ยางรถยนต์ เปรียบเสมือนรองเท้าที่รองรับน้ำหนักตัวรถ ช่วยให้เคลื่อนที่บนท้องถนนได้อย่างราบรื่น เปรียบเสมือนอวัยวะสำคัญที่ส่งผลต่อความปลอดภัยบนท้องถนน แต่ด้วยการใช้งาน ยางย่อมเสื่อมสภาพ เกิดรอยแตกลายงา ดอกยางสึกหรอ ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน และอาจนำไปสู่ความอันตรายบนท้องถนนได้ บทความนี้ชวนอ่านเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการ “เปลี่ยนยาง” ที่จะช่วยให้คุณเปลี่ยนยางด้วยตัวเองได้อย่างมั่นใจ เพิ่มความปลอดภัยในทุกครั้งที่ขับขี่
เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนยาง?
สังเกตรอยแตกลายงา รอยปริ บนเนื้อยาง เปรียบเสมือนริ้วรอยบนใบหน้าที่บ่งบอกถึงอายุ ยางที่เสื่อมสภาพจะมีรอยแตกลายงา รอยปริ รอยฉีกขาด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาเปลี่ยนยางแล้ว
ดอกยางสึกหรอ เหลือน้อยกว่า 2 มม. เปรียบเสมือนรองเท้าที่สึกจนพื้นบาง ดอกยางที่มีหน้าที่ยึดเกาะถนน เมื่อสึกหรอ จะทำให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนลดลง โดยเฉพาะบนถนนเปียก เพิ่มความเสี่ยงต่อการลื่นไถล
ยางบวมผิดปกติ เปรียบเสมือนรองเท้าที่บวมน้ำ ยางที่บวมผิดปกติ เกิดจากโครงสร้างภายในเสียหาย ส่งผลต่อความปลอดภัย
ยางเก่า เกิน 5 ปี แม้จะดูสภาพดี ไม่ได้ใช้งานบ่อย ยางก็เสื่อมสภาพตามกาลเวลา เปรียบเสมือนยางรถยนต์ที่เก็บไว้นาน แม้จะไม่เคยใช้งาน แต่เนื้อยางก็เสื่อมสภาพ สูญเสียประสิทธิภาพ
วิธีการเปลี่ยนยาง
จอดรถในพื้นเรียบ แข็ง และปลอดภัย เลือกพื้นที่เรียบ แข็ง ปราศจากสิ่งกีดขวาง เพื่อป้องกันรถไหล
ดึงเบรกมือ เพิ่มความปลอดภัย ป้องกันรถไหล
ใช้อุปกรณ์ขันล้อ คลายน็อตล้อ โดยใช้ประแจขันล้อ คลายน็อตล้อให้คลาย
ยกแม่แรงขึ้น ยกจนล้อลอยจากพื้น เลือกแม่แรงที่เหมาะสม ยกจนล้อลอยจากพื้น
ถอดน็อตล้อทั้งหมด ถอดล้อออก ถอดน็อตล้อทั้งหมด นำล้อออก
ใส่ยางใหม่ สวมล้อ ใส่ยางใหม่ สวมล้อให้เข้าที่
ขันน็อตล้อให้แน่น ขันน็อตล้อให้แน่นตามค่าแรงบิดที่ระบุ
ลดแม่แรง ลดแม่แรงลง
ขันน็อตล้อให้แน่นอีกครั้ง ตรวจสอบความแน่นของน็อตล้ออีกครั้ง
เก็บอุปกรณ์ เก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
ข้อควรระวัง
เลือกยางให้เหมาะสมกับขนาดและรุ่นรถ เลือกยางที่ตรงกับขนาดและรุ่นรถ
ขันน็อตล้อให้แน่นตามค่าแรงบิดที่ระบุ การขันน็อตล้อที่ไม่แน่นเพียงพอ อาจทำให้ล้อหลุด while driving
ตรวจสอบลมยาง เติมลมยางให้ได้ตามค่าที่ระบุ
เก็บยางเก่าอย่างถูกวิธี ยางเก่าสามารถนำไปรีไซเคิล หรือขายต่อได้
การเปลี่ยนยางรถยนต์ จำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่เหมาะสม สำหรับผู้ที่ไม่มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่จำเป็น แนะนำให้ใช้บริการจากศูนย์บริการหรือช่างผู้ชำนาญ
การดูแลรักษายาง
ตรวจสอบลมยางสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
สลับยางทุก 10,000 กม. ช่วยให้ยางสึกหรอสม่ำเสมอ
หลีกเลี่ยงการบรรทุกของหนัก การบรรทุกของหนักเกินพิกัด ส่งผลต่อยาง
ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเบรกกะทันหัน การขับขี่ด้วยความเร็วสูง
โดยสรุปแล้ว การเปลี่ยนยางรถยนต์ เปรียบเสมือนการเปลี่ยนรองเท้าให้รถ การเลือกยางที่เหมาะสม และการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัย มั่นใจ ไร้กังวล
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที