เมื่อโอนเงินผิดบัญชีอย่าพึ่งตกใจ ให้เช็กก่อน ถ้าบัญชีที่โอนผิดเป็นบัญชีที่รู้จักก็ติดต่อเพื่อขอเงินคืนได้โดยตรง แต่ถ้าเป็นบัญชีที่ไม่รู้จักจะต้องติดต่อธนาคารเพื่อเดินเรื่องขอเงินคืน
โอนเงินผิดบัญชี ทำอย่างไรดี จะได้เงินคืนไหม? ในช่วงที่รู้ตัวว่าโอนเงินไปผิดบัญชีก็อาจจะรู้สึกเครียด กังวล ลนลานจนทำอะไรไม่ถูก มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่จะเกิดอาการหรือความรู้สึกเหล่านี้ขึ้นเมื่อโอนเงินผิดบัญชี แต่ถ้าคุณปล่อยให้ความคิดเหล่านั้นวนเวียนก็จะทำให้คุณเสียเวลามากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์โอนเงินผิดบัญชี ก่อนอื่นให้คุณใจเย็น ๆ แล้วทำตามวิธีดังต่อไปนี้ก็จะช่วยให้คุณได้รับเงินที่โอนผิดกลับคืนมาได้
เมื่อโอนเงินผิดบัญชี ก่อนอื่นจะต้องเช็กก่อนว่าบัญชีปลายทางที่คุณโอนผิดไปเป็นบัญชีคนรู้จักหรือไม่ ในกรณีที่เป็นคนรู้จักก็สามารถติดต่อคุยกับคน ๆ นั้นเพื่อขอให้คืนเงินโดยตรงได้ แต่กรณีที่โอนเงินผิดไปยังบุคคลที่ไม่รู้จัก คุณจะต้องเตรียมตัวเดินเรื่องกับตำรวจและธนาคารเพื่อเดินเรื่องขอเงินที่โอนผิดคืน
สำหรับผู้ที่โอนเงินผิดบัญชีไปยังบัญชีปลายทางที่ไม่รู้จัก ให้คุณบันทึกหลักฐานการโอนเงินซึ่งก็คือสลิปโอนเงินหรือใบบันทึกรายการเก็บไว้ก่อน เพราะหลักฐานชิ้นนี้เป็นหลักฐานที่สำคัญมาก ๆ ในการเดินเรื่องขอเงินที่โอนผิดบัญชีคืนมา
ภายในใบสลิปโอนเงินจะมีรายละเอียดข้อมูลที่เกี่ยวข้องระบุไว้อยู่ เช่น ช่องทางการโอนเงิน เวลาที่ทำการโอนเงิน ยอดเงินที่โอน หมายเลขอ้างอิงทำรายการ และอื่น ๆ ซึ่งเวลาที่นำสลิปโอนเงินไปยื่นกับธนาคาร ก็จะช่วยทำให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบเรื่องและประสานงานง่ายมากขึ้น
ขั้นตอนถัดมาที่ต้องทำเพื่อยื่นเรื่องขอเงินคืนกรณีโอนเงินผิดบัญชี คือ เดินทางไปยังสถานีตำรวจเพื่อขอใบแจ้งความหรือบันทึกประจำวัน แต่เพื่อเดินเรื่องขอใบแจ้งความได้อย่างรวดเร็วไม่ติดขัดอะไร ก่อนไปสถานีตำรวจจะต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้พร้อม ดังนี้
เมื่อรวบรวมเอกสารครบและเดินทางถึงสถานีตำรวจแล้ว ให้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าโอนเงินผิดบัญชีเพื่อขอใบแจ้งความ ทางตำรวจก็จะซักถามรายละเอียดเพื่อกรอกข้อมูลลงในใบแจ้งความ เช่น
หลังจากที่ได้รับใบแจ้งความแล้ว ให้คุณเดินทางไปธนาคารที่ทำธุรกรรมโอนเงิน(ธนาคารต้นทาง) แล้วแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าโอนเงินผิดบัญชี ทางเจ้าหน้าที่ก็จะสอบถามรายละเอียดเบื้องต้น เช่น วันเวลาที่โอนเงินไปผิดบัญชี ธนาคารปลายทางที่โอนไป และขอเอกสารที่ใช้ในการตรวจสอบและประสานงานเพื่อเดินเรื่องขอคืนเงิน
เอกสารที่แต่ละธนาคารต้องการจะมีดังนี้
หลังจากที่แจ้งโอนเงินผิดบัญชีพร้อมยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องในการเดินเรื่องขอเงินคืนเรียบร้อยแล้ว ทางธนาคารจะเป็นผู้คอยประสานงานให้กับคุณ โดยการดำเนินเรื่องขอเงินคืนจากบัญชีปลายทางจะแบ่งเป็น 2 กรณีย่อย ดังนี้
เจ้าหน้าที่ธนาคารจะติดต่อกับเจ้าของบัญชีปลายทางโดยตรงเพื่อขอความยินยอมให้ดึงเงินคืน
เจ้าหน้าที่ธนาคารจะติดต่อกับธนาคารปลายทางเพื่อให้ธนาคารปลายทางติดต่อขอความยินยอมให้ดึงเงินคืนกับเจ้าของบัญชีปลายทาง
เมื่ออ่านถึงตรงนี้แล้วอาจจะมีผู้สงสัยว่าทำไมธนาคารถึงไม่ดึงเงินจากบัญชีที่โอนเงินผิดกลับมาให้เลย ในเมื่อคุณแจ้งความประสงค์ขอเงินคืนจากการโอนเงินผิดบัญชีกับเจ้าหน้าที่แล้ว และเงินที่โอนผิดก็เป็นเงินของตนเองจริง ๆ ทำไมถึงต้องรอให้ทางธนาคารประสานงานหลายวันด้วย
นั่นเป็นเพราะว่าทางธนาคารมีหน้าที่เป็นตัวกลางที่สามารถทำได้เพียงเดินเรื่องประสานขอเงินคืนจากเจ้าของบัญชีปลายทางเท่านั้น ธนาคารไม่สามารถดึงเงินที่โอนผิดบัญชีกลับไปบัญชีต้นทางได้หากไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของบัญชีปลายทาง
เมื่อธนาคารประสานงานเดินเรื่องขอเงินที่โอนผิดบัญชีกับเจ้าของบัญชีปลายทางเรียบร้อยแล้ว ทางธนาคารจะแจ้งผลการดำเนินเรื่องขอเงินกับผู้ที่โอนเงินผิดบัญชี ในกรณีที่เจ้าของบัญชีปลายทางยินยอมคืนเงินให้ ธนาคารก็จะทำการดึงเงินจากบัญชีปลายทางและโอนกลับคืนให้กับผู้ที่โอนเงินผิดบัญชีทันที
กรณีที่ธนาคารแจ้งว่าเจ้าของบัญชีปลายทางไม่ยินยอมให้ดึงเงินที่โอนผิดกลับไป หรือไม่สามารถติดติดต่อกับเจ้าของบัญชีได้เลย อย่าพึ่งกังวลว่าจะหมดหนทางรับเงินคืนถ้าโอนเงินผิดบัญชี ถ้าได้รับคำตอบเช่นนี้คุณจะต้องแจ้งความกับตำรวจเพื่อที่จะเดินเรื่องรับเงินที่โอนผิดบัญชีกลับคืนมา
เมื่อแจ้งความกับตำรวจ ตำรวจจะออกเอกสารที่เรียกว่า “หมายเรียกพยานเอกสาร” เพื่อเดินเรื่องทางกฎหมายต่อไป โดยสิ่งที่ตำรวจจะสั่งกับธนาคารของบัญชีปลายทางมีดังนี้
ข้อนี้จะเป็นข้อเสริมในกรณีที่มีเงินโอนเข้าบัญชีของคุณโดยไม่ทราบที่มาที่ไป และมีคนติดต่อให้คุณโอนเงินคืนกลับ หากคุณพบเจอเหตุการณ์แบบนี้ สิ่งที่คุณควรทำนั้นไม่ใช่การโอนเงินกลับทันที แต่คุณ “ห้ามโอนเงินคืนบัญชีต้นทางเอง” และ “ห้ามใช้เงินที่โอนผิดบัญชี” เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง
อาจจะมีผู้สงสัยว่าทำไมถึงโอนเงินคืนในกรณีที่มีคนโอนเงินผิดบัญชีมาไม่ได้ นั่นเป็นเพราะว่าเงินที่โอนผิดมานั้นอาจเป็นเงินที่เกิดจากการกระทำผิด เงินในที่นี้อาจมาจากการที่มิจฉาชีพหลอกคนอื่นมาอีกที ถ้าคุณโอนเงินกลับไปให้มิจฉาชีพไม่ใช่เจ้าของเงินจริง ๆ คุณอาจจะเสี่ยงโดนฟ้องในข้อหายักยอกทรัพย์ได้แม้ว่าจะไม่ได้ทำจริง ๆ ก็ตาม เพื่อให้เห็นภาพง่ายขึ้นจะขอยกตัวอย่างเหตุการณ์จำลองดังนี้
ตัวอย่าง
“นาย A หลอกให้นาย B โอนเงินมาที่บัญชีของนาย C นาย B ก็หลงเชื่อโอนตามบัญชีที่นาย A บอก จากนั้นนาย A สวมรอยเป็นนาย B และโทรติดต่อนาย C พร้อมอ้างว่า ‘โอนตังผิดบัญชี ช่วยโอนกลับให้บัญชีXXX(บัญชีนาย A)หน่อยได้ไหม พอดีต้องรีบใช้เงินด่วน’ นาย C เห็นใจและรีบโอนเงินคืนตามที่นาย A บอก นาย B ที่เป็นเจ้าของเงินตัวจริงก็คิดว่านาย C เป็นมิจฉาชีพเลยแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินเรื่องกับนาย C”
จะเห็นได้ว่าเพียงแค่หลงทำตาม ก็อาจทำให้ชีวิตของคุณต้องพัวพันกับเรื่องยุ่งยากได้ ดังนั้นหากเจอเหตุการณ์นี้ ก่อนอื่นให้คุณสอบถามข้อมูลจากปลายทางให้มากที่สุด เช่น ชื่อบัญชีและชื่อธนาคารที่โอน ยอดเงินโอน เวลาที่โอนเงิน แล้วค่อยติดต่อกับธนาคารที่มีเงินโอนผิดเข้ามา พร้อมส่งต่อข้อมูลให้กับธนาคาร เพื่อให้ธนาคารตรวจสอบและดำเนินเรื่องติดต่อคืนเงินกับเจ้าของเงินต่อไป
ระหว่างโอนเงิน ในบางครั้งก็อาจมีเหตุจำเป็นที่ทำให้คุณรีบมากจนเผลอกดโอนเงินผิดบัญชี ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้อย่าเพิ่งโทษตัวเอง ให้คุณรีบเตรียมเอกสารให้พร้อมแล้วติดต่อกับสถานีตำรวจเพื่อขอใบแจ้งความ จากนั้นจึงติดต่อกับธนาคารที่คุณใช้บริการเพื่อเดินเรื่องขอเงินที่โอนผิดบัญชีคืน
แต่ถ้าให้ดีที่สุด ในระหว่างที่คุณกำลังโอนเงิน แม้ว่าคุณจะรีบมาก ๆ แต่ให้คุณตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น เลขบัญชี/เลขพร้อมเพย์ ชื่อ-นามสกุลบัญชีปลายทาง ให้ตรงกับบัญชีที่ต้องการโอนจริง ๆ ก่อนกดปุ่มยืนยัน เพียงเท่านี้ก็จะช่วยป้องกันปัญหาการโอนเงินบัญชีผิดที่ทำให้คุณรู้สึกกังวลใจหรือเครียดได้
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที
