โบท็อกเกาหลี เป็นโบท็อกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ได้รับการรับรองจากอย. ประเทศไทยมีหลายยี่ห้อด้วยกัน ซึ่งในบทความนี้เราจะพูดถึง Nabota Neuronox รวมไปถึงน้องใหม่อย่าง Aestox มาดูกันว่าแต่ละยี่ห้อนั้นมีจุดเด่นต่างกันอย่างไร
โบท็อกเกาหลีแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นที่ต่างกันไป จะเลือกใช้ยี่ห้อไหนนั้น ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์และประเมินใบหน้าของแพทย์ ว่าโบท็อกตัวไหนสามารถแก้ไขปัญหาที่คนไข้ต้องการได้อย่างเหมาะสม โบท็อกเกาหลีแต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นที่ต่างกัน ดังนี้
โบท็อก Nabota
Nabota (นาโบตะ) คือ โบท็อกเกาหลีที่มีจุดเด่นด้านเทคโนโลยี HI-PURE ที่พัฒนามาอย่างยาวนานจนได้สิทธิบัตรในปี 2013 ทำให้ตัวยามีความบริสุทธิ์ถึง 98.7% (Golden Toxin 98.7%) ได้รับมาตรฐาน U.S. FDA จากประเทศอเมริการวมถึงอย. ของประเทศไทยด้วย
เป็นยี่ห้อที่เห็นผลลัพธ์เร็ว แต่ระยะเวลาของผลลัพธ์จะสั้นลงกว่ายี่ห้ออื่นเล็กน้อยประมาณ 4 – 5 เดือน เหมาะกับงานเร่ง งานด่วน ช่วยเรื่องรอยย่นหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว ปัญหาคิ้วตก ริ้วรอยรอบดวงตา หางตา รอยตีนกา ริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณร่องแก้ม
โบท็อก Neuronox
Neuronox (นิวโรน็อกซ์) เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ใช้ Botulinum Toxin Type A (Hall A-hyper) สายพันธุ์ออริจินัลมาสกัดเป็นตัวยา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีหลายงานวิจัยยืนยันว่ามีประสิทธิภาพที่สุด และเป็นสายพันธุ์ตัวเดียวกับโบท็อกอเมริกา มีความบริสุทธิ์ 98 – 99% คงผลลัพธ์ได้นาน 4 – 6 เดือน ได้รับการรับรองจาก U.S. FDA และอย.จากประเทศไทย
มีจุดเด่นคือให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ การกระจายตัวยาแคบ ให้ผลการรักษาแม่นยำ เนื่องจากแพทย์สามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้ สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งทั้งใบหน้าและร่างกาย แต่จุดที่นิยมที่สุด คือ บริเวณใบหน้าเพื่อลดริ้วรอย ลดกราม ปรับรูปหน้าเรียว
โบท็อก Aestox
Aextox (เอสท็อก) คือโบท็อกเกาหลีที่มีการทำวิจัยกับทางโรงพยาบาลศิริราช เป็นระยะเวลามากกว่า 5 ปี เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับคนไทย มีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% ได้รับการรับรองจาก KFDA ของประเทศเกาหลีใต้ และอย. จากประเทศไทย คงผลลัพธ์ได้นาน 5 – 6 เดือน
เป็นยี่ห้อที่ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ มีความอ่อนโยน หน้าไม่ตึง ไม่แข็ง นิยมฉีดเพื่อลดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เก็บกรอบหน้า กระชับรูขุมขน ลดกราม ใบหน้าเรียวเล็ก ลดริ้วรอย ลดน่อง
นอกจากนี้โบท็อกเกาหลียังมีข้อดี คือราคาที่ย่อมเยาว์กว่าโบท็อกฝั่งอเมริกา แต่ยังคงประสิทธิภาพใช้แก้ไขปัญหาริ้วรอย หรือปรับรูปหน้าได้อย่างเห็นผล จึงเป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับคนไข้ที่ต้องการประหยัดงบประมาณ
โบท็อกแต่ละยี่ห้อมีวิธีการตรวจสอบที่ต่างกันออกไปแต่ละยี่ห้อ คนไข้ควรศึกษาดูว่าโบท็อกแท้แต่ละยี่ห้อเป็นอย่างไร เนื่องจากปัจจุบันนี้ยังมีการแอบใช้โบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว รวมไปถึงอาการดื้อโบท็อกซึ่งเป็นภาวะที่ไม่มีทางรักษาได้
โบท็อกเกาหลีของแท้สามารถตรวจสอบได้ ดังนี้
วิธีดูโบท็อก Nabota
ผลลัพธ์ของโบท็อกขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและยี่ห้อของโบท็อก ลดริ้วรอย หน้าผาก ตีนกา ระหว่างคิ้ว และลิฟต์กรอบหน้า สามารถเห็นผลใน 3 – 4 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 1 – 2 อาทิตย์
ส่วนโบท็อกกรามขึ้นอยู่กับกรามของคนไข้ ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าการฉีดริ้วรอย เนื่องจากกรามเป็นส่วนกล้ามเนื้อที่ใหญ่ โดยปกติแล้ว 1 อาทิตย์จะเริ่มกัดฟันแล้วพบว่ากรามเด้งออกมาเล็กน้อย หลังจาก 2 อาทิตย์เป็นต้นไปจะพบว่ากัดฟันแล้วไม่เด้งเลย สามารถเห็นผลลัพธ์เต็มที่ใน 2 – 3 เดือน
โบท็อกเกาหลีมีด้วยกันหลายยี่ห้อที่ได้รับ อย.จากประเทศไทย เช่น Nabota Neuronox Aestox ซึ่งแต่ละยี่ห้อมีข้อดีที่ช่วยแก้ปัญหาในแต่ละจุดที่ต่างกัน มีระยะเวลาคงอยู่ที่ต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดูแลรักษาของคนไข้หลังฉีดโบท็อกด้วย ส่วนควรฉีดยี่ห้อไหนดีนั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษาว่าจะยี่ห้อไหนเหมาะสมกับคนไข้บ้าง
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที