Supichar

ผู้เขียน : Supichar

อัพเดท: 13 ก.ย. 2023 15.56 น. บทความนี้มีผู้ชม: 213 ครั้ง

กระเป๋าหนังแท้ มีหนังให้เลือกทั้งหมดกี่แบบ


กระเป๋าหนังแท้ มีหนังให้เลือกทั้งหมดกี่แบบ

 

1. หนังฟลูเกรน (Full Grain)

หนังฟลูเกรน (Full Grain) คือ หนังส่วนที่ดีเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเทียบกับ กระเป๋าหนังแท้ ทุกชนิด ทั้งยังเป็นหนังชั้นบนสุดที่มีลวดลายหนังธรรมชาติของสัตว์ชนิดต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน และเมื่อหนังฟลูเกรนได้ผ่านขั้นตอนการฟอกแล้วอาจมีรอยตำหนิได้ ไม่ว่าจะเป็น รอยย่น รอยยับ หรือรอยรูขุมขนต่าง ๆ ที่อยู่บนหนังสัตว์

 

บางคนอาจจะสงสัยว่าหนังฟลูเกรนมีตำหนิเยอะ แต่ทำไมถึงเรียกว่าเป็นหนังที่ดีที่สุด ด้วยความที่หนังฟลูเกรนมีคุณสมบัติทนทานต่อความร้อนสูง และมีอายุการใช้งานยาวนาน อย่างไรก็ตามรอยตำหนิทั้งหมดจะถูกกำจัดออก เพื่อเลือกหนังส่วนที่ดีที่สุดมาใช้ในการผลิต กระเป๋าหนังแท้ จึงทำให้มีราคาสูงที่สุดเมื่อเทียบกับหนังประเภทอื่น

 

2. หนังท็อปเกรน (Top Grain)

หนังท็อปเกรน (Top Grain) เป็นหนังคุณภาพสูงที่อยู่ถัดจากหนังชั้นนอกสุด ผู้ผลิตส่วนใหญ่มักจะนำหนังท็อปเกรนไปขัดรอยธรรมชาติออก และเข้าสู่กระบวนการเจียรพื้นผิว เพื่อกลบรอยตำหนิ หรือรอยรูขุมขนต่าง ๆ หลังจากนั้นจะนำหนังท็อปเกรนไปใช้เพื่อผลิตเครื่องหนัง กระเป๋าหนังแท้ และอื่น ๆ 

 

 

3. หนังสปริท (Split)

หนังสปริท (Split) เป็นหนังชั้นกลางที่ถูกนำไปเคลือบหนัง (Coating) เพื่อเป็นการรักษาสภาพหนัง ถึงแม้ว่าหนังชั้นนี้จะมีโครงสร้างโดยรวมของหนังสภาพดี แต่การเรียงตัวของไฟเบอร์บนพื้นผิวในชั้นนี้อ่อนแอกว่าชั้นอื่น ๆ ซึ่งหากมีการนำหนังสปริทไปใช้ เพื่อผลิตเครื่องหนัง หรือกระเป๋าหนัง อาจส่งผลให้สิ่งของนั้น ๆ เสื่อมสภาพได้เร็วกว่าหนังท็อปเกรน และฟูลเกรน นอกจากนี้ด้วยความที่หนังชั้นนี้ค่อนข้างอ่อนแอ ทำให้การดูแลค่อนข้างลำบาก

 

4. หนังไลนิง (Lining) 

หนังไลนิง (Lining) ผิวหนังชั้นสุดท้ายที่สามารถนำมาใช้ผลิตกระเป๋าหนังแท้ได้ คือ หนังไลนิง เป็นหนังที่ไม่มีลวดลายธรรมชาติ จึงไม่ได้รับความนิยมนำมาใช้ผลิตเป็นกระเป๋าหนังเท่าไหร่นัก นอกจากนี้หนังไลนิงยังไม่ได้มีความสวยงามเท่ากับหนังชั้นบน และคุณสมบัติที่ไม่ทนทานต่อความร้อน ทำให้ผู้ผลิตกระเป๋าหนังเลือกใช้หนังไลนิงในการทำซับในประกอบมากกว่า

 

5. หนังบอนเด็ด (Bonded)

หนังบอนเด็ด (Bonded) หนังที่ได้จากการปาดแยกชั้นหนังด้านบนแล้วเหลือเป็นหนังชื้นเล็ก ๆ หรือที่เรียกว่า “เศษหนังแท้” ซึ่งผู้ผลิตส่วนใหญ่นิยมนำเศษหนังมาผ่านกระบวนการผสมกับกาว พร้อมแปรสภาพให้กลายเป็นหนังแผ่น หรือหนังม้วน จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนการเคลือบหนัง เพื่อให้ได้หนังสภาพดี และนำไปย้อมสีให้สวยงาม

 

นอกจากนี้หนังบอนเด็ดยังถูกนำมาผลิตเป็นกระเป๋าหนัง หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวกับเครื่องหนัง แต่คุณสมบัติของหนังชนิดนี้มีความทนทานน้อย และลอกเป็นขุยง่ายเมื่อใช้งานไปในระยะยาว ทำให้หนังชนิดนี้มีราคาถูกกว่าการผลิตด้วยหนังชั้นบน

ขอบคุณข้อมูลจาก https://suvinocorp.com/

 

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที