sorrarak

ผู้เขียน : sorrarak

อัพเดท: 15 ม.ค. 2024 03.02 น. บทความนี้มีผู้ชม: 1429 ครั้ง

หากคุณเป็นคนที่สนใจเรื่องการทำ SEO และต้องการเรียนรู้เทคนิคล่าสุดในการปรับปรุงการทำ SEO ของคุณให้ดียิ่งขึ้นในยุคดิจิทัลปี 2023 คุณมาถูกที่แล้ว! ในบทความนี้เราจะสอนคุณเทคนิคและวิธีการที่ใครก็สามารถทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามแนวโน้มล่าสุดที่จะอัปเดตให้คุณได้รับผลสูงสุดในปี 2023


Keyword Research คืออะไร วิธีหา Keyword เพื่อให้ติดหน้าแรก Google ในปี 2024

Keyword Research นั้นเป็นพื้นฐานสำคัญของกลยุทธ์ การทำ SEO และมันก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา วิธีหา Keyword เพื่อให้ทันกับอัลกอริทึมของเครื่องมือค้นหาของ Google และตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นสำคัญมาก บทความต่อไปนี้เป็นสรุป เทคนิคการหา Keyword ล่าสุดและเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในปี 2024:

วิธีหา Keyword

Keyword Research คืออะไร เทคนิควิธีหา Keyword เพื่อทำ SEO

Keyword Research เป็นกระบวนการ ค้นหาคำหรือวลี (Keyword) ที่ผู้คนนิยมค้นหาบน Search Engine เพื่อนำมาวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณการค้นหา, การแข่งขัน, ความยากของคีย์เวิร์ด, บริบทของการใช้งาน ฯลฯ นำไปใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพ การทำ SEO ของเว็บไซต์และเนื้อหา ให้ดึงดูดผู้เข้าชมจากช่องทางออนไลน์ได้มากขึ้น โดยเฉพาะจากการค้นหาบน Google

วิธีหา Keyword สามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด (SEO Tools) อย่าง Ahrefs , Ubersuggest หรือจะวิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์คู่แข่ง สำรวจความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และคำค้นหายอดนิยมบน Search Engine ฯลฯ

เทคนิควิธีเลือก Keyword ที่ดี ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณการค้นหา (Search Volume), จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ (Traffic) ,การแข่งขัน ความยากของคีย์เวิร์ด (Keyword Difficulty), บริบทของการใช้งาน ฯลฯ โดยคำนึงถึงเป้าหมายการทำ SEO ของเว็บไซต์และกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก

 เทคนิคการหา Keyword เทรนด์ SEO ล่าสุดในปี 2024

และที่อยากแนะนำ คือ เทคนิคการหา Keyword และการเลือก Keyword จากประสบการณ์ของเรา ซึ่งเรามั่นใจว่าเป็นประโยชน์ต่อทุกคน ในปี 2024 อย่างแน่นอน มีดังต่อไปนี้

1.เข้าใจ Search Intent

การเข้าใจว่าผู้ใช้กำลังมองหาอะไร เมื่อพิมพ์คีย์เวิร์ดนั้นสำคัญกว่าเดิมอย่างแน่นอน ไม่ใช่เพียงมองหาคีย์เวิร์ดที่เน้นจำนวนมากๆ แต่ให้เลือกคำที่ตรงกับความต้องการและทำให้เกิดการซื้อของกลุ่มเป้าหมายของคุณ เช่น มองหาคีย์เวิร์ดที่มีสัญญาณเจตนารมณ์ชัดเจน เช่น "ดีที่สุด" "รีวิว" หรือ "วิธีการ" หรือคำค้นหาที่มี แนวโน้มจะทำให้เกิดการซื้อสินค้าและบริการ (Conversion)

2.ใช้ประโยชน์จาก Long-Tail Keyword

Long-Tail Keyword มีความเฉพาะเจาะจงสูงและมีการแข่งขันน้อยกว่า สามารถดึงดูดผู้เข้าชมที่เป็นเป้าหมายและเพิ่มอัตราการแปลงเป็นลูกค้าได้ เครื่องมือ SEO Tools อย่าง Google Keyword Planner, Ahrefs และ SEMrush สามารถช่วยคุณค้นพบรูปแบบ Long-tail Keyword รวมถึง คีย์เวิร์ดหลัก (Main Keyword) ของคุณได้
 

3.ผสานเข้ากันกับ Semantic Search

Google เน้นความสำคัญของความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาใน เน้นอธิบายความหมาย ซึ่งหมายความว่าเนื้อหาของหน้าเว็บไซต์ไม่เพียงแต่ต้องตรงกับคีย์เวิร์ดที่แน่นอนเท่านั้น แต่ยังต้องเข้าใจบริบทที่กว้างขึ้นและเจตนารมณ์ของผู้ใช้ด้วย โดยต้องรู้ลึก และรู้จริง พร้อมนำคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง คำพ้องความหมาย และองค์ประกอบอื่นๆที่สัมพันธ์กัน มาใส่ไว้ในเนื้อหาของคุณเพื่อปรับปรุงความเกี่ยวข้องของหัวข้อ
 

4.ใช้ประโยชน์จากการทำ Local SEO

หากคุณมีการทำ Local SEO อยู่แล้ว การเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับคีย์เวิร์ดที่โฟกัสในท้องถิ่นนั้น ๆ ของตัวเอง สำคัญมาก ใช้คีย์เวิร์ดเฉพาะตำแหน่งหรือระเวกโดยรอบธุรกิจของคุณ ยืนยันรายชื่อ Google My Business ของคุณ และสร้างลิงก์ย้อนกลับ (Backlinks) จากเว็บไซต์ในท้องถิ่นหรือประเทศของคุณ เพื่อปรับปรุงการมองเห็นของคุณในผลการค้นหาในท้องถิ่นของคุณให้สูงขึ้น
 
 

5.ใส่ใจการค้นหาด้วยเสียง (Voice Search) มากขึ้น

จากการเพิ่มขึ้นของการค้นหาด้วยเสียง (Voice Search) หมายความว่า คีย์เวิร์ดหรือคำค้นหา จะกำลังกลายเป็นคำที่เป็นดูเป็นธรรมชาติ หรือใกล้เคียงกับบทสนทนามากขึ้น การทำ Keyword Search และการตอบคำถามที่เป็นการใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติที่ AI หรือ Search Engine สามารถเข้าใจ ตอบคำถาม เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือตอบคำถามของผู้ใช้ได้อย่างถูกต้อง เพราะคนส่วนใหญ่ในปัจจุบันที่นิยมใช้การค้นหาบนโทรศัพท์มือถือ หรือบนลำโพงอัจฉริยะบนรถยนต์ นั้นเอง

 

 

6.มองให้ลึกลงไปกว่าแค่ปริมาณการค้นหา (Search Volume)

อย่าเพียงแค่พึ่งพาปริมาณการค้นหา (Search Volume) เป็นตัววัดชี้วัดในการจะเลือกใช้คีย์เวิร์ดตัวไหน แต่ควรพิจารณาการแข่งขัน ความยากของคีย์เวิร์ด (KD) อัตราคลิกผ่าน (CTR) และศักยภาพในการแปลงมาเป็นลูกค้า (Conversion) เมื่อเลือกคีย์เวิร์ดที่จะโฟกัส

 

7.ใช้ประโยชน์เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ต่างๆ

เครื่องมือสำหรับทำ Keyword Research อย่าง Ahrefs, SEMrush และ Moz ใช้ AI ในการวิเคราะห์แนวโน้มการค้นหา ค้นหาคีย์เวิร์ดของคู่แข่ง และคาดการณ์ความยากของคีย์เวิร์ด เครื่องมือเหล่านี้สามารถเป็นตัวช่วยที่ทรงพลังสำหรับการสร้างกลยุทธ์ SEO ที่มีประสิทธิภาพ

 

8.ติดตามการเปลี่ยนแปลง การอัปเดตของอัลกอริทึม

Google อัปเดตอัลกอริทึมการค้นหาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการติดตามข้อมูล ข่าวสาร เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงล่าสุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ติดตามบทความในวงการ เทรนด์การทำ SEO ใหม่ๆ เข้าร่วมการประชุม SEO และรับข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ที่มีชื่อเสียงเพื่อให้แน่ใจว่า วิธีการหา Keyword หรือ การทำ Keyword Research ของคุณสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในผลการค้นหาที่กำลังมีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ

 

สรุป

จำไว้เสมอว่า วิธีการหา Keyword การทำ Keyword Research เป็นกระบวนที่ควรทำอย่างต่อเนื่อง เพราะการตรวจสอบคีย์เวิร์ดของคุณเป็นประจำและปรับกลยุทธ์ของคุณเพื่อให้ทันสมัยและเพื่อให้ประสบความสำเร็จใน SEO ระยะยาว เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย

 

 


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที