ปัจจุบันการทำ ประกันโรคร้ายแรง ถือเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงทั้งกลุ่มพนักงานเอกชนและข้าราชการ เพราะสุขภาพนั้นเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ ถึงต่อให้ดูแลสุขภาพตัวเองดีแค่ไหน แต่เราก็ไม่สามารถควบคุมปัจจัยภายนอก เช่น มลพิษ สารพิษตกค้างในอาหาร ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงเลือกที่จะทำ ประกันโรคร้าย เอาไว้เผื่อในอนาคตเกิดอะไรขึ้นมา อย่างน้อยจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าประกันที่ครอบคลุมโรคร้ายแรงนี้แตกต่างจาก ประกันชีวิตสุขภาพ ทั่วไปอย่างไร ? วันนี้เราจะมาเฉลยให้ได้รู้กัน
สำหรับ
ประกันโรคร้าย ถือเป็นประกันสุขภาพประเภทหนึ่งที่เน้นให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงโดยเฉพาะ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์แต่ละฉบับว่าคุ้มครองโรคใดบ้าง โดยประกันประเภทนี้ส่วนใหญ่จะมีวงเงินคุ้มครองค่อนข้างสูง สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งค่าหมอ ค่าห้องพัก ค่ายา และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อย่างครบถ้วน เพราะโรคร้ายแรงส่วนใหญ่มีค่ารักษาที่ค่อนข้างสูงและจำเป็นต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ตลอดจนเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย แต่ส่วนใหญ่ค่าเบี้ยประกันจะไม่แพง บางกรณีถูกกว่า ประกันสุขภาพ เหมาจ่ายด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้ประกันแบบโรคร้ายแรงจึงตอบโจทย์กับคนที่มีความกังวลเรื่องอนาคต กลัวว่าจะเจ็บป่วยเมื่ออายุมากขึ้น หากไม่รีบทำประกันที่ครอบคลุมโรคร้ายแรงไว้แต่เนิ่น ๆ ก็อาจจะไม่มีเงินรักษาตัวยามเจ็บป่วย รวมถึงยังมีประกันมะเร็ง หากตรวจพบมะเร็งไม่ว่าจะระยะไหนก็รับเงินก้อนและรับการรักษาทันที
ประกันมะเร็งจึงเหมาะสำหรับผู้ที่คิดว่าสุ่มเสี่ยงในการเป็นมะเร็งแนะนำให้ทำไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
เนื่องจาก
ประกันโรคร้ายแรง มีลักษณะความคุ้มครองบางด้านที่คล้ายคลึงกับ ประกันสุขภาพ เหมาจ่าย ทำให้หลายคนมักจะสับสนกับประกันทั้ง 2 ประเภทนี้ โดยประกันโรคแบบร้ายแรงจะให้ความคุ้มครองเฉพาะโรคร้ายแรงที่ระบุไว้ในกรมธรรม์เท่านั้น ในกรณีที่ตรวจพบโรคร้ายแรงบริษัทประกันมักจะจ่ายรักษาพยาบาลเป็นเงินก้อนใหญ่ทีเดียว โดยจะจ่ายให้ผู้เอาประกันโดยตรง ขณะที่
ประกันสุขภาพ เหมาจ่ายนั้นจะให้ความคุ้มครองโรคเกือบทุกโรค ไม่ว่าจะโรคร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง ค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่ายตามจริง ภายใต้วงเงินตามแผนประกันที่เลือก โดยบริษัทประกันจะจ่ายให้กับโรงพยาบาลเท่านั้น
จุดเด่นของประกันโรคร้ายแรง
เมื่อทราบกันแล้วว่า ประกันโรคร้าย แตกต่างจาก ประกันสุขภาพ ทั่วไปอย่างไร ลำดับต่อไปเราลองไปดูจุดเด่นของประกันโรคแบบร้ายแรงกันบ้าง
หากคุณทำประกันโรคร้ายแรงแล้วไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงจนหมดสัญญา คุณจะได้รับเบี้ยประกันคืน ส่วนจะเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือก
ส่วนใหญ่แล้วประกันโรคร้ายแรงไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพ เพียงแค่ตอบคำถามสุขภาพเท่านั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือก
สามารถทำประกันได้ตั้งแต่อายุ 1 วัน ไปจนถึงอายุ 70 - 75 ปี (แล้วแต่บริษัท) ส่วนใหญ่แล้วหากทำตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ ค่าเบี้ยประกันก็จะยิ่งถูก
-
รับเงินก้อนทันทีที่เจอโรค
ในกรณีที่ตรวจเจอโรคร้ายแรงตามที่ระบุไว้ในสัญญา บริษัทจะจ่ายเงินก้อนให้ทันที ทำให้เราสามารถบริหารค่ารักษาพยาบาลเองได้แบบ 100%
ทั้งหมดนี้คือสาระความรู้เกี่ยวกับ ประกันโรคร้ายแรง ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ จะเห็นได้ว่าเป็นประกันที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มักห่วงกังวลเรื่องอนาคต กลัวว่าจะเจ็บป่วยร้ายแรงเมื่ออายุมากขึ้น หากใครมีความกังวลในเรื่องนี้ การทำประกันโรคร้ายแรงก็จะช่วยบรรเทาความกังวลของคุณได้
ที่มาข้อมูล
https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/life-style/why-critical-illness-insurance.html
https://www.scb.co.th/th/personal-banking/insurance/easy-app-insurance/critical-illness-big-3.html
https://www.set.or.th/th/education-research/education/happymoney/knowledge/article/81-tsi-3-things-to-consider-before-choosing-critical-illness-insurance
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที