS Task 2 จะเป็นการเขียนแสดงความคิดเห็น การหา solution ให้กับสถานการณ์นั้น การเขียนเรียงความและหรือรายงานเป็นทางการ โดยสำหรับ Task 2 จะต้องเขียนคำตอบอย่างน้อย 250 คำ 

พาร์ทการเขียนนั้นจะมีความละเอียดอ่อนในการให้คะแนนเนื่องจากต้องคำนึงถึงรูปแบบการเขียนต่างๆเช่น ความเกี่ยวข้องของคำที่ควรใช้และสถานการณ์ รูปแบบประโยค ความเกี่ยวข้องและความสัมพันธ์ การเลือกใช้คำที่เหมาะสม เป็นต้น 

Speaking

การสอบ IETLS พาร์ทการพูด(Speaking) จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนดังนี้คือ

  1. Introduction and interview หลักๆคือการพูดคุยทั่วไปการสอบถามเรื่องชีวิตประจำวัน เช่น ครอบครัว โรงเรียนที่จบมา ที่ทำงาน สิ่งที่ชอบ เป็นต้น โดยใช้เวลาประมาณ 4 นาที
  2. Long turn โดยในส่วนนี้ทางผู้คุมสอบนั้นเตรียมการ์ดคำถามที่มีหัวข้อกำหนดมาให้และ จะให้เวลาผู้สอบเตรียมตัว 1 นาที จากนั้นจะเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อที่ได้มาโดยใช้เวลาประมาณ 2 นาที
  3. Discuss โดยเป็นการพูดคุยโดยใช้หัวข้อจากข้อที่ 2 โดยเป็นการถามถึงไอเดีย ความคิดเห็นของเรื่อง ซึ่งจะเป็นการพูดคุยที่มีเชิงลึกขึ้นมากกว่าข้อ 2 นั่นเอง สำหรับข้อนี้จะใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที 

สรุป IELTS คืออะไร นำไปใช้อะไรได้บ้าง

IELTS คือการสอบวัดทักษะการใช้ภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้านคือ การพูด การฟัง และการเขียน โดย IELTS เป็นแบบทดสอบที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยระดับคะแนน IELTS นั้นจะมีตั้งแต่ระดับ 1 ถึง 9 IELTS Certificate นั้นสามารถนำไปยื่นเพื่อการศึกษาต่อในระดับเตรียมอุดมศึกษา และ ระดับอุดมศึกษาภาคปกติและภาคอินเตอร์ ปริญญาโท และปริญญาเอกได้ และสามารถนำไปยื่นเพื่อศึกษาต่อและทำงานยังต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารและทำงานและสหราชอาณาจักรได้อีกด้วย 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที