ซิฟิลิส ภัยอันตรายที่แฝงในร่างกาย จำเป็นต้องรู้สาเหตุ และรักษาให้ถูกต้อง
ซิฟิลิส (Syphilis) มีสาเหตุหลักจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการโดยทั่วไปจนปรากฏเป็นตุ่ม ก่อนจะแพร่กระจายไปทั่วภายในร่างกาย หากไม่ได้รับวิธีการรักษาที่ถูกต้อง
โรคซิฟิลิส เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่หลายคนคงเคยได้ยิน ด้วยปรากฏในเรื่องเล่าหรือตำนานต่าง ๆ แต่ในความจริงแล้ว ซิฟิลิสแฝงอันตรายร้ายแรงที่สามารถแพร่กระจายไปทั่วร่างกายได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จนอาจจะส่งผลให้เสียชีวิตได้ในที่สุด ดังนั้น ทุกคนจึงควรรู้จักกับโรคนี้ว่า คืออะไร โรคซิฟิลิสอาการมีอะไรบ้าง เกิดจากสาเหตุอะไร จะส่งผลกระทบอย่างไร หากไม่ได้รับการรักษา และสุดท้าย คือ โรคซิฟิลิสวิธีรักษาต้องทำอย่างไร บทความนี้ มีคำตอบ
อาการของโรคซิฟิลิส แบ่งออกเป็นกี่ระยะ มีอาการอย่างไรบ้าง
โรคซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) จากการสัมผัสสารคัดหลั่งทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า Treponema pallidum โดยอาการซิฟิลิสแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ตามลักษณะและความรุนแรงของอาการที่ปรากฏ ได้แก่
-
ซิฟิลิสระยะแรก หรือระยะปฐมภูมิ หรือระยะเป็นแผล (Primary syphilis) จะปรากฏเป็นตุ่มแผลเล็ก ๆ เรียกว่า แผลริมแข็ง (Chancre) แผลมีลักษณะเรียบ กดไม่เจ็บ ขอบแข็ง มักมีขนาด 1 - 2 ซม. มักพบที่อวัยวะเพศ ปาก หรือทวารหนัก จะพบในระยะเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ - 6 เดือน หลังสัมผัสเชื้อ ซึ่งสามารถหายได้เองภายใน 3 - 8 สัปดาห์ แม้ว่าจะไม่ได้รับการรักษา แต่เชื้อซิฟิลิสจะยังคงอยู่ในร่างกาย โดยสามารถพัฒนาเข้าสู่ซิฟิลิสระยะที่ 2 ได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม
-
ซิฟิลิสระยะที่ 2 หรือระยะทุติยภูมิ หรือระยะออกดอก (Secondary syphilis) โดยอาการโรคซิฟิลิสจะเกิดในช่วง 6 สัปดาห์ - 6 เดือน หลังแผลริมแข็งหาย เป็นช่วงที่เชื้อซิฟิลิสแพร่กระจายเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองและกระแสเลือดตามอวัยวะต่าง ๆ อาการทั่วไป ได้แก่ เป็นผื่นมักขึ้นตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า กระจายทั่วร่างกาย มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ เจ็บคอ เสียงแหบ เป็นต้น ในระยะนี้ อาการเหล่านี้อาจหายไปเอง แต่เชื้อยังคงอยู่ในร่างกาย จึงทำให้อาการกำเริบอีกหลายครั้ง ก่อนจะพัฒนาเข้าสู่ระยะถัดไป
-
ซิฟิลิสระยะที่ 3 หรือระยะแฝง (Latent syphilis) จะเกิดขึ้นหลังแผลกำเริบ โดยไม่แสดงอาการซิฟิลิสใด ๆ เลย หรืออาจจะกำเริบเป็นระยะ โดยเชื้อซิฟิลิสอาจจะแฝงอยู่ในร่างกายได้นานหลายปี ก่อนจะพัฒนาเข้าสู่ระยะที่ 4 ซึ่งสิ่งสำคัญในระยะนี้ คือ สามารถแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่นได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ หรือการรสัมผัสกับสารคัดหลั่ง
-
ซิฟิลิสระยะที่ 4 หรือระยะสุดท้าย (Tertiary syphilis) ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยโรคซิฟิลิสที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม โดยใช้เวลาหลายปีหลังติดเชื้อ โดยเชื้อซิฟิลิสจะเข้าทำลายอวัยวะภายในต่าง ๆ เช่น หัวใจ สมอง ตา หู ส่งผลให้ตาบอด หูหนวก ใบหน้าผิดรูป และเสียชีวิตได้ นับว่าเป็นระยะที่รุนแรงที่สุด และยากต่อการรักษา
สาเหตุของโรคซิฟิลิสมาจากอะไรบ้าง?
โรคซิฟิลิสสาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โดยซิฟิลิสเกิดจากสาเหตุหลัก ดังนี้
-
การติดต่อทางเพศสัมพันธ์ นับว่าเป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อซิฟิลิส โดยเชื้อแบคทีเรียจะเข้าสู่ร่างกายผ่านรอยขีดข่วนหรือแผลเล็ก ๆ บนผิวหนังหรือเยื่อบุต่าง ๆ หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย เช่น น้ำลาย น้ำหล่อลื่น หรือมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทางทวารหนัก หรือทางปาก
-
การสัมผัสโดยตรงกับแผลของผู้ป่วย เพราะเชื้อซิฟิลิสสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสแผลโดยตรง มักเกิดขึ้นในบุคคลากรทางการแพทย์ที่ไม่ได้สวมถุงมือ
-
การติดต่อจากแม่สู่ลูก โดยแม่ที่ติดเชื้อซิฟิลิสสามารถแพร่เชื้อไปยังลูกในครรภ์ผ่านรก ส่งผลให้ทารกที่ติดเชื้อจากแม่มีโอกาสเสียชีวิตสูง
นอกจากสาเหตุหลัก ๆ ดังกล่าวแล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น
-
มีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย
-
มีเพศสัมพันธ์กับหลายคน
-
มีเพศสัมพันธ์กับโสเภณี
-
มีแผลหรือรอยขีดข่วนบนผิวหนัง
-
ติดเชื้อ HIV
-
เสพยา
แต่ทั้งนี้ โรคซิฟิลิสไม่สามารถแพร่กระจายผ่านการกอด จูบ หรือการใช้สิ่งของร่วมกัน โดยเชื้อซิฟิลิสจะตายหลังจากออกจากร่างกายผู้ป่วยแล้ว
ผลกระทบของโรคซิฟิลิส หากไม่เข้ารับการรักษา
โรคซิฟิลิสส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายอย่างรุนแรง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม ดังนี้
-
ผลต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย
-
ระบบประสาทและสมอง อาจทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อม ตาบอด หูหนวก อัมพาต
-
ระบบหัวใจและหลอดเลือด เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอักเสบ โรคหัวใจวาย
-
ระบบทางเดินอาหาร อาจทำให้เกิดตับอักเสบ
-
ระบบสืบพันธุ์ ผู้ชายอาจเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ผู้หญิงอาจแท้งบุตร คลอดก่อนกำหนด ทารกเสียชีวิตในครรภ์
-
ระบบภูมิคุ้มกัน อ่อนแอต่อการติดเชื้ออื่น ๆ
-
ผลต่อสุขภาพจิต ทำให้รู้สึกเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า อับอาย
-
ผลต่อความสัมพันธ์ ส่งผลให้มีปัญหาในชีวิตคู่ ถูกกีดกันทางสังคม
-
ผลต่อทารกในครรภ์
-
ทารกในครรภ์อาจติดเชื้อจากแม่
-
ทารกอาจคลอดก่อนกำหนด
-
ทารกเสียชีวิตในครรภ์
-
ทารกที่คลอดออกมาอาจมีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น ตาบอด หูหนวก
-
เสียชีวิต เนื่องจากโรคซิฟิลิสระยะสุดท้าย อาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้
แนวทางการรักษาโรคซิฟิลิส
การรักษาซิฟิลิสขึ้นอยู่กับระยะต่าง ๆ ของโรค ดังต่อไปนี้
-
ซิฟิลิสระยะแรก แพทย์จะใช้ยาปฏิชีวนะ เพนนิซิลลิน G ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 1 เข็ม หรือด็อกซีไซคลีน 7 วัน ในระยะเวลา 10 - 14 วัน
-
ซิฟิลิสระยะที่ 2 แพทย์จะใช้ยาปฏิชีวนะ เพนนิซิลลิน G ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 7 - 10 วัน หรือด็อกซีไซคลีน 14 วัน ในระยะเวลา 10 - 14 วัน
-
ซิฟิลิสระยะที่ 3 แพทย์จะใช้ยาปฏิชีวนะ เพนนิซิลลิน G ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 10 - 14 วัน หรือด็อกซีไซคลีน 14 วัน โดยขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ติดเชื้อซิฟิลิส
-
ซิฟิลิสระยะที่ 4 แพทย์จะใช้ยาปฏิชีวนะ เพนนิซิลลิน G ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ 10 - 14 วัน โดยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค
แพทย์สามารถรักษาซิฟิลิสให้หายขาดได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระยะและความรุนแรงของโรคในแต่ละคน โดยจะพิจารณาให้ยารักษาซิฟิลิสแบบกินตามความเหมาะสม และผู้ป่วยควรทานยารักษาซิฟิลิสตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด งดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะหายขาด และควรแจ้งให้คู่เพศทราบเพื่อรับการตรวจคัดกรองและรักษา
ในโรคซิฟิลิสการรักษาด้วยยา อาจจะมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ผื่นแพ้ รวมถึงภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น ดื้อยา ภาวะสมองเสื่อม ตาบอด หูหนวก และอาจเสียชีวิตได้ แต่ทั้งนี้ ควรป้องกันตัวเองด้วยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ หมั่นตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแผลของผู้ป่วยโรคซิฟิลิส
สรุปเกี่ยวกับโรคซิฟิลิส
โรคซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) จากการสัมผัสสารคัดหลั่งทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยโรคซิฟิลิสอาการแบ่งออกเป็น 4 ระยะ หากเข้ารับการรักษาเร็วก็เพิ่มโอกาสในการหายขาด แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ ก็จะทำให้เชื้อซิฟิลิสแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย รวมถึงแพร่ไปยังผู้อื่น จนยากต่อการรักษา ทำให้เสียชีวิตได้ในที่สุด ดังนั้น ทุกคนที่มีภาวะเสี่ยงจึงควรหมั่นตรวจซิฟิลิสเป็นประจำ เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
References
WHO. (2023, May 31). Syphilis. https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/syphilis
Jatin M. Vyas. (2020, October 9). Syphilis. https://www.pennmedicine.org/for-patients-and-visitors/patient-information/conditions-treated-a-to-z/syphilis
Zilpah Sheikh. (2024, February 18). Syphilis. https://www.webmd.com/sexual-conditions/syphilis
NHS. (2022, May 25). Syphilis. https://www.nhs.uk/conditions/syphilis/
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที