Supichar

ผู้เขียน : Supichar

อัพเดท: 03 ก.ค. 2023 14.55 น. บทความนี้มีผู้ชม: 343 ครั้ง

อาหารไทย เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมสูง และเป็นที่รู้จักในเรื่องของรสชาติที่จัดจ้าน และกลมกล่อม ไม่ว่าใครได้ลองก็เป็นต้องติดใจ แต่ด้วยความที่ประวัติศาสตร์ของอาหารไทยนั้นมีมาอย่างยาวนาน ทำให้มีเมนูโบราณที่หลาย ๆ คนอาจหลงลืมไป


เนื้อหมูสันใน กับเมนูอาหารไทยโบราณที่คุณ!อาจไม่รู้จัก

อาหารไทย เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมสูง และเป็นที่รู้จักในเรื่องของรสชาติที่จัดจ้าน และกลมกล่อม ไม่ว่าใครได้ลองก็เป็นต้องติดใจ แต่ด้วยความที่ประวัติศาสตร์ของอาหารไทยนั้นมีมาอย่างยาวนาน ทำให้มีเมนูโบราณที่หลาย ๆ คนอาจหลงลืมไป 

 

ซึ่งบทความในวันนี้จะนำเสนออาหารไทยโบราณ โดยนำวัตถุดิบ 3 อย่างที่มีกลิ่นเฉพาะตัวมาผสมกันให้กลายเป็นเมนูแสนอร่อย อย่าง ผัดสามเหม็น โดยบทความนี้จะมายกระดับความอร่อยให้กับเมนูนี้ด้วย เนื้อหมูสันใน ชิ้นส่วนที่มีความนุ่มมากที่สุด จะนำไปทำเมนูอะไรก็เคี้ยวง่าย และไม่เหนียว ตามไปดูกันเลย

 

วัตถุดิบ

1. สะตอ

2. ชะอม

3. กระเทียมดอง

4. เนื้อหมูสันใน

5. ไข่

6. วุ้นเส้น

7. กระเทียม

8. พริกขี้หนู

9. น้ำปลา

10. ซอสหอยนางรม

11. น้ำตาลทราย

12. พริกไทย

13. ผักกาดหอม

วิธีทำ

1. เตรียมวัตถุดิบหลัก

นำพระเอกของเมนูผัดสามเหม็นมาเตรียมไว้ ด้วยการซอยกระเทียมดองเป็นแว่น ๆ ล้างชะอม และสะตอให้สะอาด ไม่มีเศษดินปนเปื้อน

 

 

2. ล้างหมูพร้อมเริ่มทำ

นำ เนื้อหมูสันใน มาล้างให้สะอาด จากนั้นนำวุ้นเส้นไปแช่น้ำแล้วตัดให้สั้นลงแบบพอดีคำ จึงค่อยนำกระเทียมกับพริกขี้หนูมาซอยหยาบ ๆ ให้พอมีกลิ่นหอม

 

3. ตั้งกระทะ

ตั้งกระทะให้ร้อนจากนั้นใส่น้ำมันลงในกระทะ รอจนน้ำมันเริ่มร้อน จึงนำกระเทียมลงไปเจียวให้หอม แล้วตามด้วยไข่กับหมูสันใน รวนจนเนื้อหมูสุกเริ่มเปลี่ยนสี และไข่มีสีนวลเหลือง จึงเริ่มใส่สะตอ วุ้นเส้น และกระเทียมดองลงไป คลุกเคล้าให้ทั่วเพื่อกระจายกลิ่น

 

4. ปรุงรส

เมื่อสะตอเริ่มสุกได้ที่จึงใส่น้ำปลา ซอสหอยนางรม และน้ำตาลทรายลงไปเพื่อชูรสชาติให้กับเนื้อหมู และไข่มีความอร่อยมากขึ้น เมื่อทุกอย่างเริ่มได้ที่ให้ปิดไฟแล้วใส่ชะอมลงไปผัด โดยอาศัยความร้อนที่เหลืออยู่ และปิดท้ายด้วยการโรยพริกไทย และพริกขี้หนู

 

5. จัดเสิร์ฟ

นำผักกาดหอมมารองจานให้สวยงาม จากนั้นตักผัดสามเหม็นลงไป จัดแต่งให้สวยงามน่าทาน และพร้อมเสิร์ฟให้ทุกคนได้ลิ้มรสเมนูอาหารไทยโบราณ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.pitchameat.com/

https://www.bkkmenu.com/eat/stories/thai-foods.html

 

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที