ครีมกันแดด (Sunscreen) คือสกินแคร์ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ซึ่งการเลือกใช้ครีมกันแดดนอกจากจะดูค่า Sun Protection Factor (SPF) แล้วยังต้องดูปัจจัยอื่นร่วมด้วย
แสงแดดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตบนโลก แต่การได้รับรังสียูวีมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพผิวพรรณของเรา การสัมผัสแสงแดดเป็นประจำโดยไม่มีการป้องกันที่เหมาะสม อาจนำไปสู่ปัญหาผิวหนังอย่างผิวไหม้แดด ริ้วรอย และโรคมะเร็งผิวหนัง ด้วยเหตุนี้การใช้ครีมกันแดด Sunscreen คือขั้นตอนที่สำคัญในการดูแลและปกป้องผิวพรรณจากอันตรายจากรังสียูวี
ในบทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Sunscreen พร้อมอธิบายว่า SPF คืออะไร รวมไปถึงประเภทของครีมกันแดดว่าถูกแบ่งออกเป็นประเภทไหนบ้าง และแนะนำวิธีเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับตัวเอง
ครีมกันแดด (Sunscreen) คือผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางประเภทผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของสารกันแดดหรือสารป้องกันรังสียูวี (UV) ซึ่งช่วยป้องกันผิวจากอันตรายของรังสียูวีจากแสงแดด โดยองค์ประกอบที่สำคัญของครีมกันแดดได้แก่
- สารกันแดดประเภทกรองแสง (Physical/Mineral Scnscreens) อย่างเช่น ออกไซต์ของเหล็ก ไททาเนียมไดออกไซต์ หรือซิงค์ออกไซต์ เป็นต้น ซึ่งสารเหล่านี้จะมีคุณสมบัติช่วยสะท้อนและกรองรังสียูวี
- สารกันแดดประเภทดูดกลืนแสง (Chemical Sunscreens) อย่างเช่น อาโวเบนโซน หรือออกซีเบนโซน เป็นต้น ซึ่งสารเหล่านี้จะมีคุณสมบัติช่วยดูดกลืนรังสี UV
- ค่า Sun Protection Factor (SPF) ที่จะช่วยบ่งบอกระดับการป้องกันรังสี UVB จากตัวเลข SPF ที่สูงขึ้น
- สารที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิว เช่น วิตามินอี สารต่อต้านอนุมูลอิสระ เพื่อเสริมการบำรุงผิวไปพร้อมกับการป้องกันผิวจากแสงแดด
หลังจากที่ได้ทราบกันไปแล้วว่า Sunscreen คืออะไรและมีส่วนประกอบอะไรบ้าง ถัดไปเราจะมีดูกันว่าครีมกันแดดสามารถแบ่งออกได้เป็นกี่ประเภท โดยครีมกันแดดสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ตามกลไกการทำงานของส่วนประกอบของครีมกันแดดดังนี้
1. ครีมกันแดดประเภทสะท้อนรังสี (Physical Sunscreens)
ครีมกันแดดประเภทสะท้อนรังสี (Physical Sunscreen) คือครีมกันแดดที่มีส่วนผสมหลักเป็นสารกรองแสง ซึ่งทำหน้าที่สะท้อนหรือกรองรังสี UV ออกจากผิว ไม่ให้รังสีลงถึงผิว โดยหลัก ๆ แล้วจะมีส่วนผสมของ ซิงค์ออกไซด์ หรือไททาเนียมไดออกไซด์ ซึ่งคุณสมบัติสำคัญของครีมกันแดดประเภทนี้จะเคลือบอยู่บนผิว ไม่ซึมซับเข้าสู่ผิว สามารถป้องกันรังสี UV ได้ตั้งแต่ทาไม่ต้องรอให้ครีมซึมลงผิว มีประสิทธิภาพป้องกันทั้ง UVA และ UVB เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
2. ครีมกันแดดประเภทดูดซับรังสี (Chemical Sunscreens)
ครีมกันแดดประเภทดูดซับรังสี (Chemical Sunscreen) คือครีมกันแดดที่มีส่วนผสมหลักเป็นสารดูดกลืนแสง ซึ่งจะทำหน้าที่ดูดซับรังสี UV เมื่อสัมผัสผิว เพื่อป้องกันไม่ให้รังสีลงถึงชั้นผิวหนัง โดยหลัก ๆ แล้วจะมีส่วนผสมของ อาโวเบนโซน ออกซีเบนโซน หรือออกตินอกซาต ซึ่งคุณสมบัติสำคัญของครีมกันแดดประเภทนี้จะซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังบางๆ เพื่อทำปฏิกิริยาดูดซับรังสี UV โดยจะต้องรอให้ครีมซึมลงสู่ผิวก่อนประมาณ 15-30 นาที
3. ครีมกันแดดประเภทผสม (Chemical & Physical Sunscreens)
ครีมกันแดดประเภทผสม (Chemical & Physical Sunscreen) คือครีมกันแดดที่ผสมทั้งสารกันแดดประเภทสารกรองแสงและสารดูดกลืนแสงเข้าด้วยกัน ซึ่งคุณสมบัติสำคัญของครีมกันแดดประเภทนี้จะช่วยป้องกันรังสีทั้ง UVA และ UVB โดยสามารถป้องกันรังสีได้ตั้งแต่ทาครีม ช่วยลดปัญหาคราบขาวและความเหนียวเนอะจากการใช้ครีมกันแดดประเภทกรองแสง
อย่างไรก็ตามครีมกันแดดประเภทผสมถือเป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับผู้ต้องการการป้องกันรังสียูวีอย่างครอบคลุม โดยผสมผสานข้อดีของสองประเภทเข้าด้วยกัน เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันหรือกิจกรรมกลางแจ้ง
เมื่อได้ทราบกันไปแล้วว่าครีมกันแดดถูกแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทด้วยกัน ดังนั้นการเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับตัวเองก็จะช่วยปกป้องและบำรุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยวิธีเลือกครีมกันแดดจะมีปัจจัยที่ควรพิจารณาดังนี้
ประเภทของครีมกันแดด
- ครีมกันแดดประเภทสะท้อนรังสี จะเหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย
- ครีมกันแดดประเภทดูดซับรังสี จะเหมาะกับผิวปกติ ไม่แพ้สารเคมีง่าย
- ครีมกันแดดประเภทผสม จะให้การป้องกันครอบคลุม เหมาะทั้งในชีวิตประจำวันและกิจกรรมกลางแจ้ง
ค่า SPF
- ค่า SPF 30+ เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป สำหรับผู้ที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน แนะนำว่าควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50+
ชนิดของสูตร
- สูตรน้ำมันและครีม เหมาะสำหรับผิวแห้ง ผิวธรรมดาถึงผิวมัน
- สูตรเจล เนื้อบางเบา ซึมไว เหมาะกับผิวมัน
- สูตรสเปรย์ ใช้ง่าย แต่อาจทาได้ไม่ทั่วถึง
สำหรับใครที่มีความฝันหรืออยากลงทุนสร้างแบรนด์ตัวเอง ตลาดสกินแคร์อย่างครีมกันแดด (Sunscreen) คืออีกหนึ่งตลาดที่น่าสนใจในการเริ่มต้นลงทุน เพราะเป็นสินค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายที่ค่อนข้างกว้างและพฤติกรรมของผู้ใช้งานยังคงทดลองสินค้าของแบรนด์ใหม่ ๆ อีกทั้งในปัจจุบันยังมีบริการจากโรงงานรับผลิตสินค้าที่ให้บริการรับผลิตครีมกันแดด ช่วยให้การเริ่มต้นธุรกิจเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้นและสะดวกสบายกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที