วัตพล

ผู้เขียน : วัตพล

อัพเดท: 18 พ.ค. 2024 12.35 น. บทความนี้มีผู้ชม: 5380 ครั้ง

เรื่องเกี่ยวสุขภาพ โรคต่างๆ และการรักษา


ปลูกผม FUE ไร้รอยแผลเป็น แก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง

ปลูกผม FUE การปลูกผมถาวรแบบไร้รอยต่อ ไม่เกิดรอบแผลเป็น ช่วยให้เซลล์รากผมที่ขึ้นใหม่แข็งแรง และเส้นผมดูเป็นธรรมชาติ

 

ปลูก ผม long hair fue


ปัญหาของเส้นผมบนศีรษะของเรา สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงวัยรุ่น วัยทำงาน ผู้ชาย และผู้หญิง ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่คนมักจะประสบพบเจอก็คือ ผมร่วง ผมบาง หรือมีหน้าผากที่กว้างจนเกินไป และอื่นๆ โดยสามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม โรคประจำตัว การใช้ยา การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ภาวะขาดสารอาหาร ความเครียด หรืออุบัติเหตุ  เป็นสิ่งที่ทำให้ใครหลายคนสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง และมีผลกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก


ในปัจจุบันมีวิธีที่รักษาอาการผมร่วง ผมบาง มีอยู่หลากหลายวิธี เช่น ทานวิตามินช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง ใช้ยาสระผมช่วยบำรุงเส้นผม และใช้เซรั่มให้สารอาหารกับเส้นผม วิธีรักษาเหล่านี้อาจจะไม่เห็นผลกับคุณ ดังนั้นการรักษาที่ถูกต้อง และถูกวิธีได้อย่างตรงไปตรงมา คือเข้ารับการรักษากับคลินิกรักษาปัญหาผมร่วง ผมบาง ด้วยวิธีปลูกผม FUE

ซึ่งปลูกผม FUE เป็นวิธีรักษาผมร่วง ผมบางได้จริง ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น และผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นไปตามความต้องการของคุณอย่างแน่นอน

 


ปลูกผม FUE คืออะไร นวัตกรรมใหม่? 

ปลูกผม FUE คือ

 


วิธีปลูกผม FUE  (Follicular Unit Extraction) หรือ FUE hair transplant คือปลูกผม FUE เป็นการปลูกผมถาวรแบบไร้รอยต่อ ไร้ร้อยแผลเป็น ปลูกผมแบบย้ายรากผมทีละกอ โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือคล้ายปากคีบขนาดเล็กที่มีหัวขนาดเล็กมากแค่ 0.8-1.0 มิลลิเมตร โดยเจาะเอาเซลล์รากผมที่แข็งแรงสมบูรณ์ที่สุดจากบริเวณด้านหลังของศีรษะ จะเจาะทีละกอผม แล้วนำเซลล์รากผมที่ได้มาปลูกตรงตำแหน่งใหม่และตามทิศทางที่ต้องการ เซลล์รากผมที่ถูกนำเอาออกมานั้นจะไม่เกิดความเสียหาย ทั้งเซลล์รากผม และชั้นผิวหนังบนศีรษะ


เมื่อปลูกผมประมาณ 6 เดือน เซลล์รากผมจะยึดติดกับเนื้อเยื่อตรงบริเวณรอบๆ มองไม่เห็นรอยแผล ปลูกผม FUE วิธีนี้จะทำให้เซลล์รากผมที่ปลูกขึ้นใหม่มีความแข็งแรง เส้นที่งอกออกมาตามแนวเส้นผมดูเป็นธรรมชาติ และเส้นผมที่งอกออกมาใหม่ก็จะอยู่บนศีรษะอย่างถาวร ไม่หลุดไม่ร่วง และจะไม่เกิดปัญหาผมบาง ผมร่วง หน้าผากกว้าง หรือศีรษะล้านอีก และเหตุผลการปลูกผม FUE ที่จำเป็นต้องใช้กราฟเซลล์รากผมจากบริเวณด้านหลังของศีรษะ หรือเหนือกกหูก็เพราะว่าเส้นผมบริเวณหลังศีรษะ หรือท้ายทอยนั้นมีความแข็งแรงสมบูรณ์ และอายุของเซลล์ผมยืนยาวมากกว่าเซลล์ผมตรงบริเวณอื่น เมื่อนำมาปลูกยังบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางก็จะช่วยให้เส้นผมมีความแข็งแรง อีกทั้งที่นิยมปลูกผมใช้กราฟผมจากตัวผู้เข้ารับปลูกผมเองก็เป็นเหตุผลเรื่องความปลอดภัย ปกป้องกันเกิดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยก่อนที่จะตัดสินใจทำต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น



ปลูกผม FUE ช่วยแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง

ปลูกผม FUE ช่วยแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง

ปัญหาผมร่วง

ปัญหาผมร่วง สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายเหตุ เช่น พันธุกรรม เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของผมร่วงในผู้ชายและผู้หญิง ผมร่วงจากพันธุกรรมส่วนใหญ่ที่มักจะพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง เพราะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศชาย (androgen) ทำให้รากผมอ่อนแอลง และหลุดร่วง 

ความเครียด ความเครียดสามารถกระตุ้นให้ผมร่วงได้ชั่วคราว หรือโรคประจำตัวในบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ โรคโลหิตจาง โรคเอสแอลอี และโรคลูปัส สามารถนำไปสู่ปัญหาผมร่วงได้ และอื่นๆ


วิธีปลูกผม FUE จึงเหมาะสมกับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงได้อย่างตรงจุด สามารถแก้ปัญหาผมร่วงได้โดยการย้ายรากผมจากบริเวณท้ายทอย หรือเหนือกกหูที่มีผมหนา และแข็งแรงสมบูรณ์ มาปลูกในบริเวณที่ผมร่วง รากผมที่ย้ายมาปลูกจะยังคงมีลักษณะ และคุณสมบัติเช่นเดียวกับรากผมเดิม ทำให้ผมที่ปลูกขึ้นใหม่มีความแข็งแรง เส้นผมที่ขึ้นมาใหม่เรียงเป็นธรรมชาติ ปลูกผม FUE จึงสามารถแก้ปัญหาผมร่วงได้ชั่วคราว โดยผมที่ปลูกขึ้นใหม่จะมีอายุการใช้งานยาวนานเท่ากับผมเดิม

ปัญหาผมบาง

ปัญหาผมบางโดยส่วนใหญ่มักจะเกิดจากพันธุกรรมมักพบในผู้ชาย และผู้หญิงในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป อาการเริ่มต้นของผมบางจากพันธุกรรม คือ ผมจะร่วงเป็นหย่อมๆ บริเวณด้านหน้าหรือด้านบนของศีรษะ เมื่อเวลาผ่านไปผมจะร่วงมากขึ้นเรื่อยๆ หรือเกิดจากโรคประจำตัว และอื่นๆ 


ถึงอย่างนั้นการปลูกผม FUE เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ เช่น แก้ปัญหาผมบางจากพันธุกรรม โดยเริ่มจากย้ายรากผมตรงบริเวณท้ายทอย หรือเหนือกกหูที่สมบูรณ์มีความแข็งแรงมาปลูกในบริเวณที่ผมบาง จึงทำให้ตรงบริเวณที่ผมบางกลับมามีผมที่แข็งแรง เงางามอีกครั้ง ปัญหาผมบางจะหายไป และสามารถช่วยแก้ปัญหาผมบางจากโรคประจำตัวที่ทำให้เกิดปัญหาผมบาง โดยแพทย์จะพิจารณาเลือกบริเวณที่เหมาะสมในการย้ายรากผม เพื่อให้ผมที่ปลูกขึ้นใหม่ดูเป็นธรรมชาติ ด้วยวิธีปลูกผม FUE 

ปัญหาศีรษะล้าน

ปัญหาศีรษะล้านเกิดจากเส้นผมขาดสารอาหารในบางชนิด เช่น ธาตุเหล็ก สังกะสี และวิตามินบี 12 หรือพันธุกรรมหากคนที่รอบครอบมีปัญหาศีรษะล้าน ก็มีโอกาสที่ลูกจะเป็นด้วยเหมือนกัน และอาจจะเกิดจากความเครียดที่สะสม ความเครียดนั้นมาจากการใช้ชีวิตในแต่ละวัน การทำงาน เรียน อุบัติเหตุ และอื่นๆ ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดปัญหาศีรษะล้านได้


วิธีที่จะช่วยแก้ไขปัญหาศีรษะ คือการปลูกผม FUE สามารถช่วยแก้ไขปัญหาหัวล้านที่เกิดจากสาเหตุต่างๆ ทำให้ผมงอกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง มีสภาพเส้นผมที่แข็งแรง และเงางาม โดยวิธีปลูกผม FUE แพทย์จะพิจารณาเลือกบริเวณที่เหมาะสมในการย้ายรากผม หรือตรงบริเวณที่มีปัญหาศีรษะล้าน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาที่ดีที่สุด


ปลูกผม FUE ,FUT,DHI แตกต่างกันอย่างไร

ปลูกผม FUE ,FUT,DHI แตกต่างกันอย่างไร


การปลูกผม FUE กับ FUT เป็นเทคนิคการปลูกผมแบบย้ายรากผมทีละกอเหมือนกัน แต่มีวิธีการที่แตกต่างกัน โดยการปลูกผม FUE แพทย์จะใช้เข็มที่มีขนาดเล็กเจาะหนังศีรษะในทิศทาง และตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้นเอาเซลล์รากผมทีละกอจากบริเวณด้านหลังศีรษะ หรือเหนือกกหู แล้วจึงนำไปปลูกในบริเวณที่ผมบาง หรือผมร่วง 


ในส่วนการปลูกผม FUT แพทย์จะตัดเอาแถบหนังศีรษะที่มีเซลล์รากผมอยู่ติดกันออกมาจากบริเวณด้านหลังศีรษะ แล้วนำแถบผมที่ได้มาแยกด้วยกล้องจุลทรรศน์ออกมาเป็นกราฟผม จากนั้นจึงนำแถบหนังศีรษะไปแยกรากผมออกเป็นกอๆ แล้วนำไปปลูกในบริเวณที่ผมบาง หรือผมร่วง 


การปลูกผม DHI เป็นเทคนิคการปลูกผมแบบย้ายรากผมทีละกอเช่นเดียวกันกับการปลูกผม FUE แต่แพทย์จะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า DHI Implanter ในการเจาะรู และปลูกรากผมลงในบริเวณที่ผมบาง หรือผมร่วงโดยตรง


ถ้าหากปลูกผม Fue ไม่ขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุที่ปลูกผมไม่ขึ้น และหาแนวทางแก้ไขด้วยวิธีอื่น อย่างเช่น การปลูกผม FUT แทน


วิธีปลูกผม FUE โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

วิธีปลูกผม FUE โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ


ขั้นตอนการปลูกผม FUE โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ประกอบด้วยขั้นตอนหลักๆ ดังนี้

  1. พูดคุยปรึกษาแพทย์ก่อน แพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกายเพื่อประเมินปัญหาผมร่วงวางแผนปลูกผมที่เหมาะสมกับคนไข้ และบอกขั้นตอนการปลูกผม FUE อย่างละเอียด
  2. เตรียมตัวก่อนปลูกผม FUE  แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับดูแลตัวเองก่อนปลูกผม เช่น งดสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงรับประทานยาในบางชนิด
  3. จะเริ่มปลูกผม FUE ใช้เวลาประมาณ 4 - 8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟผมที่ต้องการปลูก
  4. หลังปลูกผม FUE แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับดูแลตัวเองหลังปลูกผม FUE เช่น ควรรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ หรือประคบเย็นบริเวณที่ปลูกผม และหลีกเลี่ยงการสระผมเป็นเวลา 2 - 3 วัน

หากคุณมีข้อสงสัยว่าปลูกผม fue เจ็บไหม? ด้วยเทคนิคของแพทย์ตอนเข้ารับการปลูกผมคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บเพราะช่วงตอนปลูกผมจะใช้ยาชาช่วย หลังจากยาชาหมดฤทธิ์อาจจะรู้สึกปวดตรงบริเวณที่ปลูกผม แต่แพทย์จะจ่ายยาแก้ปวดให้สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้
 


ปลูกผม FUE ไม่ทิ้งรอยแผล ไม่ต้องตัดผมสั้น

การปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นที่วิธีที่จะรักษาคนไข้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้าน ได้อย่างตรงจุด ข้อดีของการปลูกผม FUE ไม่ต้องผ่าตัด จึงทำให้ไม่มีรอยแผลเป็น มีความปลอดภัย ไม่ต้องพักฟื้น อย่างไรก็ตามหาคุณสนใจอยากปลูกผม FUE ควรเลือกหาคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือดูรีวิวปลูกผม FUE ตามคลินิกเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้นถึงผลลัพธ์การรักษา

 



 

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที