วัตพล

ผู้เขียน : วัตพล

อัพเดท: 08 มี.ค. 2024 18.26 น. บทความนี้มีผู้ชม: 518 ครั้ง

ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มชั้นผิวประเภท Hyaluronic Acid ที่ช่วยในเรื่องการกักเก็บน้ำใต้ชั้นผิว ช่วยให้ร่องลึกบนในหน้าอย่างร่องแก้ม ตีนตา ดูตื้นและอ่อนเยาว์ขึ้น


ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร? ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหนึ่งในวิธีการดูแลตัวเองที่สาว ๆ ผู้รักในการดูแลตัวให้ความสนใจ ปัจจุบันมีครีมบำรุงผิวใหม่ ๆ ถูกผลิตและพัฒนาขึ้นมามากมาย แต่ก็ยังมีปัจจัยทำร้ายผิวอีกหลาย ๆ อย่างที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างรังสียูวีจากแดด การพักผ่อนไม่เพียงพอจากการทำงาน หรือความเครียดที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การบำรุงผิวด้วยครีมจึงอาจยังไม่เพียงพอ 

ฟิลเลอร์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สาว ๆ ที่รักในการดูแลตัวเองให้ความสนใจและนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน วันนี้เราจึงจะมาพูดถึงประโยชน์และข้อควรรู้ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้สาว ๆ ศึกษาเป็นความรู้ก่อนการตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร

ฟิลเลอร์ คือ

ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มชั้นผิวประเภทหนึ่ง ที่ช่วยในเรื่องของการกักเก็บความชุ่มชื้นใต้ชั้นผิว ส่วนประกอบหลักของฟิลเลอร์ คือ ไฮยาลูลอน Hyaluronic Acid (HA) ที่เป็นสารกักเก็บความชุ่มชื้นตามธรรมชาติที่ร่างกายผลิตและกักเก็บอยู่ใต้ชั้นผิว ซึ่งร่ายกายจะผลิตออกมามากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น การพักผ่อน อายุ และอื่น ๆ หากเรามีสารชนิดนี้ไม่เพียงพอผิวของเราก็จะแห้งเหี่ยวไม่เต่งตึง การฉีดฟิลเลอร์จึงช่วยให้ใบหน้าของเราดูสดใสเต่งตึง ทำให้ร่องลึกบนในหน้าตื้นขึ้นได้

ประโยชน์ของฟิลเลอร์ 

อย่างที่กล่าวไปว่าฟิลเลอร์มีคุณสมบัติในเรื่องของการเติมเต็มชั้นผิว ฟิลเลอร์จึงสามารถช่วยให้ผิวที่เหี่ยวหรือเป็นร่องลึกอย่างร่องใต้ตา ร่องแก้ม หลุมสิว รอยย่อหน้าผากกลับมาเต่งตึงได้ 

นอกจากความเต่งตึงของผิวแล้ว ฟิลเลอร์ยังช่วยให้ผิวบริเวณที่ฉีดดูมีความยืดหยุ่นอิ่มน้ำ ด้วยความที่ส่วนประกอบหลักของฟิลเลอร์คือ ไฮยาลูลอน Hyaluronic Acid (HA) ที่เป็นสารกักเก็บความชุ่มชื้น การฉีดฟิลเลอร์จึงช่วยให้ผิวของผู้ที่ฉีด กลับมาเปล่งปลั่งสดใสเหมือนผิวเด็กอีกครั้ง

บริเวณที่นิยมฉีดฟิลเลอร์

บริเวณยอดนิยมในการฉีดฟิลเลอร์จะมีด้วยกันทั้งหมด 7 ตำแหน่งได้แก่

  1. บริเวณใต้ตา: การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยให้ร่องใต้ตาที่คล้ำหรือลึก ดูตื้นและหมองคล้ำน้อยลงได้ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงช่วยให้หน้าดูสดใส ไม่โทรม
  2. บริเวณปากหรือริมฝีปาก: นอกจากฟิลเลอร์จะช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มน้ำแล้ว ฟิลเลอร์ยังสามารถเพิ่มเนื้อปากให้ดูอวบอิ่มได้ ผู้คนจึงนิยมฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อให้ปากดูใหญ่และอวบอิ่มขึ้น
  3. บริเวณคาง: ฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มใบหน้าได้ ผู้คนนิยมจึงนิยมฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อปรับรูปหน้าให้ดูเท่ากัน
  4. บริเวณแก้มหรือร่องแก้ม: การฉีดฟิลเลอร์แก้มช่วยในเรื่องของการเติมเต็มร่องแก้ม และทำให้แก้มที่เหี่ยวย่นดูกระชับเต่งตึงขึ้นได้
  5. บริเวณขมับ: การฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นบริเวณยอดนิยมของสาว ๆ ที่มีปัญหาตาตก เพราะการฉีดฟิลเลอร์บริเวณนี้ สามารถช่วยให้ตาที่ตกดูยกขึ้นได้
  6. บริเวณจมูก: การฉีดฟิลเลอร์จมูกสามารถเปลี่ยนรูปจมูกให้ดูโด่งและเชิดขึ้นได้ การฉีดฟิลเลอร์บริเวณนี้จึงเป็นที่นิยมสำหรับสาว ๆ ที่ไม่อยากศัลยกรรมแต่อยากมีจมูกที่โด่งแต่ยังคงความธรรมชาติ
  7. บริเวณหน้าผาก: การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากช่วยให้หน้าผากดูมีมิติ สามารถแก้ปัญหาหน้าผากแบนไม่รับกับรูปหน้าได้

อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม

ผลเสียจากการฉีดฟิลเลอร์

ในช่วงแรกที่ฟิลเลอร์ปลอมเข้าสู่ร่างกาย ฟิลเลอร์จะมีการจับตัวเป็นก้อน เกิดอาการอักเสบ บวม แดง ในกรณีที่มีการอักเสบหรือติดเชื้อร้ายแรง ผิวบริเวณนั้นจะเป็นผังผืดและกลายเป็นเนื้อตายในที่สุด โดยเฉพาะฟิลเลอร์แบบถาวรที่ไม่สามารถฉีดสลายได้ การนำฟิลเลอร์ปลอมออกจากร่างกายจำเป็นต้องใช้วิธีการผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ซึ่งเคสที่แย่ที่สุดคือผิวหนังบริเวณนั้นเกิดการผิดรูปแก้ไขไม่ได้ 

ผลข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์ 

หลังจากฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการแดงหรือเป็นรอยเข็มได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายภายใน 2-3 วัน ในกรณีที่เป็นรอยช้ำหรือบวมจะหายเองภายใน 7-14 วัน ตามความบวมช้ำที่เกิดขึ้น ซึ่งผลข้างเคียงที่กล่าวไปไม่ใช่อาการที่น่าเป็นห่วง เป็นอาการหลังฉีดฟิลเลอร์ที่สามารถหายเองได้ ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์

ฟิลเลอร์เหมาะกับใคร ไม่เหมาะกับใคร 

ฟิลเลอร์เหมาะกับใคร

 

ฟิลเลอร์เหมาะกับผู้ที่ต้องการเติมเต็มผิวหนังบริเวณต่าง ๆ ให้มีความกระชับ เต่งตึง ดูอิ่มน้ำและเป็นธรรมชาติ แต่ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คือ ฟิลเลอร์อยู่ได้ไม่นานเท่าหัตถการอื่น ๆ จำเป็นต้องกลับไปฉีดซ้ำตลอด ฟิลเลอร์จึงอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเติมเต็มผิวหรือเปลี่ยนรูปหน้าบริเวณนั้น ๆ แบบถาวร

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

สิ่งที่ควรทำก่อนการฉีดฟิลเลอร์มีทั้งหมด 5 ข้อ ได้แก่

  1. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 1-3 วัน
  2. งดขัดผิว แว็ก หรือโกนในบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 3 วัน
  3. งดรับประทานน้ำมันตับปลา วิตามินอี กระเทียม โสม น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส ขิง และใบแปะก๊วยก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 2 อาทิตย์
  4. หากฉีดฟิลเลอร์บริเวณหน้าไม่ควรแต่งหน้าและควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนฉีด
  5. งดยาแอสไพริน และยาแก้อักเสบประเภท NSAIDs อย่างน้อย 1 อาทิตย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์

การดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ 

  1. งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  2. หลีกเลี่ยงการสัมผัส กด นวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  3. อยู่ห่างจากความร้อนให้ได้มากที่สุด
  4. งดแต่งหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  5. หลีกเลี่ยงการทานอาหารหมัก ดอง หรืออาหารปรุงดิบอย่างน้อย 2 สัปดาห์

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรไหม?

หลังฉีดฟิลเลอร์ควรงดรับประทานอาหารหมัก ดอง และอาหารดิบหรือกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาหารประเภทนี้อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อหลังการฉีดฟิลเลอร์ได้ ส่วนอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงจะเป็นอาหารที่ร้อนจัด มีน้ำตาล คาเฟอีน และโซเดียมสูง

ฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล

สามารถเห็นผลของฟิลเลอร์ได้ตั้งแต่ 24-48 ชั่วโมงหลังการฉีด แต่ในบางเคสที่มีอาการบวมแดงมาก อาจเห็นผลชัดเจนช่วง 2-3 สัปดาห์หลังจากที่อาการบวมแดงหายไป

สรุปเกี่ยวกับฟิลเลอร์ 

ถึงแม้การฉีดฟิลเลอร์จะเป็นหัตถการมีความปลอดภัย และมีความเป็นธรรมชาติมากแค่ไหน แต่ถ้าเลือกฉีดฟิลเลอร์กับคลินิคที่ไม่ได้มาตรฐานอาจให้ผลลัพธ์ในทางตรงกันข้ามและทำให้เกิดอันตรายได้เพราะฉะนั้นก่อนเลือกฉีดฟิลเลอร์ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด และเลือกใช้บริการกับคลินิคที่มีมาตรฐานเชื่อถือได้


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที