เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีไบโอเมทริกซ์ (Biometrics) หนึ่งในเทคโนโลยีที่มาแรงในช่วง 4–5 ปีที่ผ่านมานั่นก็คือ Face Recogintion หรือ การจดจำใบหน้า ที่ถึงแม้จะถูกคิดค้นมาตั้งแต่ช่วงปี 1960s แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าได้รับการพัฒนาและนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน เพื่อยืนยันตัวตนของบุคคลหรือผู้ใช้บริการ ซึ่งได้กลายมาเป็นหนึ่งในมาตรการความปลอดภัยที่ใช้ในการทำ eKYC อีกด้วย
ในบทความนี้ SCB Techx จะพามาดูกันว่า ทำไม Face Recognition ถึงเป็นระบบยืนยันตัวตนที่ขาดไม่ได้ ในปี 2023 แล้ว เทคโนโลยีนี้สามารถนำมาใช้ในการยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ หรือ eKYC ได้อย่างไรบ้าง?
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการ eKYC เข้ามาช่วยในการดำเนินการทางธุรกิจ ระบบ Face Recognition นั้นมีประโยชน์ในหลากหลายด้าน ดังนี้
ยกระดับความปลอดภัย — ด้วยการสนับสนุนจากระบบ Facial Recognition ทำให้การป้องกันการขโมยข้อมูลหรือการปลอมแปลงตัวตนสามารถทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากข้อมูลใบหน้าเป็นลักษณะเฉพาะบุคคล ไม่เหมือนกับข้อมูลรหัสผ่าน (Password) ที่สามารถถูกขโมย หรือถูกแฮ็กได้ ทั้งธุรกิจและลูกค้าสามารถวางใจได้ว่าข้อมูลธุรกรรมจะไม่ถูกขโมยไปอย่างแน่นอน
การประมวลผลที่รวดเร็ว — อย่างที่กล่าวไปข้างต้น การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาที สามารถลดระยะเวลาที่ลูกค้าต้องใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ และลดการกรอกข้อมูลซ้ำๆ หรือการกดรหัสบ่อยๆ ซึ่งอาจมีโอกาสผิดพลาดได้นั่นเอง
เชื่อมต่อกับระบบอื่นได้อย่างง่ายดาย — เทคโนโลยี Facial Recognition สามารถนำไปเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ได้ง่าย ซึ่งอาจเป็นการเชื่อมต่อ API ของ eKYC service เข้ากับระบบ Front End ของธุรกิจ ทั้งยังไม่ต้องลงทุนเพิ่มมาก และใช้งานร่วมกับระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆ
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เทคโนโลยี Face Recognition นั้นถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน ทั้งในการใช้งานทั่วไป รวมถึงการทำธุรกรรมออนไลน์ หรือการยืนยันตัวตนดิจิทัลเพื่อเข้าใช้บริการออนไลน์ต่างๆ
สำหรับผู้ประกอบการที่พอจะทราบแล้วว่า Face recognition คืออะไร และกำลังสนใจในการนำ Face Recognition eKYC เข้ามาใช้งานกับธุรกิจ เพื่อสร้างความปลอดภัยและความสะดวกในการดำเนินการ ทาง SCB TechX มีบริการ eKYC ที่ครอบคลุมและชาญฉลาด พร้อมมีบริการให้คำปรึกษาและแนะนำโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจ โดยแบ่ง eKYC ที่แบ่งออกได้เป็น 4 ฟีเจอร์เด่น ดังนี้
1.Liveness & Optical Character Recognition (OCR)
บริการตรวจสอบผู้ใช้บริการกับบุคคลในบัตรประชาชนว่าเป็นบุคคลเดียวกันจริงหรือไม่ พร้อมเปลี่ยนภาพถ่ายบัตรประชาชนของผู้ใช้บริการให้เป็นข้อมูลดิจิทัลได้ทันที เพื่อลดขั้นตอนในการกรอกข้อมูลของผู้ใช้บริการและเจ้าหน้าที่
2.Liveness & Face Recognition
บริการตรวจสอบว่าผู้ใช้บริการกับบุคคลในภาพถ่ายเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ โดยใช้ภาพถ่ายและระบบ Face Recognition เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับรูปในบัตรประชาชน
3.DOPA Gateway
ตรวจสอบข้อมูลบัตรประชาชนของผู้ใช้บริการว่าตรงกับฐานข้อมูลของกรมการปกครองหรือไม่
4.NDID Proxy
เชื่อมต่อแพลตฟอร์มดิจิทัลไอดีเพื่อยืนยันตัวตนแบบ Cross platform ช่วยให้ธุรกิจไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ NDID โดยตรง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อและดูแลระบบ
สำหรับใครที่สงสัยในเรื่องระบบAuthenticator คืออะไร? เพราะเรื่องของ digital ID คือสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ห้ามละเลยในปี 2023 หากสนใจ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Email: contact@scbtechx.io
ดูรายละเอียดบริการยืนยันตัวตน บริการ Online ekyc ประเทศไทย (e-KYC Thailand) คลิก
ติดตาม SCB TechX เพื่อข่าวสารและอัปเดตใหม่ๆ ก่อนใคร
Facebook: SCB TechX
Medium: medium.com/scb-techx
LinkedIn: www.linkedin.com/company/scb-tech-x/
YouTube: SCB TechX
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที