ปวดคอ เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องได้รับการแก้ไขเมื่อมีอาการ
ปวดคอคืออะไร มีอาการแบบไหน เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง เป็นแล้วอันตรายไหมวิธีการรักษาต้องปฏิบัติตนอย่างไรให้ห่างไกลจากอาการปวดคอ
อาการปวดบริเวณต้นคอ บ่า สะบัก เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยเกิดอาการลักษณะนี้มาบ้างแล้ว พบได้ในหลากหลายอาชีพมักจะเป็นมากกับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ และผู้ที่นั่งทำงานท่าเดิมนาน ๆ เป็นสาเหตุของอาการปวดคอ การรักษาบางคนอาจใช้วิธีนวดแผนโบราณ เพื่อช่วยบรรเทาอาการ แต่ถ้ารักษาไม่ถูกจุดก็จะกลับมาปวดได้อีก ดังนั้นมาดูอาการปวดคอแบบไหนต้องไปพบแพทย์ วิธีป้องกันและการรักษาอาการปวดคอทำได้กี่วิธี และสามารถรักษาอาการปวดคอให้หายขาดได้หรือไม่ ในบทความนี้มีคำตอบ
ปวดคอ คืออะไร
อาการปวดคอ คือความรู้สึกไม่สบายหรือปวดเมื่อยบริเวณคอ ซึ่งเป็นส่วนของร่างกายที่เชื่อมต่อระหว่างศีรษะกับลำตัว อาจมีความรุนแรงแตกต่างกันไปและอาจมีอาการตั้งแต่รู้สึกปวดเล็กน้อยเป็นครั้งคราวไปจนถึงอาการปวดอย่างรุนแรงและถาวร
สาเหตุของอาการปวดคอ
อาการปวดคอเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่
-
ความเครียดและพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นสาเหตุหนึ่งที่พบบ่อยที่สุดของอาการปวดคอ
-
จากลักษณะท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น นอนผิดท่า, นั่งก้มหน้าทำงานนานๆ หรือใช้กล้ามเนื้อคอมากเกินไป, นั่งขับรถนาน หรือลุกขึ้นอย่างกะทันหันอาจทำให้กล้ามเนื้อตึงเกิดอาการปวดคอได้
-
หมอนรองกระดูกสันหลังที่คออาจได้รับความเสียหายหรือเสื่อม ตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดหมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือโป่งออก ทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทบริเวณใกล้เคียงส่งผลให้เกิดอาการปวดคอ
-
โรคข้อเข่าเสื่อม หรือข้ออักเสบ เกิดการสึกหรอของข้อต่อในคอนำไปสู่โรคข้อเข่าเสื่อม ซึ่งเป็นภาวะที่มีเกิดจากการสลายตัวของกระดูกอ่อนและการก่อตัวของเดือยกระดูก ส่งผลให้เกิดอาการปวดคอและตึงได้
-
จากอุบัติเหตุบริเวณคอ หรือการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และหมอนรองกระดูกคอมีแรงกระแทกต่อกระดูกต้นคอทางตรงและ ทางอ้อม เช่น อุบัติเหตุต่างๆ
-
สาเหตุอื่น ๆ อาจเกิดจาก การตีบของกระดูกสันหลัง (ช่องไขสันหลังตีบแคบ) มีกระดูกคอผิดปกติแต่กําเนิด หรือการติดเชื้อบริเวณกระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูกสันหลังบริเวณคอ ส่งผลให้มีอาการปวดคอ และคอแข็งได้
ลักษณะอาการปวดคอ
ลักษณะอาการปวดคอ ที่มักเกิดขึ้น และพบได้บ่อยคือ
-
มีอาการปวดตึ้อ ๆ บริเวณศีรษะหรือท้ายทอย
-
ปวดบริเวณคอ อาจปวดร้าวลงมาที่บ่า หัวไหล่ แขน นิ้วมือ หรือสะบัก
-
มีอาการชาตามแขน หรือที่นิ้วมือร่วมด้วย และอาจพบอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อแขนและมีความรู้สึกที่อาจเปลี่ยนแปลงไป
-
เคลื่อนไหวบริเวณคอได้น้อยลงกว่าปกติ ตึงหรือคอเกร็ง ขัด ๆ และมีอาการเจ็บร่วมด้วย
-
บางครั้งอาจพบจุดกดเจ็บที่กล้ามเนื้อต้นคอ และบ่า
-
กล้ามเนื้อต้นคอ มีอาการเกร็งแข็งหันไม่ได้ หรือกดเจ็บตามบริเวณท้ายทอย ต้นคอ และบ่า
ลักษณะอาการเหล่านี้ เป็นอาการที่สามารถพัฒนาจนมีความรุนแรงมากขึ้นได้ แนะนำว่า หากเริ่มมีอาการปวดคอ หรือปวดเส้นเอ็นคอ ร้าวไปบริเวณต่าง ๆ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ให้รีบหาวิธีแก้ไขจะเป็นการดีที่สุด
อาการปวดคออันตรายหรือไม่
ส่วนใหญ่ อาการปวดคอไม่เป็นอันตราย และสามารถรักษาได้ด้วยการดูแลตนเอง และการรักษาแบบประคับประคอง ถ้าเกิดจากความเครียด ท่าทางที่ไม่ถูกต้อง หรืออาการบาดเจ็บเล็กน้อย มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นภายใน 2-3 วันหรือภายในสัปดาห์
แต่มีบางกรณีที่อาการปวดคออาจเป็นอันตรายถ้ามีอาการร้ายแรง ต้องดูถึงอาการและสาเหตุที่เกิดขึ้น ถ้ามีอาการปวดคอดังต่อไปนี้ ถือว่าเป็นอันตรายควรไปพบแพทย์ คือ
-
หากอาการปวดคอรุนแรงจนทนไม่ได้ หรือเกิดขึ้นกะทันหันโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน อาจบ่งชี้ถึงปัญหาที่ร้ายแรงและควรได้รับการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
-
หากรู้สึกชา อ่อนแรง หรือรู้สึกเสียวซ่าที่แผ่ลงมาตามแขนหรือขา อาจเป็นสัญญาณของการกดทับเส้นประสาทหรือความเสียหายของร่างกาย
-
หากอาการปวดคอเป็นผลมาจากการบาดเจ็บที่เกิดจาก อุบัติเหตุทางรถยนต์หรือการหกล้ม สิ่งสำคัญคือต้องได้รับการประเมินทางการแพทย์เพื่อแยกแยะด้านกระดูกหัก ข้อเคลื่อน หรือการบาดเจ็บร้ายแรงอื่นๆ
-
หากอาการปวดคอนานกว่า 2-3 สัปดาห์ แม้ทำการรักษาแบบประคับประคอง หรือมีอาการแย่ลง ควรพบแพทย์
วิธีการรักษาอาการปวดคอ
การรักษาอาการปวดคอขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ ต่อไปนี้คือมาตรการดูแลตนเองและวิธีการรักษาที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดคอได้
-
การบริหารกล้ามเนื้อคอเป็นส่วนสำคัญในการรักษาอาการปวดคอ เพราะจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อคอ การบริหารกล้ามเนื้อคอควรทำทุกวัน
-
ลดความเครียด เพราะความเครียดสามารถทำให้เกิดอาการปวดคอได้ ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึกๆ การทำสมาธิ หรือโยคะ เพื่อช่วยลดระดับความเครียดและส่งเสริมสุขภาพที่ดี
-
การประคบร้อนหรือเย็น การประคบแผ่นความร้อน ผ้าขนหนูอุ่น หรือการอาบน้ำอุ่นสามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียดและเพิ่มการไหลเวียนโลหิต อีกวิธีหนึ่งคือการบำบัดด้วยความเย็นคือการประคบน้ำแข็งหรือการประคบเย็นสามารถช่วยลดการอักเสบและทำให้บริเวณนั้นชาลดการปวดได้ ใช้ประคบร้อนหรือเย็นครั้งละประมาณ 15-20 นาที วันละหลายๆ ครั้งตามต้องการ
-
ใช้ยาบรรเทาอาการปวด ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟนหรือนาโพรเซนสามารถช่วยลดอาการปวดและการอักเสบได้ ปฏิบัติตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์และปรึกษาเภสัชกรหรือรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น
-
หลีกเลี่ยงอริยบทหรือท่าทางต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการปวดคอได้ โดยเฉพาะนั่งทำงานนาน ๆ ก้ม เงย บ่อย ๆ ควรหยุดพักเพื่อยืดเส้นยืดสาย และบริหารกล้ามเนื้อคอประมาณ 2-3 นาที
-
การออกกำลังกายและการยืดกล้ามเนื้อคอเบา ๆ สามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และคลายความตึงเครียด จะได้ผลดีที่สุดหากทำได้อย่างน้อยวันละสองครั้ง
-
ทำกายภาพบำบัดและการนวดที่ถูกวิธี จะช่วยทำให้ช่องระหว่างกระดูกสันหลังบริเวณคอกว้างขึ้น ลดอาการปวดกล้ามเนื้อคอ หลีกเลี่ยงการกดทับของเส้นประสาท ช่วยในการยืดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ จะช่วยบรรเทาอาการปวดคอได้
-
การผ่าตัด ซึ่งเป็นวิธีรักษาที่มีความเสี่ยง และจะใช้รักษาในผู้ที่มีอาการปวดคอเรื้อรัง กระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ในกรณีที่จำเป็นและรักษาด้วยวิธีอื่นๆ ไม่ได้ผลแล้วเท่านั้น
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับอาการปวดคอของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ หากอาการปวดคอแย่ลง หรือมีอาการที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ร่วมด้วย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยที่เหมาะสมและวางแผนการรักษาต่อไป
การปฏิบัติเพื่อป้องกันอาการปวดคอ
การป้องกันอาการปวดคอมักเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคน และการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อลดอาการปวดคอ ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำการปฏิบัติเพื่อช่วยป้องกันอาการปวดคอ
-
ควรหลีกเลี่ยงการนั่งท่าเดิมนานๆ จัดศีรษะให้อยู่ในแนวเดียวกับกระดูกสันหลัง และหลีกเลี่ยงการงอตัวหรือหลังค่อม ไม่ว่าจะนั่ง ยืน หรือเดิน ให้รักษาแนวที่เหมาะสม ยืดเส้นยืดสาย และเคลื่อนไหวไปมา รวมทั้งการยืดคอแบบง่ายๆ เพื่อคลายความตึงเครียด
-
ฝึกการใช้โทรศัพท์และอุปกรณ์อย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงการประคองโทรศัพท์ไว้ระหว่างหูและไหล่ เพราะอาจทำให้กล้ามเนื้อคอตึงได้ ให้ใช้ชุดหูฟังหรือสปีกเกอร์โฟนแทน
-
เลือกหมอนและที่นอนที่รองรับคอและกระดูกสันหลังอย่างพอเหมาะ หมอนที่เหมาะสมไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป และที่นอนที่ไม่แข็งหรืออ่อนเกินไปสามารถช่วยรักษาแนวกระดูกสันหลังที่เหมาะสมได้
-
ออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อคอและหลัง เพิ่มความยืดหยุ่น และรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อบริเวณคอ หลังส่วนบน และไหล่
-
ยกของอย่างถูกวิธี และหลีกเลี่ยงการแบกของหนัก จะทำให้กระดูกสันหลังเสื่อม ส่งผลให้เกิดอาการปวดคอได้
อย่างไรก็ตามวิธีการป้องกันเหล่านี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของอาการปวดคอและส่งเสริมสุขภาพคอได้ในระยะยาว
อาการปวดคอหายเองได้ไหม
อาการปวดคอสามารถหายเองได้ในบางกรณี โดยไม่ต้องมีการรักษา คืออาการปวดคอที่ไม่รุนแรง อาจเกิดจากความเครียดหรือการนั่งทำงานนานเกินไป เพียงปรับเปลี่ยนตัวเองอาการก็จะดีขึ้นภายใน 2 - 3 วันหรือในสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการพักผ่อนที่เพียงพอและการดูแลตนเองการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต และออกกำลังกายสม่ำเสมอ สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดคอและฟื้นฟูการทำงานของคอให้หายเป็นปกติได้
อาการปวดคอใช้เวลากี่วันหาย
ระยะเวลาที่อาการปวดคอจะรักษาได้แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุ ความรุนแรงของอาการปวด และปัจจัยของบุคคล ในหลายกรณี อาการปวดคอที่ไม่รุนแรง เนื่องจากความเครียดของกล้ามเนื้อเล็กน้อยหรือการใช้งานมากเกินไป อาการแบบนี้สามารถหายได้ภายใน 2 - 3 วันถึง 2 - 3 สัปดาห์ ด้วยการดูแลตนเองที่เหมาะสมและการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตในประจำวัน
หากอาการปวดคอที่รุนแรงหรือเรื้อรังอาจใช้เวลานานกว่าจะหาย ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนที่ความเจ็บปวดจะลดลง กระบวนการรักษาขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สาเหตุเฉพาะของอาการปวดคอ ความสามารถของแพทย์ในการรักษา การปฏิบัติตามคำแนะนำในการรักษา และเงื่อนไขทางการแพทย์อื่นๆ อาการปวดคอของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน และระยะเวลาในการฟื้นตัวก็แตกต่างกันไป
สรุป
อาการปวดคอเป็นอาการที่ป้องกันได้ สามารถหายได้เอง โดยการปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน หลีกเลี่ยงการนั่งอยู่ในท่าเดิม ๆ เป็นเวลานานในแต่ละวัน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของอาการปวดคอ ควรเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หรือทำกายภาพบำบัด เพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดคอได้ แต่ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้เกิดการเรื้อรัง หรือปวดจนรบกวนชีวิตประจำวัน ควรเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษา เพราะจะเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันในอนาคตได้
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที