เปรียบเทียบ ข้อดี - ข้อเสีย ที่เด็กจะได้รับจากการเรียนแบบโฮมสคูล (home school)
ต้องยอมรับว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงแนวทางการเรียนการสอนของผู้ปกครองมากขึ้น ทำให้หลายครอบครัวมองหาหลักสูตรการศึกษาที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันมากขึ้น ซึ่ง การเรียนแบบ
โฮมสคูล เป็นหลักสูตรที่เริ่มได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
home school คือ การเรียนการสอนที่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ผู้เรียนสนใจเป็นสำคัญ โดยมีผู้ปกครองเป็นผู้วางแผนการเรียนและเป็นผู้สอนบุตรหลานด้วยตัวเอง โดยการเรียนประเภทนี้สามารถเริ่มได้ตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ข้อดี - ข้อเสีย ที่เด็กจะได้รับจาก การเรียนแบบโฮมสคูล (home school)
ข้อดีของการเรียนแบบ Home Schooling
-
ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะที่ตัวเองสนใจ แม้ว่าเด็กจะ เรียนที่บ้าน แต่ก็สามารถผ่านหลักสูตรตามข้อกำหนดของกระทรวงศึกษาธิการอย่างเหมาะสมและสามารถข้ามวิชาที่ไม่จำเป็นต่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ทำให้เด็กมีเวลาในการทำกิจกรรมที่ตัวเองให้ความสนใจและเรียนจบหลักสูตรในแต่ละระดับชั้นได้ไวกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน
-
เกิดการปฏิสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัว ลูกจะได้รับการดูแลเอาใจใส่จากพ่อแม่ หรือผู้ปกครองอย่างเต็มที่ เพราะได้ใช้เวลาที่มีคุณภาพร่วมกันอยู่เสมอ
-
การเรียนการสอนมีความยืดหยุ่น เนื่องจาก เรียนที่บ้าน เป็นการเรียนที่ให้ความสำคัญเฉพาะวิชาที่ต้องใช้ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทำให้ผู้ปกครองสามารถปรับการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละวันได้อย่างเหมาะสม
ข้อเสียของการเรียนแบบ Home Schooling
-
ขาดทักษะการเข้าสังคม หากเด็กเรียนแบบ home school ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายต่อเนื่องกันโดยไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นทำให้เด็กขาดทักษะในการเข้าสังคมได้
-
ผู้ปกครองขาดความเข้าในหลักสูตร แม้ว่าการเรียนแบบ Home Schooling จะมีความยืดหยุ่นแต่หากผู้ปกครองไม่มีความรู้ ความสามารถในการสอนให้ลูกเข้าใจในวิชาที่จำเป็นอาจส่งผลเสียต่อการเรียนของลูกในอนาคตได้
-
หลักสูตร home school ในประเทศไทย รองรับตั้งแต่ชั้นอนุบาล – มัธยมศึกษาตอนปลาย โดยผู้ปกครองที่สนใจในหลักสูตรนี้และต้องการให้บุตรหลานได้รับวุฒิการศึกษาตามหลักสูตรที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดสามารถยื่นเอกสารเพื่อขออนุญาตจดทะเบียนหลักสูตรได้ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดที่อาศัยอยู่ได้ โดยการจบหลักสูตรสามารถจดได้ทั้งหลังสูตรของไทยและต่างประเทศ รวมถึงวิธีการประเมินผลเพื่อจบหลักสูตรในแต่ละชั้นเรียนขึ้นอยู่กับ สพฐ. แต่ละพื้นที่กำหนด เช่น การขอดูแฟ้มผลงาน การทำข้อสอบ หรือการสอบสัมภาษณ์เพื่อวัดระดับความรู้ ความเข้าใจ เป็นต้น และจะสามารถสอบวัดผลได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น
การเรียนการสอนแบบ Home Schooling เป็นหลักสูตรที่น่าสนใจแต่ควรพิจารณาความพร้อมของผู้เรียนและผู้สอนเป็นสำคัญ เพื่อให้ได้การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันมากที่สุด
ที่มาข้อมูล
https://www.chulatutor.com/blog/homeschool/
https://owlcampus.com/home-school-program/
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
- ตอนที่ 1 : เปรียบเทียบ ข้อดี - ข้อเสีย ที่เด็กจะได้รับจากการเรียนแบบโฮมสคูล (home school)