ครีมบำรุงผิวเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้บำรุงผิวหนัง เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ฟื้นฟู และบำรุงผิวให้แข็งแรง พร้อมแก้ปัญหาสภาพผิวตามความต้องการ ครอบคลุมทุกโจทย์ผิว
ผิวเป็นสิ่งที่ช่วยสะท้อนภาพลักษณ์หลาย ๆ อย่าง หากผิวมีความเรียบเนียน กระจ่างใส ย่อมสะท้อนให้เห็นว่า มีสุขภาพที่ดีและหมั่นดูแลเอาใจใส่ผิวอย่างสม่ำเสมอ โดยในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงผิวมากมาย โดยเฉพาะครีมบำรุงผิว ซึ่งช่วยให้ผิวสวย ชุ่มชื้น เต่งตึง เปล่งปลั่ง และแก้ปัญหาผิวในเฉพาะจุดได้ แล้วครีมบำรุงผิว คืออะไร แบ่งออกเป็นกี่ประเภท มีส่วนประกอบหลักอะไรบ้าง วิธีการเลือกใช้ครีมที่เหมาะสม รวมถึงข้อควรระวังต่าง ๆ ซึ่งบทความนี้ มีคำตอบ
ครีมบำรุงผิวเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทาลงบนผิวหนัง เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ฟื้นฟู และบำรุงผิวให้แข็งแรงและมีสุขภาพดี โดยครีมบำรุงผิวมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีสูตรและส่วนผสมที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น
- ครีมลดสิว เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดการเกิดสิว สิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวหัวหนอง ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน ไร้สิว โดยจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium acnes (P. acnes) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของสิว
- ครีมลดรอยสิวจุดด่างดำ เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดเลือนรอยสิว รอยดำ รอยแดง แผลเป็นจากสิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียน สม่ำเสมอ กระจ่างใส โดยจะกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก ลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน ลดการอักเสบของผิว ช่วยให้รอยดำ รอยแดงจากสิวดูจางลง
- ครีมกันแดด (Sunscreen) คือ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทาบนผิวหนัง เพื่อปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่มาจากแสงแดด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ผิวไหม้แดด ริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ และมะเร็งผิวหนัง
- ครีมรักษาฝ้า เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดเลือน ฝ้า กระ จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ช่วยให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส จะช่วยลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน และปกป้องผิวจากรังสี UV ซึงเป็นสาเหตุหลักของฝ้า กระ จุดด่างดำ
- ครีมทาผิวขาว เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อปรับสภาพผิวให้ขาวกระจ่างใส เน้นยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ผิวดูอิ่มน้ำ สุขภาพดี
- ครีมลดรอยแผลเป็น คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น รอยดำ รอยแดง แผลเป็นจากสิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียน สม่ำเสมอ กระจ่างใส ควรเลือกใช้ครีมให้เหมาะกับรอยแผลเป็นและสภาพผิว เน้นการใช้ครีมอย่างสม่ำเสมอ และทาครีมกันแดดเป็นประจำ
- ครีมกระชับรูขุมขน (Pore Minimizer) คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ออกแบบมาเพื่อช่วยกระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง เรียบเนียน ช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน ไร้ริ้วรอย
แม้ว่า ครีมบำรุงผิวจะมีหลากหลายประเภท แต่โดยรวมแล้ว มีประโยชน์และช่วยแก้ปัญหาสภาพผิวต่าง ๆ ได้อย่างเห็นผล ดังต่อไปนี้
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เนื่องจากครีมบำรุงผิวส่วนใหญ่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น เต่งตึง และลดริ้วรอย
- ฟื้นฟูผิว เพราะมีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสียหายจากมลภาวะ แสงแดด และความเครียด
- ช่วยแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ เนื่องจากครีมบำรุงผิวบางชนิดมีสูตรเฉพาะสำหรับแก้ปัญหา เช่น ครีมลดสิว, ครีมลดรอยสิว, ครีมรักษาฝ้า, ครีมหน้าขาว, ครีมหน้าใส, ครีมทาหน้าผู้ชาย เป็นต้น
ครีมบำรุงผิวมีส่วนประกอบหลักหลายอย่าง โดยแต่ละส่วนประกอบมีหน้าที่และประโยชน์ที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
1. น้ำ (Water) เป็นส่วนประกอบหลักของครีมบำรุงผิว ช่วยให้ครีมมีเนื้อสัมผัสที่ชุ่มชื้นและช่วยให้ส่วนผสมอื่นๆ ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้
2. มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizers) ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น เต่งตึง และลดริ้วรอย มอยส์เจอไรเซอร์มีหลายชนิด เช่น
- Hyaluronic Acid ช่วยดึงดูดน้ำและกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว
- Glycerin ทำหน้าที่ดึงดูดน้ำจากอากาศสู่ผิว
- Shea Butter เป็นไขมันธรรมชาติที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว
3.น้ำมัน (Oils) ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว น้ำมันมีหลายชนิด เช่น
- Jojoba Oil เป็นน้ำมันที่คล้ายกับน้ำมันธรรมชาติของผิว
- Olive Oil เป็นน้ำมันที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- Coconut Oil เป็นน้ำมันที่มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย
4. สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ แสงแดด และความเครียด สารต้านอนุมูลอิสระมีหลายชนิด เช่น
- Vitamin C ช่วยให้ผิวกระจ่างใส
- Vitamin E ช่วยชะลอวัย
- Retinol ช่วยลดเลือนริ้วรอย
5. สารบำรุงผิวอื่น ๆ มีหลายชนิดเช่น
- Whitening agents ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส
- Anti-aging agents ช่วยชะลอวัย
- Acne-fighting agents ช่วยลดสิว
6. สารเพิ่มความข้น (Thickeners) ช่วยให้ครีมมีความหนืดและเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม
7. สารกันบูด (Preservatives) ช่วยป้องกันครีมจากแบคทีเรียและเชื้อรา
8. สารแต่งสี (Colorants) ช่วยให้ครีมมีสีสัน
9. น้ำหอม (Fragrances) ช่วยให้ครีมมีกลิ่นหอม
10. สารลดแรงตึงผิว (Surfactants) ช่วยให้ครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย
ซึ่งปริมาณของส่วนประกอบแต่ละชนิดในครีมบำรุงผิวจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสูตรและประเภทของครีม นอกจากนี้ ยังควรเลือกครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่เหมาะกับสภาพผิวและช่วยแก้ปัญหาผิวได้ตรงกับความต้องการ และสิ่งสำคัญ คือ ควรทดสอบครีมบำรุงผิวก่อนใช้ เพื่อป้องกันอาการแพ้ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ด้วยแต่ละคน ย่อมมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนเลือกใช้ครีมบำรุงผิวประเภทใด ก็ต้องพิจารณาสภาพผิวของตนเองร่วมด้วย เพื่อให้สามารถใช้ครีมบำรุงผิวให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
ครีมบำรุงผิวสำหรับผิวปกติ ควรมีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ อาจจะมีส่วนผสมหลักที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น Hyaluronic Acid, Glycerin, Shea Butter, Dimethicone, Cyclomethicone, สารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ แสงแดด และความเครียด หากสภาพอากาศร้อน ควรเลือกครีมที่มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมซาบเร็ว แต่ถ้าสภาพอากาศเย็น ควรเลือกครีมที่มีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้น ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น
ครีมบำรุงผิวสำหรับผิวแห้ง ควรมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้น ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เน้นส่วนผสมหลัก ๆ อย่างเช่น
- มอยส์เจอไรเซอร์ เช่น Hyaluronic Acid, Glycerin, Shea Butter, Petrolatum, Lanolin
- สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ แสงแดด และความเครียด
- Ceramides ช่วยเสริมสร้างชั้นผิวหนัง ป้องกันการสูญเสียน้ำ
- Niacinamide ช่วยลดการอักเสบ
หากสภาพผิวแห้งมาก ควรเลือกครีมที่มีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นมากเป็นพิเศษ ให้มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำมัน เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังบริเวณที่แห้งและหยาบกร้านมาก
ครีมบำรุงผิวสำหรับผิวมัน ควรมีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เน้นส่วนผสมหลักบางประเภท เช่น
- Oil-free ปราศจากน้ำมัน เพื่อป้องกันการอุดตันรูขุมขน
- Non-comedogenic ไม่ก่อให้เกิดสิว
- Moisturizers เช่น Hyaluronic Acid (ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นโดยไม่เพิ่มความมัน), Niacinamide (ช่วยควบคุมความมัน), Salicylic Acid (ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันรูขุมขน)
- Sebum-regulating ingredients ช่วยควบคุมความมัน เช่น Zinc Gluconate, Salicylic Acid
- Mattifying agents ช่วยให้ผิวหน้าดูไม่มันวาว
ผู้ที่มีผิวมัน ควรใช้ครีมบำรุง เพื่อปกป้องผิวหลังล้างหน้าหรือใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น โดยเลือกครีมเนื้อโลชั่นที่ระบุไว้ว่าเป็นสูตร oil-free หรือ ไม่อุดตันรูขุมขน (non-comedogenic) เพื่อลดโอกาสการเกิดสิว
ครีมบำรุงผิวสำหรับผิวแพ้ง่าย ควรปราศจากสารระคายเคือง เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ สี สารกันบูด เป็นต้น เพื่อลดโอกาสแพ้ มีคุณสมบัติซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่มีส่วนผสมที่อุดตันรูขุมขน โดยเน้นส่วนผสม ดังต่อไปนี้
- Moisturizers เช่น Hyaluronic Acid (ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นโดยไม่ระคายเคือง), Shea Butter (ไขมันธรรมชาติที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น), Ceramides (ช่วยเสริมสร้างชั้นผิวหนัง ป้องกันการสูญเสียน้ำ)
- Soothing ingredients เช่น Aloe Vera (ช่วยปลอบประโลมผิว), Oatmeal (ช่วยลดการอักเสบ), Chamomile (ช่วยลดการระคายเคือง)
- Hypoallergenic ซึ่งผ่านการทดสอบว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
ที่สำคัญควรพิจารณาว่า ครีมบำรุงผิวต้องเน้นใช้ส่วนผสมหลักจากธรรมชาติและอ่อนโยนต่อผิว รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้ครีมที่แต่งสี สารกันเสีย เช่น พาราเบน และ สารแต่งกลิ่น หรือมีกรดเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากผิวแพ้ง่าย เป็นผิวที่ไวต่อสิ่งรบกวนภายนอก ซึ่งทำให้เกิดอาการระคายเคือง มีผื่นแดง ตุ่มนูน รู้สึกคัน หรือแสบผิวได้ง่าย
หากต้องการเลือกใช้ครีมบำรุงผิว จำเป็นต้องระมัดระวังให้ดี โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้
1. ก่อนใช้ครีม
- ทดสอบครีมบำรุงผิวก่อนใช้ ทาครีมบริเวณท้องแขนก่อนใช้ 48 ชั่วโมง เพื่อดูว่าเกิดอาการแพ้หรือไม่
- อ่านฉลากส่วนผสม ตรวจสอบส่วนผสมของครีมว่ามีสารที่แพ้หรือไม่
- เลือกครีมที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแพ้ง่าย
- เลือกครีมที่เหมาะกับปัญหาผิว
2. ระหว่างใช้ครีม
- ล้างหน้าให้สะอาดก่อนทาครีม ด้วยน้ำสะอาด หรือใช้คลีนซิ่ง เช็ดเครื่องสำอางออกให้หมด
- ทาครีมในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป
- ทาครีมเป็นประจำ หรือตามคำแนะนำบนฉลาก
- เก็บครีมให้พ้นแสงแดดและความร้อน
3. หลังใช้ครีม
- สังเกตอาการแพ้ เช่น ผื่นแดง, คัน, ระคายเคือง, บวม, หายใจลำบาก
- หยุดใช้ครีมหากมีอาการแพ้
- ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด
- ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ครีมบำรุงผิวเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นฟู และบำรุงผิวให้แข็งแรงและดูมีสุขภาพดี ครีมบำรุงผิวมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับเนื้อสัมผัสและประเภทของผิว ทั้งผิวปกติ, ผิวแห้ง, ผิวมัน และผิวแพ้ง่าย ดังนั้น ควรเลือกครีมบำรุงผิวให้เหมาะกับสภาพผิวและแก้ปัญหาผิวให้ตรงจุด และที่สำคัญ ควรทดสอบครีมบำรุงผิวก่อนใช้ และทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำ เช้า-เย็น
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที