สิ่งที่สร้างผลกระทบต่อผิวหนัง มีได้ทั้งปัจจับภายใน และภายนอก ตัวอย่างปัจจัยภายใน เช่น กรรมพันธ์ุ, ฮอร์โมน และปัจจัยภายนอก อย่างเช่น ฝุ่นละออง, เหงื่อ, ล้างเครื่องสำอางไม่เกลี้ยง, การทำความสะอาดที่ไม่เพียงพอ, พฤติกรรมการดูแลผิวหนัง, การใช้ชีวิตประจำวัน หรืออาจเกิดจากทั้งสองปัจจัย เมื่อนั้นผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ “สิว” นั่นเอง
เพราะสิวเกิดจากผิวหนังมีการอักเสบเพราะรูขุมขนเกิดภาวะอุดตันจากเซลล์ผิวที่ตายภายในต่อมไขมันที่มาจากสาเหตุดังกล่าวเบื้องต้น ทำให้น้ำมันที่ผลิตจากต่อมไขมันไม่สามารถระบายออกไปเลี้ยงผิวหนังได้ตามปกติ จนเกิดเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ ตรงบริเวณปากรูขุมขนบนผิวหนัง และมีลักษณะคล้ายสิวอักเสบ
สิวสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ สิวชนิดที่ไม่อักเสบ และสิวชนิดอักเสบ
สิวหัวดำจัดเป็นสิวชนิดที่ไม่อักเสบ หรือ หนึ่งในสิวอุดตันชนิดหนึ่งที่มีหัวสิวแบบเปิด โดยมากเกิดจากไขมันส่วนเกิน เส้นขน หรือเซลล์ผิวเสียที่อุดตันในรูขุมขนแล้วไปทำปฏิกิริยากับเม็ดสีในผิวหนัง สามารถเรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่า สิวเสี้ยน
สิวหัวช้าง cyst เป็นลักษณะสิวอักเสบชนิดรุนแรง ที่เกิดจากสิวหัวปิดไม่ได้รับการรักษาและเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียจนมีหัวสิวขนาดใหญ่ เป็นตุ่มไตสีแดง มีอาการอักเสบ บวม นูน เจ็บร้าวตรงผิวหนังรอบ ๆ
สิวอักเสบส่วนใหญ่เกิดจากสิวหัวขาวที่มีอาการอักเสบรุนแรงจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มีลักษณะเป็นตุ่ม นูนแดงเข้มจนถึงสีม่วง เป็นสีที่เข้มกว่าสีผิวธรรมชาติ รู้สึกเจ็บเวลากดสิว
สิวหัวขาวจัดเป็นสิวชนิดที่ไม่อักเสบ หรือ หนึ่งในสิวอุดตันชนิดหนึ่งที่มีหัวสิวแบบปิด มีลักษณะเป็นตุ่ม นูนเล็ก ๆ สีขาว ที่อาจนำไปสู่การติดเชื้อจนกลายเป็นสิวอักเสบ
สิวผดเป็นสิวชนิดไม่อักเสบ มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ คล้ายกับสิวอุดตัน หรือ ตุ่มแดงคล้ายสิวอักเสบโดยมากมีสาเหตุมาจากการถูกกระตุ้นด้วยความร้อนจากแสงแดด รังสี UVA หรือ อากาศร้อน
สิวหัวหนองคือสิวอักเสบอีกชนิดหนึ่ง ตรงฐานเป็นตุ่มบวมแดงขนาดใหญ่ ด้านบนเป็นหัวหนองสีเหลือง มีลักษณะบวมนูน เป็นหนองเพราะเซลล์เม็ดเลือดขาวที่สู้กับแบคทีเรียแล้วตาย ทำให้เกิดการอักเสบและเป็นสิว มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่
สิวสามารถเกิดได้ทุกที่บนร่างกายที่มีรูขุมขน ไม่ว่าจะเป็นสิวประเภทไหนก็ตาม เพียงแต่บริเวณที่มักพบเจอสิวอุดตันอยู่บ่อย ๆ จะเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาได้เยอะกว่าส่วนอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น บนใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณ T-Zone ที่มีความมันมากทำให้รูขุมขนอุดตันง่าย เลี่ยงไม่ได้ที่เกิดสิว
บริเวณ T-Zone บนใบหน้าที่กล่าวถึงนี้ก็มี สิวขึ้นหน้าผาก, สิวขึ้นจมูก, สิวขึ้นคาง นอกจากนี้ส่วนอื่น ๆ บนใบหน้าที่มักพบเจอสิวก็คือ สิวที่ปาก สิวที่แก้ม เป็นต้น
อย่างไรก็ตามสิวยังสามารถขึ้นได้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ได้แก่ หู ไหล่ หลังช่วงบน แขน หน้าอก ก้น เป็นต้น นอกเหนือบริเวณที่มักพบเจอสิวอุดตันอยู่บ่อย ๆ แล้วส่วนใหญ่ช่วงอายุที่มักเกิดเป็นสิวจะอยู่ราว ๆ 13-20 ปี และยังคงมีโอกาสเกิดขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งอายุ 20-40 ปี หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ลดน้อยลง
การรักษาสิวนั้นทำได้ด้วยตัวเองถ้าเป็นสิวชนิดที่ไม่รุนแรง ไม่เรื้อรัง และรักษาตั้งแต่เริ่ม ๆ ดังต่อไปนี้
สำหรับขั้นตอนปกติในการรักษาสิวอุดตันก็จะมี
โดยแพทย์ผิวหนังที่เชี่ยวชาญจะทำการวิเคราะห์ประเภทสิว ความรุนแรงของสิว หาสาเหตุที่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน หรือ สิวอักเสบขึ้นมา แล้วจึงทำการรักษาสิวซึ่งมีหลายวิธีที่เหมาะกับสิวประเภทต่าง ๆ เช่น
การพบแพทย์เพื่อทำการรักษาจะเป็นการรักษาสิวที่ตรงจุด และช่วยหลีกเลี่ยงการเกิดรอยแผลเป็น รอยแผลนูน รอยสิว ที่ยากต่อการรักษา
วิธีป้องกันการเกิดสิวเบื้องต้นนั้นทำได้ง่าย ๆ คือหลีกเลี่ยงสถานที่ที่เต็มไปด้วยฝุ่นละออง สิ่งสกปรกต่าง ๆ และเมื่อใดที่มีเหงื่อออกมาก ควรรีบล้างออกทันทีการป้องกันการเกิดสิว สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
เราสามารถกล่าวได้ว่าสิวเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดได้ทุกที่ทั่วใบหน้า ร่างกายที่มีรูขุมขน และยังสามารถเกิดได้กับทุกคนโดยเฉพาะกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยสิ่งที่ทำให้รูขุมขนอุดตันดังนั้นควรดูแลใส่ใจรักษาความสะอาดของผิวพรรณเพื่อจะได้ไม่ต้องพบกับผลลัพธ์ที่เกิดจากรอยสิวหลังสิวหาย เช่น รอยแผลเป็น รอยดำ รอยแดงจากสิว หลุมสิว แผลนูน เป็นต้น
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที