หลายคนคงเคยพบเจอกับเหตุการณ์คับขันในระหว่างการใช้รถใช้ถนนกันมาบ้าง ถ้าเป็นเหตุการณ์รถเสียบนถนนปกติก็คงแก้ปัญหากันไม่ยาก เพราะสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้คนที่ใช้ทางร่วมกัน หรือเรียกช่างให้มาตรวจเช็กแก้ไขในจุดที่เสียได้ทันที แต่ถ้าจุดที่ รถเสีย ดันไปเกิดขึ้นบนทางด่วนที่มีรถยนต์วิ่งด้วยความเร็วมากกว่าการขับบนทางปกติทั่วไปล่ะ จะทำอย่างไร จะเรียกช่างให้ขึ้นไปซ่อมบนทางด่วนเลยได้ไหม เรามีคำตอบ
ข้อความรู้ เมื่อรถคุณเสียบนทางด่วน
ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อเป็นสัญญาณเตือนผู้ร่วมทางคนอื่น
เมื่อเกิดเหตุการณ์ รถเสียบนทางด่วน สติ คืออย่างแรกที่เราต้องมี เมื่อตั้งสติได้แล้วให้พยายามนำรถเข้าไหล่ทางด้านซ้าย โดยเปิดไฟกะพริบหรือไฟฉุกเฉินตลอดเวลา หรือหากไม่สามารถนำเข้าไหล่ทางได้ ให้เปิดฝากระโปรงท้ายขึ้นให้สุด เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ ได้ใช้ความระมัดระวัง
โทรแจ้งสายด่วน ตามความรับผิดชอบ ได้แก่
ทางด่วนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โทร 1543
ทางด่วนโทลล์เวย์ 1233
มอเตอร์เวย์ 1586
ตำรวจทางหลวง 1193
เมื่อนำรถจอดไหล่ทางหรือส่งสัญญาณแจ้งเตือนให้กับผู้ใช้รถคันอื่น ๆ ได้ระมัดระวังเรียบร้อยแล้ว รถเสียโทร แจ้งสายด่วนตามความรับผิดชอบที่ถูกต้องเพื่อความรวดเร็วในการเข้าช่วยเหลือ ไม่ใช่แจ้งตำรวจหรือแจ้งช่างซ่อมรถหรือเรียกประกันเหมือนอย่างรถเสียบนถนนปกติ เพราะทางด่วนอยู่ในการดูแลและเป็นความรับผิดชอบเฉพาะพื้นที่ โดยแจ้งตำแหน่งหรือจุดที่รถเสีย อาการที่เสีย รายละเอียดที่จำเป็นอื่น ๆ เช่น มีผู้บาดเจ็บ, มีความจำเป็นต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์ เป็นต้น
โทรแจ้งสายด่วนบริษัทที่เราทำประกันภัยรถยนต์
หากเป็นกรณีที่ รถเสียกลางทางด่วน จากการเฉี่ยวชน ประกันภัยต้องเข้ามาดูแลเรื่องสินไหมทดแทน หากใครที่มีความกังวลเรื่องรถเสียระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นบนทางด่วนหรือทางปกติ ทางกรุงไทยขอนำเสนอความคุ้มครองที่จะมาดูแลแบบครอบคลุมเรื่องของการใช้รถ ผ่านบัตรเดบิต อัลตร้า แคร์พ่วงความคุ้มครองจากประกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถเสียกรณีใด ๆ เช่น น้ำมันหมด ยางแบน แบตเตอรี่หมด รวมไปถึงความคุ้มครองผู้ถือบัตร กรณีบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ก็มีค่ารักษาพยาบาลสูงสุดถึง 20,000 บาท พร้อมสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ สนใจสมัครได้ที่เคาน์เตอร์กรุงไทยทุกสาขา หรือสมัครออนไลน์ด้วยแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
นั่งรอในรถ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง
ระหว่างรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ให้นั่งรอในรถ ไม่ออกมานอกตัวรถ พร้อมคาดเข็มขัดนิรภัย เพราะหลายครั้งที่เกิดเหตุการณ์ที่คนประสบเหตุ รถเสียบนทางด่วน ออกมายืนรอไหล่ทางแล้วโดนชนท้าย เป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่นอกรถกระเด็นตกทางด่วน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง การนั่งรออยู่ภายในรถยนต์เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่สุด
กรณีฉุกเฉิน เครื่องมือสื่อสารของตัวเองไม่สามารถใช้ได้ หรือไม่พร้อมใช้งาน
ให้เดินหาตู้โทรศัพท์ฉุกเฉิน ซึ่งจะติดตั้งในระยะทุก ๆ 500 - 1000 เมตร เพื่อแจ้งขอความช่วยเหลือตามเบอร์สายด่วนที่แจ้งข้างต้น
ไม่ว่าจะขับรถไปบนเส้นทางใดก็ตาม ก่อนสตาร์ทรถก็ควรหมั่นตรวจเช็กดูแลรถให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่รถจะเสียกลางทาง และในรถควรมีอุปกรณ์ในยามฉุกเฉิน เช่น ไฟฉาย เสื้อกั๊กและป้ายสะท้อนแสง กรวยจราจร และชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือให้มีปริมาณเพียงพอในยามฉุกเฉิน เป็นต้น เผื่อว่าต้องเจอกับเหตุการณ์ที่คับขัน จะได้มีเครื่องมือในการช่วยแก้ไขสถานการณ์ได้ นอกจากนี้ควรสมัครบริการ บัตรเดบิตกรุงไทย อัลตร้า แคร์ ซึ่งมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินเมื่อเกิดเหตุรถเสียกลางทาง พร้อมคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 20,000 บาทต่อครั้ง ช่วยให้ทุกการเดินทางมีความอุ่นใจยิ่งขึ้น
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที