ธนงทวย

ผู้เขียน : ธนงทวย

อัพเดท: 24 พ.ค. 2024 22.54 น. บทความนี้มีผู้ชม: 176 ครั้ง

สิว เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผิวพรรณ มีสิวอยู่หลายประเภท ทั้งสิวอักเสบ สิวหัวช้าง สิวผด การจะรักษาสิวแต่ละอย่างก็อาจแตกต่างกันไป ศึกษารายละเอียดได้จากบทความนี้


สิว ปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ก็ไม่ยากเกินแก้ไข

สิว

 

สิ่งที่สร้างผลกระทบต่อผิวหนัง มีได้ทั้งปัจจับภายใน และภายนอก ตัวอย่างปัจจัยภายใน เช่น กรรมพันธ์ุ, ฮอร์โมน และปัจจัยภายนอก อย่างเช่น ฝุ่นละออง, เหงื่อ, ล้างเครื่องสำอางไม่เกลี้ยง, การทำความสะอาดที่ไม่เพียงพอ, พฤติกรรมการดูแลผิวหนัง, การใช้ชีวิตประจำวัน หรืออาจเกิดจากทั้งสองปัจจัย เมื่อนั้นผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ “สิว” นั่นเอง 

เพราะสิวเกิดจากผิวหนังมีการอักเสบเพราะรูขุมขนเกิดภาวะอุดตันจากเซลล์ผิวที่ตายภายในต่อมไขมันที่มาจากสาเหตุดังกล่าวเบื้องต้น ทำให้น้ำมันที่ผลิตจากต่อมไขมันไม่สามารถระบายออกไปเลี้ยงผิวหนังได้ตามปกติ จนเกิดเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ ตรงบริเวณปากรูขุมขนบนผิวหนัง และมีลักษณะคล้ายสิวอักเสบ


สิว จำแนกได้เป็นกี่ประเภท

สิวสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ สิวชนิดที่ไม่อักเสบ และสิวชนิดอักเสบ

 

1. สิวหัวดำ

สิวหัวดำจัดเป็นสิวชนิดที่ไม่อักเสบ หรือ หนึ่งในสิวอุดตันชนิดหนึ่งที่มีหัวสิวแบบเปิด โดยมากเกิดจากไขมันส่วนเกิน เส้นขน หรือเซลล์ผิวเสียที่อุดตันในรูขุมขนแล้วไปทำปฏิกิริยากับเม็ดสีในผิวหนัง สามารถเรียกได้อีกชื่อหนึ่งว่า สิวเสี้ยน

 

2. สิวหัวช้าง

สิวหัวช้าง cyst เป็นลักษณะสิวอักเสบชนิดรุนแรง ที่เกิดจากสิวหัวปิดไม่ได้รับการรักษาและเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียจนมีหัวสิวขนาดใหญ่ เป็นตุ่มไตสีแดง มีอาการอักเสบ บวม นูน เจ็บร้าวตรงผิวหนังรอบ ๆ 

 

3. สิวอักเสบ

สิวอักเสบส่วนใหญ่เกิดจากสิวหัวขาวที่มีอาการอักเสบรุนแรงจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มีลักษณะเป็นตุ่ม นูนแดงเข้มจนถึงสีม่วง เป็นสีที่เข้มกว่าสีผิวธรรมชาติ รู้สึกเจ็บเวลากดสิว

 

4. สิวหัวขาว

สิวหัวขาวจัดเป็นสิวชนิดที่ไม่อักเสบ หรือ หนึ่งในสิวอุดตันชนิดหนึ่งที่มีหัวสิวแบบปิด มีลักษณะเป็นตุ่ม นูนเล็ก ๆ สีขาว ที่อาจนำไปสู่การติดเชื้อจนกลายเป็นสิวอักเสบ

 

5. สิวผด

สิวผดเป็นสิวชนิดไม่อักเสบ มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ คล้ายกับสิวอุดตัน หรือ ตุ่มแดงคล้ายสิวอักเสบโดยมากมีสาเหตุมาจากการถูกกระตุ้นด้วยความร้อนจากแสงแดด รังสี UVA หรือ อากาศร้อน

 

6. สิวหัวหนอง

สิวหัวหนองคือสิวอักเสบอีกชนิดหนึ่ง ตรงฐานเป็นตุ่มบวมแดงขนาดใหญ่ ด้านบนเป็นหัวหนองสีเหลือง มีลักษณะบวมนูน เป็นหนองเพราะเซลล์เม็ดเลือดขาวที่สู้กับแบคทีเรียแล้วตาย ทำให้เกิดการอักเสบและเป็นสิว มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่


บริเวณที่พบเจอสิวได้บ่อย

บริเวณที่สิวขึ้น

 

สิวสามารถเกิดได้ทุกที่บนร่างกายที่มีรูขุมขน ไม่ว่าจะเป็นสิวประเภทไหนก็ตาม เพียงแต่บริเวณที่มักพบเจอสิวอุดตันอยู่บ่อย ๆ จะเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาได้เยอะกว่าส่วนอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น บนใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณ T-Zone ที่มีความมันมากทำให้รูขุมขนอุดตันง่าย เลี่ยงไม่ได้ที่เกิดสิว

 

บริเวณ T-Zone บนใบหน้าที่กล่าวถึงนี้ก็มี สิวขึ้นหน้าผาก, สิวขึ้นจมูก, สิวขึ้นคาง นอกจากนี้ส่วนอื่น ๆ บนใบหน้าที่มักพบเจอสิวก็คือ สิวที่ปาก สิวที่แก้ม เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตามสิวยังสามารถขึ้นได้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ได้แก่ หู ไหล่ หลังช่วงบน แขน หน้าอก ก้น เป็นต้น นอกเหนือบริเวณที่มักพบเจอสิวอุดตันอยู่บ่อย ๆ แล้วส่วนใหญ่ช่วงอายุที่มักเกิดเป็นสิวจะอยู่ราว ๆ 13-20 ปี และยังคงมีโอกาสเกิดขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งอายุ 20-40 ปี หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ลดน้อยลง


สิว รักษาให้ได้ผลต้องให้ตรงจุด

การรักษาสิวนั้นทำได้ด้วยตัวเองถ้าเป็นสิวชนิดที่ไม่รุนแรง ไม่เรื้อรัง และรักษาตั้งแต่เริ่ม ๆ ดังต่อไปนี้

สำหรับขั้นตอนปกติในการรักษาสิวอุดตันก็จะมี

โดยแพทย์ผิวหนังที่เชี่ยวชาญจะทำการวิเคราะห์ประเภทสิว ความรุนแรงของสิว หาสาเหตุที่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน หรือ สิวอักเสบขึ้นมา แล้วจึงทำการรักษาสิวซึ่งมีหลายวิธีที่เหมาะกับสิวประเภทต่าง ๆ เช่น

 

การพบแพทย์เพื่อทำการรักษาจะเป็นการรักษาสิวที่ตรงจุด และช่วยหลีกเลี่ยงการเกิดรอยแผลเป็น รอยแผลนูน รอยสิว ที่ยากต่อการรักษา 


สิว ป้องกันอย่างไรให้ได้ผล

 

ป้องกันสิวอย่างไร

 

วิธีป้องกันการเกิดสิวเบื้องต้นนั้นทำได้ง่าย ๆ คือหลีกเลี่ยงสถานที่ที่เต็มไปด้วยฝุ่นละออง สิ่งสกปรกต่าง ๆ และเมื่อใดที่มีเหงื่อออกมาก ควรรีบล้างออกทันทีการป้องกันการเกิดสิว สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้


สรุปสิว เกิดได้ รักษาได้

เราสามารถกล่าวได้ว่าสิวเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดได้ทุกที่ทั่วใบหน้า ร่างกายที่มีรูขุมขน และยังสามารถเกิดได้กับทุกคนโดยเฉพาะกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยสิ่งที่ทำให้รูขุมขนอุดตันดังนั้นควรดูแลใส่ใจรักษาความสะอาดของผิวพรรณเพื่อจะได้ไม่ต้องพบกับผลลัพธ์ที่เกิดจากรอยสิวหลังสิวหาย เช่น รอยแผลเป็น รอยดำ รอยแดงจากสิว หลุมสิว แผลนูน เป็นต้น

 

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที