พรีเซนต์งานด้วย 7 เทคนิคการนำเสนองาน ตั้งแต่เริ่มต้นด้วยความน่าสนใจ ผ่านการเล่าเรื่องราว มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ฟังอย่างสม่ำเสมอ แล้วปิดท้ายการพรีเซนต์อย่างน่าประทับใจ
ในการทำงาน เชื่อว่า ทุกคนจะต้องมีประสบการณ์ในการพูดพรีเซนต์งาน แต่การพรีเซนต์งานแบบเดิม ๆ ที่น่าเบื่อ จนทำให้ผู้ฟังหาว และส่งผลให้ขาดความมั่นใจ เปลี่ยนมาลองใช้ 7 เทคนิคพรีเซนต์งาน ที่จะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศ สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเริ่ม ดึงดูดสายตาและกระตุ้นความสนใจของผู้ฟัง ให้อยากทราบเนื้อหาที่กำลังจะนำเสนอ โดยปรับเทคนิคการนำเสนองานเหล่านี้ ให้เข้ากับสไตล์ บุคลิก และเนื้อหาในการพรีเซนต์งาน รับรองว่าการพรีเซนต์ครั้งหน้าจะต้องประทับใจผู้ฟัง และบรรลุเป้าหมายอย่างแน่นอน!
การพรีเซนต์งานที่ดี ไม่ได้เป็นแค่การนำเสนอข้อมูล แต่เป้าหมายหลัก คือ การสื่อสารให้ผู้ฟังเข้าใจ จดจำ และเกิดการกระทำตามที่เราต้องการ โดยขอนำเสนอ 7 เทคนิคการพรีเซนต์งานที่จะช่วยให้เสนอขายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและดึงดูดความสนใจของผู้ฟังได้เป็นอย่างดี
การเริ่มต้นพรีเซนต์งานให้น่าสนใจส่งผลต่อความประทับใจของผู้ฟังอย่างมาก โดยลองใช้วิธีเหล่านี้ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ฟังตั้งแต่ประโยคแรก
- เล่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อการนำเสนอ จะช่วยดึงดูดความสนใจ กระตุ้นอารมณ์ และทำให้ผู้ฟังจดจำเนื้อหาได้ดีขึ้น แต่สิ่งสำคัญ คือ เรื่องราวนั้นต้องน่าสนใจ เชื่อมโยงกับหัวข้อ และกระตุ้นให้ผู้ฟังอยากรู้ว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น
- ถามคำถามปลายเปิดที่ท้าทายความคิด ช่วยกระตุ้นให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมกับการพรีเซนต์งาน ทั้งประสบการณ์ ความคิดเห็น หรือปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้ผู้ฟังอยากรู้คำตอบและอยากฟังเนื้อหาที่ตามมา
- ใช้ตัวเลขและสถิติดึงดูดความสนใจและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับการพรีเซนต์ ควรเลือกใช้สถิติที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ เชื่อถือได้ ขัดกับความคาดหมาย และนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
- ยกคำพูดจากบุคคลที่มีชื่อเสียงมาเพิ่มความน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นคำคม คำแนะนำ หรือความคิดเห็น แต่เลือกคำพูดที่เหมาะสมกับกลุ่มผู้ฟัง และนำเสนอในบริบทที่ถูกต้อง
- เริ่มต้นด้วยการพูดพรีเซนต์งานด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน กระตือรือร้น และมีพลัง เต็มไปด้วยความมั่นใจ พยายามสร้างความตื่นเต้น เร้าใจ และดึงดูดความสนใจของผู้ฟังตั้งแต่ประโยคแรก
การนำเสนอที่ดีจะต้องรู้จักกลุ่มผู้ฟัง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการกำหนดรูปแบบการนำเสนองาน เพราะเนื้อหา วิธีการนำเสนอ และภาษากาย ล้วนต้องปรับให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ฟัง เพื่อดึงดูดความสนใจ สร้างความเข้าใจ และบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ เนื่องจากกลุ่มผู้ฟังมีความแตกต่างและหลากหลายเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเพศ วัย ระดับการศึกษา วิชาชีพ วัฒนธรรม หรือประสบการณ์ สิ่งเหล่านี้ ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จะต้องนำมาพิจารณาก่อนการพรีเซนต์งาน
อีกหนึ่งเทคนิคการพรีเซนต์สำคัญ คือ การนำเสนอด้วยสไลด์งานพรีเซนต์สุดปัง ช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจเนื้อหา จดจำข้อมูล และมีส่วนร่วมกับการนำเสนอได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยวิธีการ ดังต่อไปนี้
- เลือกภาพที่มีความคมชัด ดึงดูดความสนใจ และเกี่ยวข้องกับหัวข้อ
- ควรใช้ภาพขนาดใหญ่ มองเห็นชัดเจนจากระยะไกล
- แสดงเฉพาะประเด็นสำคัญ ข้อมูลสรุป หรือตัวเลขที่จำเป็น
- ใช้คำที่กระชับ ชัดเจน เข้าใจง่าย หลีกเลี่ยงการใช้ข้อความยาว ๆ
- เลือกใช้ตัวอักษรที่อ่านง่าย ขนาดใหญ่พอเหมาะ
- เลือกสีที่สบายตา ใช้โทนสีเดียวกันหรือสีที่ใกล้เคียงกัน หลีกเลี่ยงการใช้สีที่ตัดกันมากเกินไป
- จัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ บนสไลด์งานพรีเซนต์ให้สมดุล
- เพิ่มกราฟ แผนภูมิ หรือตาราง เพื่อแสดงข้อมูลเชิงสถิติ
- แทรกวิดีโอสั้น ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจ
- ใช้ไอคอน สัญลักษณ์ หรือรูปภาพ เพื่อแทนข้อความในการพรีเซนต์งาน
การบอกเล่าด้วยเรื่องราวเป็นเทคนิคการนำเสนองานที่มีประสิทธิภาพ ดึงดูดความสนใจ กระตุ้นอารมณ์ และทำให้ผู้ฟังจดจำเนื้อหาได้ดีขึ้น เทคนิคนี้ สามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอ การสอน หรือการขาย โดยองค์ประกอบของการบอกเล่าด้วยเรื่องราว ได้แก่
- ตัวละคร เป็นผู้ที่ขับเคลื่อนเรื่องราว เผชิญกับปัญหา และพยายามบรรลุเป้าหมาย
- เรื่องราวที่ติดตามตัวละครหลัก ผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ
- สถานที่ ช่วงเวลา และบรรยากาศ ที่เรื่องราวเกิดขึ้น
- บทสนทนา ความคิด และอารมณ์ ของตัวละคร
- ข้อคิด หรือประเด็นสำคัญ ที่เรื่องราวต้องการสื่อ
ก่อนการพูดพรีเซนต์งานจริง ควรฝึกฝนเตรียมความพร้อมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความมั่นใจ คล่องแคล่ว และสามารถควบคุมสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
- อ่านเนื้อหาที่จะพรีเซนต์งานซ้ำ ๆ จนเข้าใจอย่างถ่องแท้
- ฝึกพูดพรีเซนต์งานโดยไม่ต้องอ่านโน้ต
- จับเวลา เพื่อให้แน่ใจว่า สามารถนำเสนอได้ตามเวลาที่กำหนด
- ลองฝึกพูดกับตนเองหน้ากระจก เพื่อน ครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน เพื่อรับคำติชม
- ฝึกพูดด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน น่าฟัง มีความเร็วที่เหมาะสม เน้นย้ำประเด็นสำคัญ
- ฝึกตอบคำถามด้วยความมั่นใจ ชัดเจน และกระชับ โดยคาดการณ์คำถามที่ผู้ฟังอาจถาม และเตรียมคำตอบไว้ล่วงหน้า
- ฝึกฝนการจัดการกับสถานการณ์เฉพาะหน้าในการพรีเซนต์งาน เช่น ปัญหาทางเทคนิค ผู้ฟังไม่สนใจ สถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ
การพรีเซนต์งานให้น่าสนใจควรมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ฟัง ด้วยการมองไปรอบ ๆ ห้อง สบตาผู้ฟังจากด้านซ้าย ขวา หน้า และหลัง มีรอยยิ้มแสดงถึงความเป็นมิตร ความมั่นใจ และความน่าเชื่อถือ เพราะการยิ้มให้กับผู้ฟัง จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี และทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจ หรืออาจจะใช้กิจกรรมต่าง ๆ เช่น การโหวต การระดมความคิด หรือการเล่นเกม เพื่อดึงดูดความสนใจ และสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ฟัง ทำให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมกับการพรีเซนต์งาน และจดจำเนื้อหาได้ดีขึ้น
วิธีพรีเซนต์งานให้น่าสนใจสุดท้าย คือ การจบการนำเสนออย่างประทับใจ เพื่อให้ผู้ฟังสามารถจดจำเนื้อหา และรู้สึกอยากติดตาม โดยอาจจะใช้วิธีต่าง ๆ ดังนี้
- ทบทวนประเด็นสำคัญของการนำเสนอ เน้นย้ำข้อความหลัก และสิ่งที่ต้องการให้ผู้ฟังจดจำ
- บอกผู้ฟังว่า ต้องการให้พวกเขาทำอะไรหลังจากจบการนำเสนอ เช่น เยี่ยมชมเว็บไซต์ สมัครรับ newsletter หรือติดต่อเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม เป็น Call to Action ที่ชัดเจน ช่วยให้ผู้ฟังจดจำและดำเนินการตามที่ต้องการ
- เล่าเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจ เกี่ยวข้องกับหัวข้อการนำเสนอ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ฟังรู้สึกอยากเปลี่ยนแปลง หรือพัฒนาตนเอง
- ขอบคุณผู้ฟังที่มาร่วมรับฟังการพรีเซนต์งาน และแสดงความขอบคุณต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอ เช่น ทีมงาน หัวหน้า หรือลูกค้า
- จบด้วยคำพูดที่น่าจดจำ สั้น กระชับ กินใจ และจบการนำเสนอตรงเวลา
การพรีเซนต์งาน เป็นการพัฒนาทักษะของผู้นำเสนออย่างรอบด้าน ทั้งทักษะการสื่อสาร ศึกษาหาข้อมูล การคิดวิเคราะห์ จัดระเบียบข้อมูล และสังเคราะห์ประเด็นสำคัญ เพื่อให้ผู้ฟังได้รับความรู้ ข้อมูลข่าวสาร และความเข้าใจในหัวข้อนั้น ๆ ผ่านเทคนิคการพรีเซนต์งานที่ดี ซึ่งจะช่วยให้ผู้ฟังจดจำเนื้อหาได้ดีขึ้น กระตุ้นความคิด และเปลี่ยนมุมมอง แต่อย่างไรก็ตาม ในการพรีเซนต์งานก็มีข้อควรระวังบางประการ ได้แก่
- เนื้อหาที่ไม่มีสาระ ขาดความน่าสนใจ หรือไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย จะทำให้ผู้ฟังรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่สนใจ และอาจเดินออกจากห้อง
- ขาดการเตรียมตัว ฝึกฝนไม่ดี หรือขาดความมั่นใจ จะส่งผลต่อการนำเสนอ ทำให้เนื้อหาไม่ลื่นไหล พูดติดขัด หรือตอบคำถามไม่ได้
- การใช้สไลด์งานพรีเซนต์ที่รก ตัวอักษรเล็ก อ่านไม่ออก รูปภาพไม่ชัดเจน หรือวิดีโอมีเสียงรบกวน จะทำให้ผู้ฟังสับสน มองไม่เห็น และฟังไม่รู้เรื่อง
- พูดเร็ว พูดเบา พูดไม่ชัด หรือพูดติดขัด จะทำให้ผู้ฟังฟังไม่เข้าใจ รู้สึกหงุดหงิด และอาจเสียสมาธิ
- การยืนนิ่ง ไม่ขยับเขยื้อน กอดอก ไขว้ขา หรือเล่นมือเล่นเท้า จะทำให้ผู้ฟังรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่สนใจ และอาจมองว่าไม่มั่นใจ
- การไม่สบตาผู้ฟัง ไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส หรือไม่ตอบคำถาม จะทำให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง ไม่สำคัญ และอาจไม่รับฟังเนื้อหา
- พูดเกินเวลาที่กำหนด จะทำให้ผู้ฟังรู้สึกเบื่อหน่าย เสียเวลา และอาจไม่ฟังเนื้อหาต่อ
การพรีเซนต์งาน เปรียบเสมือนการถ่ายทอดข้อมูล ความคิด หรือเรื่องราว จากผู้พูดไปยังผู้ฟัง โดยใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การพูด ภาษากาย สื่อประกอบ กิจกรรม เพื่อดึงดูดความสนใจ สื่อสารเนื้อหา โน้มน้าวใจ และบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดย 7 หลักการพรีเซนต์งานที่นำเสนอ ตั้งแต่การเริ่มต้นให้น่าสนใจ รู้จักวิเคราะห์กลุ่มผู้ฟัง นำเสนอด้วยสไลด์งานพรีเซนต์สุดปัง ผ่านการเล่าเรื่องราว โดยจะต้องหมั่นฝึกพรีเซนต์งานบ่อย ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ จำลองสถานการณ์ สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ฟัง พร้อมทั้งจบการนำเสนออย่างประทับใจ เพื่อให้ผู้ฟังสามารถจดจำเนื้อหาได้ตามที่ต้องการ
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที