การทำ SEO ในเชิงเทคนิค หรือ Technical SEO มักถูกมองว่าเป็นเรื่องเฉพาะทาง เช่น นักพัฒนาเว็บไซต์ (Web Developer) หรือผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO (SEO Specialist) แต่แท้จริงแล้ว การทำ SEO ในเชิงเทคนิค นั้นมีหลากหลายระดับ แม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถเรียนรู้และนำไปปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ได้
Technical SEO เป็น กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของ SEO ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาบนหน้า Google ได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง
บทความนี้จะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับ Techinical seo คืออะไร พร้อมเทคนิควิธีทำ ที่มือใหม่สามารถทำตามได้ง่ายๆ
Technical SEO คือ การเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์และเซิร์ฟเวอร์ในเชิงเทคนิค ให้สามารถทำงานได้ตรงตามความต้องการของ GoogleBot เพื่อรวบรวมข้อมูล จัดทำดัชนี และจัดอันดับเว็บไซต์
GoogleBot จะเริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลของเว็บไซต์ โดยเริ่มจากหน้าแรก จากนั้นจะติดตามลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ในเว็บไซต์ กระบวนการนี้เรียกว่าการรวบรวมข้อมูล (Crawling) GoogleBot จะรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ของหน้าเว็บ เช่น เนื้อหาของหน้า ลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ และข้อมูลเมตา
หลังจากรวบรวมข้อมูลแล้ว GoogleBot จะจัดเก็บข้อมูลไว้ในดัชนี (Index) ของ Google ดัชนีของ Google เป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับหน้าเว็บทั้งหมดที่ Google รู้จัก ข้อมูลเหล่านี้รวมถึงเนื้อหาของหน้า ลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ และข้อมูลเมตา
เมื่อ GoogleBot รวบรวมข้อมูลและจัดเก็บข้อมูลแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการจัดอันดับ SEO การจัดอันดับ SEO คือกระบวนการที่ Google กำหนดลำดับความสำคัญของหน้าเว็บในผลการค้นหา ปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อการจัดอันดับ SEO เช่น เนื้อหาของหน้า ลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ และข้อมูลเมตา
เพื่อช่วยให้ Bot ของ Google สามารถรวบรวมข้อมูล จัดทำบันทึกข้อมูลเว็บไซต์ และจัดอันดับ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เว็บไซต์ควรปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติด้าน SEO ที่ดี แนวทางปฏิบัติเหล่านี้ ก็คือ Techinical SEO นั้นเอง
โดย วิธีเริ่มต้นการทำ Technical SEO สำหรับมือใหม่ ด้วยวิธีการต่อไปนี้ ไม่ยาก มือใหม่สามารถทำตามได้ง่ายๆ ดังนี้
ปกติแล้ว หลังสร้างเว็บไซต์หรืออัปเดตเว็บไซต์เสร็จสมบูรณ์ คุณต้องรอให้ GoogleBot รวบรวมข้อมูลและจัดทำดัชนีเว็บไซต์ แต่มีวิธีที่สามารถเร่งกระบวนการนี้ได้ โดยการส่งลิงก์เว็บไซต์ที่เพิ่งอัปเดตใหม่ไปที่ Google Search Console
อย่างไรก็ดี การส่งลิงก์เว็บไซต์ใหม่ไปยัง Google Search Console จำเป็นต้องลงทะเบียนและยืนยันเว็บไซต์ก่อน
เนื้อหาในเว็บไซต์อาจมีส่วนคล้ายหรือเหมือนกันกับเว็บไซต์อื่น ๆ มากเกินไป ที่เราเรียกว่า "Duplicate Content" ส่งผลต่อการจัดอันดับ SEO นอกจากนี้ เนื้อหาภายในเว็บไซต์ที่เหมือนๆกัน อาจส่งผลต่อการจัดอันดับ SEO ที่ไม่คงที่ได้อีกด้วย อาจจะอันดับตก หรือไม่ติดอันดับเลย
สามารถตรวจสอบเนื้อหาซ้ำซ้อนได้โดยใช้เครื่องมือ เช่น https://www.duplichecker.com/
ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ (PageSpeed) เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการจัดอันดับ SEO ของ Google โดยการเพิ่มความเร็วในการโหลดเว็บไซต์เป็นการทำ Technical SEO อย่างหนึ่ง คุณสามารถตรวจสอบความเร็วในการโหลดเว็บไซต์โดยใช้เครื่องมือ เช่น https://pagespeed.web.dev/
URL หรือ ลิงก์ของเว็บไซต์ ที่ดีจะช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของหน้าเว็บของคุณได้ง่ายขึ้น URL ที่ดีควรมีลักษณะดังนี้
ใช้ภาษาอังกฤษที่อ่านง่าย เช่น https://thetepco.com/social-listening-tools/
สั้นและกระชับ
ดึงดูดความสนใจให้คลิก
มีคำสำคัญ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของหน้า
ใช้เครื่องหมาย – คั่นระหว่างคำ
ไม่มีข้อมูลที่ไม่จำเป็น เช่น เดือนหรือวันที่
ลิงก์ที่เสีย (Broken Link) ส่งผลต่อคะแนน SEO เป็นอย่างมาก เนื่องจาก Bot ส่งสัญญาณแง่ลบไปยัง Google ทำให้อันดับ SEO ของหน้าเว็บแย่ลง สามารถแก้ไขลิงก์ที่เสียได้ด้วยการลบลิงก์ออกแล้วผูกลิงก์ใหม่
ทั้งหมดนี้ ก็คือวิธีทำ Technical SEO อย่างง่าย สำหรับมือใหม่ ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งจากหลาย ๆ วิธี หากสงสัยว่า วิธีทำ Technical SEO มีแบบไหนอีกบ้าง เราขอยกมาให้ทราบเพิ่มเติมประมาณนี้ละกัน
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที