อมรพงศ์

ผู้เขียน : อมรพงศ์

อัพเดท: 30 ม.ค. 2008 20.40 น. บทความนี้มีผู้ชม: 5683 ครั้ง

บอกเล่าเรื่องราวของเด็กม.ปลาย 2 คน ที่ก้าวไกลเพราะเทคโนโลยี


ชีวิตมัธยมปลายก้าวไกลไปกับเทคโนโลยี

ชีวิตมัธยมปลายก้าวไกลไปกับเทคโนโลยี

                                ชีวิตนี้ใช่ชะตาฟ้าลิขิต                  ความใฝ่ฝันในดวงจิตเปี่ยมความหวัง

             เยาวชนคนยุคใหม่มีพลัง                               ไม่รอรั้งฟันฝ่ารุดหน้าไป

             ชีวิตมัธยมปลายก้าวไกลแน่                           ขอเพียงแต่มุ่งมั่นสำเร็จได้

             เทคโนโลยีนำตนสู่เส้นชัย                            สร้างคนให้เก่งเรียนรู้สู่สังคม

                                ชีวิตมัธยมปลายก้าวไกลไปกับเทคโนโลยี  ข้อความนี้เป็นจริงในโลกยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งเป็นยุคของข้อมูลข่าวสาร จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผมมีเรื่องราวของบุคคล 2 คนที่รู้จักและจะขอนำเรื่องราวของเขาทั้งสองในช่วงที่เรียนมัธยมปลายมาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งทั้ง 2 คนได้ใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้และประสบความสำเร็จในการศึกษาเล่าเรียน

                                คนแรกที่ผมจะเล่าคือพี่ชายของผมเอง พี่ชายของผมชื่อ นายเนมินทร์ สุขเสน ปัจจุบันเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นนักศึกษาทุนเพชรทองกวาว คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ตอนเด็กๆพี่ของผมชอบคอมพิวเตอร์มาก ครอบครัวของเราสมัยก่อนมีคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวทั้งๆที่มีคนใช้ถึง 5 คน คือ พ่อ แม่ น้องของผม ตัวผม และพี่ชาย  พ่อของผมเป็นครูสอนวิชาคณิตศาสตร์และเคยสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ส่วนแม่เป็นครูสอนสารพัดวิชา เพราะอยู่โรงเรียนมัธยมประจำตำบลแห่งหนึ่งที่ใกล้บ้านของผม เท่าที่ผมจำความได้ พี่ชายของผมจะคลุกคลีอยู่กับคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา  แทบจะเรียกว่าหลับอยู่หน้าเครื่องก็ว่าได้ พี่ชายผมเข้าแข่งขันการเขียนโปรแกรมระดับจังหวัดและระดับเขตพื้นที่การศึกษาได้รับรางวัลอยู่บ่อยครั้ง ตอนอยู่ชั้น ม. 2 พี่ของผมทำโครงงานปริศนาคำทายล้านนา ส่งประกวดของ เนคเทค ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ ปีถัดมาทำโครงงานเรื่อง นางในวรรณคดีไทย เข้ารอบสองของเนคเทค และทำโครงงานส่งประกวดแข่งขันเข้ารอบทุกปี จนกระทั่งตอนอยู่ ม.6 ทำโครงงานเรื่อง School Information System ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ ไปแสดงผลงานที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต นอกจากนี้พี่ชายของผมยังไปเข้าค่ายที่เชียงใหม่เพื่อคัดเลือกนักเรียนไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ พี่ชายของผมผ่านรอบสุดท้ายได้ไปเข้าค่ายที่กรุงเทพฯ จากผลงานที่ผ่านมาก็ได้เก็บสะสมเอาไว้เป็นแฟ้มสะสมงานเพื่อเก็บเอาไว้ประกอบการสอบสัมภาษณ์ในการศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยและได้รับทุนเพชรทองกวาว ในช่วงที่เรียนมัธยมปลาย พ่อตัดสินใจซื้อคอมพิวเตอร์ให้พี่เครื่องหนึ่ง เพราะใช้งานบ่อยมาก ทั้งศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการเรียนและใช้ทำโครงงานส่ง รวมทั้งการประกวดแข่งขันอื่นๆด้วย เช่นการแข่งขันพวกหุ่นยนต์ หรือ การแข่งขันติดตั้งระบบลีนุกซ์ ซึ่งพี่ของผมเข้ารอบและเคยได้รับรางวัลด้วย ในการใช้งานแต่ละวัน จะเริ่มจากการค้นหาข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ข้อมูลการประกวดแข่งขันคอมพิวเตอร์จากหน่วยงานต่างๆที่เชิญชวนให้ประกวด ข้อมูลการเข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการ จากผลงานที่มี สามารถสร้างความเชื่อถือศรัทธาจากรุ่นพี่และรุ่นน้องในโรงเรียนจนกระทั่งพี่ของผมได้รับเลือกเป็นประธานนักเรียน โรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่ ในการเรียนรู้แต่ละรายวิชา บางครั้งพี่ของผมก็เข้าไปเรียนในเว็บไซต์ต่างๆ ผ่านระบบ E-Learning บางครั้งก็เรียนรู้ผ่านการเรียนการสอนที่บันทึกไว้ในแผ่น CD เพราะพี่ของผมไม่ชอบไปเรียนพิเศษตามแหล่งต่างๆที่โฆษณาอยู่ทั่วไป เนื่องจากค่าเรียนพิเศษแพงมากแล้วบางทีในช่วงปิดเทอมต้องไปเรียนต่างจังหวัด ซึ่งเสี่ยงต่อการรวมกลุ่มกันไปเที่ยวเตร่ หรืออาจเกิดเรื่องเสียหายเพราะอยู่ห่างไกลผู้ปกครอง  สำหรับเรื่องการเรียนพิเศษนั้นบ้านของผมไม่นิยมเพราะอยากให้ลูกๆเรียนรู้ด้วยตนเองและใฝ่ศึกษาสิ่งต่างๆจากเทคโนโลยีซึ่งมีอยู่อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นครูตู้(โทรทัศน์) แผ่น CDการเรียนการสอน การเข้าอินเตอร์เน็ตซึ่งเปรียบเสมือนห้องสมุดแห่งใหญ่ของโลก การเรียนโดยใช้ ระบบมัลติมีเดียต่างๆ การที่พี่ชายของผมประสบความสำเร็จในการศึกษาเล่าเรียนก็เป็นเพราะเทคโนโลยี สำหรับการเข้าไปศึกษาต่อโดยได้รับทุนการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยก็เป็นการประหยัดรายจ่ายของครอบครัว สามารถเรียนหนังสือแบบช่วยตนเองได้เนื่องจากพ่อ แม่ผมเป็นข้าราชการ รายได้น้อย การที่มีทุนการศึกษามาช่วยเหลือนับเป็นการลดภาระรายจ่ายภายในครอบครัวและยังฝึกฝนให้เด็กรู้จักกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือตนเองด้วย ในปีการศึกษา 2550 นี้ผมก็ได้ข่าวว่าพี่ของผมเข้ารอบชิงชนะเลิศในการเขียนโปรแกรมของเนคเทคอีกครั้ง และสามารถสอบเข้าไปฝึกงานที่บริษัทคอมพิวเตอร์ CLSที่สีลม กรุงเทพฯ  ผมจึงคิดว่าพี่ชายผมประสบผลสำเร็จได้ก็ด้วยการพึ่งพาเทคโนโลยีทั้งในการเรียนรู้และการทำงาน นั่นเอง  

             สำหรับเรื่องราวที่จะเล่าอีกเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องของพี่พิทักษ์ นิยม ลูกศิษย์หัวแก้วหัวแหวนของแม่ผม ครอบครัวของผมรู้จักและสนิทสนมกับพี่พิทักษ์ทุกคน ปัจจุบันพี่เขาไปเรียนเภสัชศาสตร์ ณ กรุงมาดริด ประเทศ สเปน ในโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน สำหรับสภาพแวดล้อมทั่วไป ครอบครัวมีฐานะยากจน พ่อเข็นรถขายไอศครีม แม่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป รายได้ไม่แน่นอน ดังนั้นจึงเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมประจำตำบลใกล้บ้านจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ในช่วงที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนบ้านกาศประชานุเคราะห์ ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมประจำตำบล ได้เข้าแข่งขันทักษะคอมพิวเตอร์ในระดับจังหวัด และระดับเขตพื้นที่การศึกษา ได้รับรางวัลเป็นจำนวนมาก ทั้งๆที่บ้านพี่เขาไม่มีคอมพิวเตอร์เลยสักเครื่อง สำหรับวิธีการเรียนรู้ของพี่พิทักษ์น่าศรัทธาและยกย่องมาก คือ เขาจะเรียนรู้อยู่ที่โรงเรียนจนมืดจนค่ำและจะขลุกตัวเองอยู่กับอินเตอร์เน็ตในห้องสมุด  เพราะที่บ้านเขาไม่มีอินเตอร์เน็ตจึงต้องพึ่งพาเครื่องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนซึ่งใช้ทั้งศึกษาค้นคว้าหาความรู้และหางานการประกวดแข่งขันต่างๆทำเพื่อจะให้ได้เงินทุนการศึกษามาใช้สำหรับการศึกษาเล่าเรียน เท่าที่ทราบเคยร่วมประกวดโครงงานเรียนภาษาไทยด้วย ICT กับบริษัท
ชินคอร์เปอเรชัน มหาชน จำกัด ได้รับเงินรางวัลจำนวน
5,000 บาท เคยเข้ารอบ 2 การแข่งขันการประกวดสื่อการสอนของบริษัท
อินเทล  ที่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จังหวัดเชียงใหม่ ในขณะที่เรียนมัธยมปลายก็ได้ใช้เทคโนโลยีในการค้นหางานประกวดแข่งขันต่างๆมาทำ เพื่อนำเงินรางวัลมาเป็นทุนการศึกษาสำหรับตนเอง การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองนี่เองที่ทำให้พี่พิทักษ์มีความแข็งแกร่ง
มีความอดทน ต่อสู้และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เนื่องจากพ่อ แม่มีฐานะยากจน พี่เขาจึงไม่ได้เรียนพิเศษที่ไหนเลย นอกจากเข้าอินเตอร์เน็ต เรียนรู้ผ่านระบบ
E- Learning เรียนรู้จากครูตู้ (โทรทัศน์)และสื่อประสมที่หน่วยงานต่างๆส่งมาให้ทางโรงเรียน
พี่พิทักษ์ค่อนข้างใช้ภาษาอังกฤษได้ดีทั้งการฟัง การพูดและการเขียน ส่วนใหญ่เรียนรู้จากวิทยุและโทรทัศน์ ส่วนใหญ่ใช้การจดจำเอาและมีความสนใจในสิ่งที่ต้องการจะเรียนบวกกับความชอบด้วยจึงจะประสบผลสำเร็จ การที่พี่พิทักษ์ได้รับคัดเลือกให้ไปศึกษาต่อที่ประเทศสเปนต้องไปเรียนภาษาสเปนเบื้องต้นเสียก่อน จากนั้นพอเดินทางไปสเปน ในปีแรกยังไม่ได้เรียนเภสัชศาสตร์ แต่ต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัยภาษา เพื่อฝึกฝนการฟัง พูด อ่าน เขียนภาษาสเปน และในเดือนกุมภาพันธ์
2551 ก็จะมีการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อเรียนในคณะเภสัชศาสตร์ต่อไป ช่วงที่พี่พิทักษ์ไปอยู่สเปนโทรศัพท์ข้ามประเทศมาพูดคุยกับพวกเรา 3 ครั้ง นอกนั้นการติดต่อระหว่างเราก็จะใช้ E-mail เพื่อความรวดเร็วสะดวกและประหยัด เราทุกคนหวังว่าเขาคงจะเรียนจบโดยเร็ว มีงานทำที่ดี มีอนาคตที่ดีเพราะใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้มาโดยตลอด

             จากเรื่องราวที่เล่ามาทั้ง 2 เรื่อง คงจะพิสูจน์ได้กับข้อความที่ว่า  “ชีวิตมัธยมปลายก้าวไกลไปกับเทคโนโลยี” เพราะชีวิตในช่วงมัธยมปลาย ทั้งคู่ได้ใช้เทคโนโลยีในการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ จนประสบความสำเร็จ สมดังคำกล่าวที่ว่า
“ผู้กำเทคโนโลยีคือผู้กำชัยชนะ” และข้าพเจ้าก็เห็นแล้วว่าข้อความนี้เป็นจริงทุกประการ

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที