Cassie

ผู้เขียน : Cassie

อัพเดท: 13 มิ.ย. 2024 11.00 น. บทความนี้มีผู้ชม: 67 ครั้ง

สำหรับคนที่อยากเริ่มเก็บทองเป็นสินทรัพย์ สร้อยทอง 1 สลึงถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีราคาไม่แพงจนเกินไป แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อ มักมีคำถามว่าเวลาไปซื้อสร้อยทอง 1 สลึงนั้น เราจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และควรเลือกซื้ออย่างไรดี วันนี้เราจะมาพูดคุยกันในเรื่องนี้


สร้อยทอง 1 สลึงต้องเสียอะไรบ้าง เลือกซื้ออย่างไร ?

 

 

สำหรับคนที่อยากเริ่มเก็บทองเป็นสินทรัพย์ สร้อยทอง 1 สลึงถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีราคาไม่แพงจนเกินไป แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อ มักมีคำถามว่าเวลาไปซื้อสร้อยทอง 1 สลึงนั้น เราจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และควรเลือกซื้ออย่างไรดี วันนี้เราจะมาพูดคุยกันในเรื่องนี้

 

สร้อยทอง 1 สลึงคืออะไร

สร้อยทอง 1 สลึงเป็นเครื่องประดับทำจากทองคำแท้ 96.5% หรือทองคำ 23 เกรด มีน้ำหนักเท่ากับ 1 สลึง หรือประมาณ 15.2 กรัม ซึ่งเป็นน้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับใส่ประจำวัน ไม่หนักจนเกินไป และไม่เบาจนเกินไปจนดูไม่คุ้มค่า

 

ค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียเมื่อซื้อสร้อยทอง 1 สลึง

  1. ราคาทองคำแท้ ซึ่งจะถูกคำนวณจากน้ำหนัก 15.2 กรัม คูณกับราคาทองคำแท้ต่อน้ำหนัก 1 บาท ณ วันที่ซื้อ

  2. ค่าแรงหรือค่าดีไซน์ เป็นค่าบริการในการออกแบบรูปทรงของสร้อยทอง

  3. ค่าบริการห้างหรือร้านทอง หากซื้อจากห้างหรือร้านค้าทองรายใหญ่

  4. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%

 

5 เคล็ดลับในการเลือกซื้อสร้อยทอง 1 สลึง

  1. ติดตามราคาทองคำให้ดี เพื่อเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อ ราคาทองคำมีการปรับเปลี่ยนทุกวัน อันเนื่องมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างๆ การติดตามข้อมูลราคาทองคำย้อนหลังจะช่วยให้เราเห็นแนวโน้มขึ้น-ลงของราคา และสามารถคาดการณ์ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อ เช่น ซื้อในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลงจากก่อนหน้า

  2. เปรียบเทียบราคาจากหลายร้านทอง เพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด แม้จะเป็นสร้อยทอง 1 สลึงเดียวกัน แต่แต่ละร้านทองก็อาจตั้งราคาขายแตกต่างกันออกไป ดังนั้นการเปรียบเทียบราคาจากหลายร้าน จะช่วยให้เราได้ราคาที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในจังหวัดใกล้เคียงหรือกรุงเทพฯ ที่มีร้านทองเปิดให้บริการค่อนข้างมาก

  3. ดูความหนาและรูปทรงของสร้อยทองให้เหมาะกับการสวมใส่ ความหนาของสร้อยทองจะส่งผลต่อความหนักเบา ความคงทน และความสวยงามในการสวมใส่ บางคนอาจชอบสร้อยทองที่หนาและหนัก เพราะให้ความรู้สึกคุ้มค่า แต่บางคนอาจชอบสร้อยทองเบาบางเพื่อความสวยงามและสวมใส่สบาย นอกจากนี้รูปทรงของสร้อยทองก็มีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่รูปทรงคลาสสิกจนไปถึงดีไซน์ร่วมสมัย

  4. เลือกซื้อจากร้านทองที่มีความน่าเชื่อถือสูง เพื่อความมั่นใจในคุณภาพ ร้านทองที่น่าเชื่อถือมักจะมีประวัติและชื่อเสียงที่ยาวนาน มีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง รวมถึงการรับประกันคุณภาพของสินค้า นอกจากนี้ควรศึกษาข้อมูลและความคิดเห็นของลูกค้ารายอื่นๆ ด้วย เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจซื้อ

  5. ตรวจสอบเครื่องหมายและใบรับรองคุณภาพจากสำนักงานทะเบียนพาณิชย์ สร้อยทองคำแท้ทุกชิ้นจะมีเครื่องหมายและใบรับรองคุณภาพประทับอย่างชัดเจน ซึ่งออกให้โดยสำนักงานทะเบียนพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ โดยระบุน้ำหนัก ขนาด ความบริสุทธิ์ของทองคำ พร้อมเลขที่เครื่องหมายการค้า ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนชำระค่าสินค้า

 

การซื้อสร้อยทอง 1 สลึง อาจดูเป็นเรื่องง่าย แต่การเลือกซื้ออย่างถูกวิธีจะช่วยให้เราได้สร้อยทองคุณภาพดี มีราคาที่คุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งจะนำมาซึ่งความพึงพอใจและความประทับใจอย่างแน่นอน



 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที