ปัจจุบันการแพทย์ของประเทศไทยนั้นเติบโตและก้าวหน้าเป็นอย่างมาก เนื่องจากการมีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การรักษาโรคมะเร็งสามารถทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น จึงเกิดการกลืนแร่รักษามะเร็งไทรอยด์ มะเร็งไทรอยด์กลืนแร่ และการกลืนแร่รักษามะเร็ง โดยทางการแพทย์ได้มีการรับรองการใช้แร่รังสีไอโอดีน-131 ในการรักษามะเร็งไทรอยด์มาเป็นเวลานาน ซึ่งเมื่อผู้ป่วยได้ทำการรักษามะเร็งไทรอยด์ด้วยการกลืนรังสีไอโอดีน-131 ผู้ป่วยมะเร็งไทรอยด์กลืนแร่ไม่ต้องกังวลเรื่องการเกิดผลข้างเคียงต่ออวัยวะอื่น ๆ เพราะเกิดขึ้นได้น้อย
ทุกคนอาจเกิดคำถามว่าทำไมต่อมไทรอยด์ถึงมีความสำคัญกับมนุษย์ขนาดนั้น เพราะต่อมไทรอยด์นั้นเป็นต่อมไร้ท่อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย ต่อมไทรอยด์จะอยู่บริเวณด้านหน้าของลำคอส่วนหน้า โดยมีลักษณะคล้ายกับปีกผีเสื้อ ซึ่งมีหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย เช่น ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ที่ควบคุมการเจริญเติบโต ควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้หากต่อมไทรอยด์ผิดปกติหรือเป็นพิษจะส่งผลกระทบต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ซึ่งการรักษาทำได้ โดยการกลืนแร่รักษามะเร็งไทรอยด์
การกลืนแร่รักษามะเร็งไทรอยด์ด้วยแร่ไอโอดีน-131 ซึ่งเป็นแร่ที่ทำให้เซลล์ที่ได้รับแร่นี้เกิดการกลายพันธุ์หรือตายลง บางครั้งการที่ได้รับแร่ไอโอดีน-131 ปริมาณมากอาจมีความปลอดภัยมากกว่าการได้รับแร่ไอโอดีน-131 น้อย เช่น ในการรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ หากผู้ป่วยได้มีการกลืนแร่รักษามะเร็งไทรอยด์ในปริมาณที่มากจะทำให้เซลล์มะเร็งนั้นตายลง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ป่วยอีกรายที่ได้รับแร่ไอโอดีน-131 ในปริมาณที่น้อยกว่าจะเห็นได้ว่าเกิดการกระจายตัวของเซลล์มะเร็งเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการสลายตัวของแร่ไอโอดีน-131 จะสามารถขับออกจากร่างกายผู้ป่วยได้ทางปัสสาวะ เหงื่อ และสารคัดหลั่ง ทำให้ควรทำความสะอาดห้องน้ำ อ่างอาบน้ำ ผ้าปูที่นอน เสื้อผ้าของผู้ป่วย และสถานที่ที่ใช้ร่วมกันกับผู้ป่วยที่ได้รับแร่ไอโอดีน-131 ในการลดการได้รับรังสี
การกลืนแร่รักษามะเร็งไทรอยด์ เป็นที่ยอมรับในวงการการแพทย์ว่าสามารถรักษามะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแร่ไอโอดีน-131 มีทั้งรูปแบบน้ำและแคปซูล เมื่อผู้ป่วยมะเร็งได้เข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หลังจากการผ่าตัดแพทย์อาจจะพิจารณาให้ผู้ป่วยมะเร็งไทรอยด์กลืนแร่ เนื่องจากการกลืนแร่รักษามะเร็งไทรอยด์จะช่วยจับเซลล์มะเร็งให้ฝ่อและตายลง รวมทั้งการกลืนแร่รักษามะเร็งสามารถทำได้หลายครั้งโดยไม่เกิดอาการแทรกซ้อน
การสังเกตอาการเบื้องต้นไม่ว่าจะเป็นโรคใดก็ตามทำให้ทุกคนสามารถตรวจสอบอาการได้เบื้องต้น หากคิดว่ามีอาการคล้ายคลึงกับโรคนั้น ๆ โดยที่ไม่ต้องไปโรงพยาบาล หากตรวจสอบเบื้องต้นและมีความคล้ายคลึงว่ามีอาการ ผู้ป่วยก็จะได้สามารถรักษาโรคได้อย่างทันท่วงที
เป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนไทรอยด์มากกว่าปกติ โดยจะมีอาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น ขี้ร้อน หงุดหงิด หิวบ่อย เฉื่อยชา ง่วงนอน ท้องผูก น้ำหนักลดลง แม้จะรับประทานอาหารในปริมาณมากกว่าปกติ รวมถึงในผู้หญิงที่มีประจำเดือนแล้วนั้นก็อาจจะทำให้ประจำเดือนมาน้อยลง ไม่มาตามรอบเดือน หรือประจำเดือนมามากผิดปกติ และอาจจะพบหรือไม่ก้อนบริเวณลำคอ
หากผู้ป่วยที่พึ่งเริ่มเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์จะไม่สามารถตรวจสอบอาการเบื้องต้นได้ เนื่องจากจะไม่มีลักษณะทางกายภาพใด ๆ ที่บ่งบอกอย่างชัดเจน นอกจากจะพบก้อนเนื้อบริเวณลำคอที่เคลื่อนที่ไปตามการกลืนน้ำลายของผู้ป่วย ซึ่งจะมีระดับฮอร์โมนปกติ ปกติมนุษย์จะไม่สามารถคลำหรือจับต่อมไทรอยด์ได้ โดยที่อัตราส่วนการเกิดมะเร็งต่อมไทรอยด์นั้นผู้หญิงจะสามารถเกิดได้มากกว่าผู้ชาย พบได้มากในช่วงอายุ 20-80 ปี รวมทั้งครอบครัวเคยมีประวัติที่เป็นมะเร็งไทรอยด์มาก่อน โดยอาจจะมีการกลืนแร่รักษามะเร็งหลังจากการผ่าตัด
มะเร็งต่อมไทรอยด์ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งต่อมไทรอยด์ด้านขวาและด้านซ้ายหรือแม้แต่ส่วนเนื้อเยื่อ โดยมะเร็งต่อมไทรอยด์สามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด
มะเร็งต่อมไทรอยด์ที่จับแร่ไอโอดีน เป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ที่สามารถพบได้มากที่สุด
มะเร็งต่อมไทรอยด์ที่ไม่จับแร่ไอโอดีน เป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ที่พบได้น้อยมากในกลุ่มคนที่เป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ โดยพบประมาณ? 5% จากผู้ป่วยทั้งหมด
การกลืนแร่รักษามะเร็งไทรอยด์เป็นวิธีการรักษาที่แพร่หลายในการรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตาม แต่ก็มีข้อปฏิบัติอยู่พอสมควรในการกลืนแร่ไอโอดีน-131 เนื่องจากการกลืนแร่ไอโอดีน-131 มีรังสีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์หากใช้งานไม่ถูกต้องและไม่ได้รับการวิเคราะห์ปริมาณอย่างถี่ถ้วน
การปฏิบัติตัวก่อนกลืนแร่ไอโอดีน-131
หยุดการใช้ยาต้านไทรอยด์ประมาณ 3-7 วัน ก่อนการกลืนแร่ไอโอดีน-131
สามารถทานยาโรคประจำตัวได้ตามปกติ แต่ให้งดการทานยารักษาโรคหัวใจผิดจังหวะ
หลีกเลี่ยงการทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีไอโอดีนสูงประมาณ 2 สัปดาห์
งดการตรวจร่างกายด้วยสารทึบรังสีประมาณ 1 เดือน
การปฏิบัติตัวหลังกลืนแร่ไอโอดีน-131
ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ เป็นประจำอย่างน้อยประมาณ 6 เดือน
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ห้ามออกกำลังกายอย่างหนักประมาณ 1 สัปดาห์
สามารถเริ่มทานยาต้านไทรอยด์ตามคำสั่งของแพทย์ประจำตัว
ควรคุมกำเนิดอย่างน้อยประมาณ 6 เดือนหลังจากได้รับแร่ไอโอดีน-131
งดการให้นมบุตรหลังจากได้รับแร่ไอโอดีน-131
การรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ด้วยวิธีการกลืนแร่ไอโอดีน-131 ซึ่งได้รับการรับรองจากวงการแพทย์เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าการรักษาโรคด้วยวิธีนี้ก็อาจจะส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงในการรักษาได้ โดยสามารถแบ่งได้เป็น 2 ระยะ ได้แก่
ระยะแรก
คลื่นไส้ อาเจียน
อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ
ต่อมไทรอยด์อักเสบและเป็นพิษ
ต่อมน้ำลายอักเสบ
การรับรสและกลิ่นผิดปกติ (ชั่วคราว)
ระยะหลัง
ปากแห้ง น้ำลายน้อย ต่อมน้ำลายผลิตน้ำลายออกมาได้น้อย
ลดการทำงานของไขกระดูกชั่วคราว
ผลต่อระบบสืบพันธุ์
โรคพั้งผืดในปอด
เกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาว
การเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน ทำให้ปัจจุบันเกิดการใช้แร่ไอโอดีน-131 ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งไทรอยด์กลืนแร่ และการกลืนแร่รักษามะเร็งไทรอยด์ การกลืนแร่รักษามะเร็ง สามารถทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยการได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที