รู้จักกับอาการผื่นแพ้อากาศให้มากขึ้น เพื่อป้องกันตัวเองจากอาการฝุ่นแพ้อากาศ และวิธีการดูแลตัวเองเมื่อเกิดอาการผื่นแพ้อากาศ
ในปัจจุบันหลาย ๆ คนต้องประสบกับอาการภูมิแพ้ ที่อาจเกิดจากสภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนัก และบางคนอาจเกิดอาการเป็นผื่นแพ้อากาศร่วมด้วย ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ของผื่นแพ้อากาศนั้นเกิดจากมลภาวะทางอากาศที่เป็นพิษ เมื่ออากาศได้สัมผัสกับร่างกายจะส่งผลให้เกิดเป็นผื่นแดงประเภทต่าง ๆ ได้ง่าย เป็นอาการที่ไม่ควรปล่อยไว้นาน เพราะถ้าหากไม่ทำการรักษาอาจส่งผลเสียระยะยาวต่อสุขภาพได้ โดยในวันนี้จะมาแนะนำทุกท่านให้รู้จักกับผื่นแพ้อากาศให้มากขึ้น พร้อมคำแนะนำในการดูแลตัวเอง
ผื่นแพ้อากาศเป็นหนึ่งในโรคภูมิแพ้ผิวหนัง ที่มีสาเหตุเกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ละสภาพอากาศที่เป็นพิษที่เกิดจาก ควันจากท่อไอเสีย, ฝุ่น Pm 2.5, ไรฝุ่น ฯลฯ ส่งผลให้ร่างให้ร่างไม่สามารถปรับสภาพได้ทัน จึงทำให้เกิดการอักเสบ และเกิดเป็นผื่นคันชนิดต่าง ๆ ตามร่างกาย อาการผื่นแพ้อากาศสามารถเกิดได้กับทุก ๆ คน โดยเฉพาะในเด็กเล็กอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดได้มากกว่าผู้ใหญ่
ผื่นแพ้อากาศถือเป็นโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง โดยจะแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ
ลักษณะของผื่นแพ้ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับผื่นแพ้อากาศนั้นมีอีกหลายประเภท แต่ผื่นแพ้เหล่านี้จะเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ที่ไม่ใช่จากสภาพอากาศ ผื่นแพ้เหล่านั้นคือ
ผื่นแพ้อากาศหากมีอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ผื่นคัน, ผื่นแพ้ ถือเป็นอาการที่ไม่มีความอันตราย ในบางคนอาจจะหายได้เอง แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะในบางคนอาจเป็นผื่นแพ้อากาศ และมีภูมิแพ้ร่วมด้วย อาจส่งผลให้เป็นหวัดทำให้เกิดอาการหายใจลำบาก หรือหายใจติดขัด ซึ่งอาจทำให้มีอันตรายถึงชีวิตได้ จึงควรต้องมีการสังเกตอาการ และการดูแลตนเองอยู่เสมอ และถ้าหากไม่มั่นใจควรเข้ารับการรักษากับแพทย์โดยทันทีไม่ควรปล่อยไว้นาน
ผื่นแพ้อากาศถือเป็นเรื่องใกล้ตัวอย่างมากหลาย ๆ คนก็มีโอกาสที่จะเป็นเท่า ๆ กัน เพราะว่าสาเหตุของการเกิดผื่นแพ้อากาศส่วนใหญ่มักจะมีสาเหตุจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่ต้องพบเจอในชีวิตประจำวันอยู่เป็นประจำ โดยสาเหตุนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 สาเหตุใหญ่ ๆ คือ
ผู้ที่มีอาการผื่นแพ้อากาศนั้นจะรู้สึกคันบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายเช่น จมูก, ใต้ตา, แขน, ขา และเกิดเป็นผื่นรอยแดง หรืออาจจะมีตุ่มแดงเกิดขึ้นบริเวณจุดนั้น ๆ ในบางคนอาจมีอาการของภูมิแพ้ร่วมด้วย โดยส่วนใหญ่จะมีอาการจาม, น้ำมูกไหลร่วมด้วย เมื่อมีอาการเหล่านี้ให้ ให้ลองสังเกตลักษณะของตุ่มคัน ว่ามีลักษณะที่คล้ายคลึงกับอาการผื่นแพ้อากาศ หรือไม่ เพื่อที่จะได้รักษาอย่างถูกวิธี
อาการผื่นแพ้อากาศนั้นเกิดจากการแพ้อากาศ หรือสิ่งเร้าต่าง ๆ ที่อยู่ภายในอากาศ ทำให้เกิดเป็นผื่นคันบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เป็นอาการที่สามารถรักษาได้ โดยมีคำแนะนำในการรักษาดังนี้
อาการผื่นแพ้อากาศนั้นเป็นอาการที่สามารถเป็นได้ง่าย ๆ เพราะเมื่อต้องออกไปใช้ชีวิตประจำวัน จะต้องพบเจอกับสิ่งเร้าต่าง ๆ อย่างแน่นอน แต่ก็ยังมีวิธีการป้องกันเพื่อไม่ให้เป็นผื่นแพ้อากาศได้ง่าย ๆ โดยมีวิธีการต่าง ๆ ดังนี้
ในการบรรเทาอาการผื่นแพ้อากาศ โดยส่วนใหญ่นั้นจะมี 2 วิธีคือ รับประทานยาแก้แพ้ไฮดรอกไซซีน (Hydroxyzine) และการทาครีมรักษาในกลุ่มที่มีส่วนผสมคอร์ติโคสเตอรอยด์ (Corticosteroids) เป็นวิธีที่มีผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัยมากที่สุดสำหรับผู้ที่แพ้ไม่รุนแรง
แต่ถ้าหากมีอาการผื่นแพ้ชนิดอื่น ๆ ร่วมด้วยในการบรรเทาอาการนั้นก็จะแตกต่างกันไป โดยขึ้นอยู่กับลักษณะของผื่นแพ้ประเภทนั้น ๆ เช่นแพ้สารเคมี หรือติดเชื้อ จะต้องมีการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น ถือว่าเป็นผื่นแพ้ที่มีความอันตรายมากกว่าผื่นแพ้อากาศ ไม่ควรรักษาด้วยตัวเอง
หากมีอาการผื่นแพ้อากาศโดยปกติแล้วจะรู้สึกคันมาก และแพทย์ส่วนใหญ่ก็ไม่แนะนำให้เกา หรือแคะ บริเวณที่เป็นผื่นคัน เพราะว่ายิ่งเกาก็จะยิ่งรู้สึกคันมากขึ้นอีกด้วย และยังมีผลเสียที่อาจทำให้เป็นแผลได้ และมีความเสี่ยงที่จะทำให้ผื่นแพ้อากาศมีการติดเชื้อ ทำให้อาการหนัก รักษายากมากขึ้นกว่าเดิม
สำหรับผู้ที่เป็นผื่นแพ้อากาศ ที่มีสุขภาพร่างกายปกติไม่เป็นผู้ที่มีโรคภูมิแพ้ โดยปกติแล้วหากได้รับการรักษาที่ถูกวิธี และป้องกันตัวเองได้อย่างถูกต้อง ผื่นแพ้อากาศจะสามารถหายได้ภายในเวลา 3-5 วัน ซึ่งถ้าไม่หายอาจต้องได้รับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทางโดยตรง ไม่ควรปล่อยเอาไว้นาน ๆ เพราะอาจจะส่งผลให้เกิดเป็นโรคเรื้อรังต่าง ๆ และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที