ภาษีรถยนต์เป็นค่าธรรมเนียมรายปีที่เจ้าของรถทุกคนต้องจ่ายให้แก่รัฐบาลเพื่อใช้รถของตนบนท้องถนนอย่างถูกกฎหมาย รัฐบาลเรียกเก็บภาษีเพื่อสร้างรายได้และบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งของประเทศ การไม่ต่อภาษีรถยนต์อาจส่งผลให้มีโทษปรับ หรือแม้แต่ถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย จำนวนภาษีรถยนต์จะแตกต่างกันไปตามประเภท อายุ และขนาดของยานพาหนะ ในการต่อภาษีรถยนต์ เจ้าของรถต้องแจ้งรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เช่น หลักฐานการประกันภัย และลงทะเบียนออนไลน์หรือไปที่เคาน์เตอร์บริการเพื่อชำระค่าธรรมเนียม จำเป็นต้องทราบกฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการต่ออายุภาษีรถยนต์เพื่อหลีกเลี่ยงผลทางกฎหมายใดๆ
ภาษีรถยนต์ หรือที่เรียกว่าภาษีสรรพสามิตรถยนต์ (VED) หรือภาษีถนน เป็นภาษีที่เจ้าของยานพาหนะส่วนใหญ่ต้องจ่ายเพื่อให้สามารถขับขี่บนถนนสาธารณะในสหราชอาณาจักรได้อย่างถูกกฎหมาย จำนวนภาษีรถยนต์ที่ต้องชำระจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ระดับการปล่อยมลพิษของรถยนต์ ประเภทเชื้อเพลิง และอายุ
วัตถุประสงค์ของภาษีรถยนต์คือการช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและปรับปรุงเครือข่ายถนนของสหราชอาณาจักร รวมทั้งสนับสนุนการใช้ยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นโดยการจัดเก็บภาษีที่สูงขึ้นสำหรับรถที่มีระดับการปล่อยมลพิษสูง รายได้ภาษีที่จัดเก็บจากภาษีรถยนต์จะเข้าสู่งบประมาณทั่วไปของรัฐบาล แทนที่จะถูกล้อมรั้วสำหรับโครงการที่เกี่ยวข้องกับถนน
แน่นอนว่ารถทุกคันจะต้องต่อภาษีทุกๆปี หากละเลยหรือไม่ต่อภาษีจะต้องเสียค่าปรับหรือหากไม่ต่อหลายปีเจ้าของรถต้องดำเนินการจดทะเบียนใหม่ทั้งหมด และรถที่จำเป็นต้องต่อภาษีมีดังนี้
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1)
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รย.2)
รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3)
รถจักรยานยนต์ (รย.12)
รถแทรกเตอร์ (รย.13)
รถบดถนน (รย.14)
รถพ่วง (รย.16)
ในการยื่นชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์ อันดับแรก คุณต้องลงทะเบียนที่เว็บไซต์ผ่านช่องทางออนไลน์ดังนี้
เข้าไปที่เว็บไซต์ eservice.dlt.go.th (สำหรับผู้ที่ยื่นภาษีออนไลน์ครั้งแรก ต้องลงทะเบียนเพื่อเข้าใช้งานเว็บไซต์)
เลือกเมนู “ยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปี”
กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถให้ครบถ้วนและยื่นชำระภาษี
แจ้งรายละเอียดของกรมธรรม์ประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 หรือซื้อผ่านทางเว็บไซต์
ชำระเงินผ่านช่องทางที่หลากหลาย เช่น บัตรเดบิต/เครดิต เคาน์เตอร์เซอร์วิส และตู้ ATM ของธนาคารที่ร่วมรายการ
เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้วจะได้รับใบเสร็จรับเงินพร้อมเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีทางไปรษณีย์จากกรมการขนส่งทางบก
นอกจากการต่อภาษีรถยนต์ผ่านเว็บไซต์แล้วยังสามารถต่อภาษีออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชัน DLT Vehicle Tax ได้อีกด้วย ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น DLT Vehicle Tax
กรอกข้อมูลชื่อ-นามสกุล อีเมล เลขประจำตัวประชน และเบอร์โทรศัพท์ แล้วกดปุ่ม “กดเพื่อรับรหัส OTP”
กรอกรหัส OTP ที่ได้รับจากอีเมล แล้วกดยืนยัน พร้อมตั้งรหัส PIN 6 หลัก จากนั้นกดเมนู “ชำระภาษีรถ”
เลือกรูปแบบชำระภาษี
กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือ เลขทะเบียนนิติบุคคลผู้ครอบครองรถ
เลือกประเภทรถที่ต้องชำระภาษี และกรอกข้อมูลทะเบียนรถให้ครบถ้วน
กรอกข้อมูลประกันภัยรถ (พ.ร.บ.)
เลือกรับเครื่องหมายการเสียภาษีรถประจำปีทางไปรษณีย์ทั่วไปหรือตู้ kiosk เฉพาะในกรุงเทพมหานคร
เลือกช่องทางการชำระเงินได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ SCB Easy App และ QR ชำระเงิน
ทุกครั้งที่ต่อภาษีรถยนต์จำเป็นที่จะต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม เพื่อความสะดวกและรวดเร็วต่อตัวเราและเจ้าหน้าที่ ซึ่งเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ได้แก่
สมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ (ตัวจริงหรือสำเนา)
หากคุณเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งที่จุคนได้ไม่เกิน 7 คน รถยนต์นั่งที่จุคนได้เกิน 7 คน หรือรถบรรทุกส่วนบุคคลที่มีอายุมากกว่า 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุมากกว่า 5 ปี คุณคือ ต้องได้รับใบรับรองการตรวจสภาพรถ (ตรอ. หรือ) ตามระเบียบฯ
พ.ร.บ. รถยนต์ ที่ยังไม่หมดอายุ
การต่อภาษีรถยนต์นั้นสามารถต่อได้หลายช่องทางเพื่อความสะดวกของประชาชน ซึ่งผู้ที่ต้องการต่อภาษีรถยนต์สามารถต่อได้จากที่นี่
กรมการขนส่งทางบก
สำนักงานขนส่ง
ที่ทำการไปรษณีย์
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ
เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ
แอปพลิเคชัน mPay และ TrueMoney Wallet
เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก eservice.dlt.go.th หรือแอปพลิเคชัน DLT Vehicle
พ.ร.บ. รถยนต์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการต่อภาษีรถยนต์ เพราะหากไม่มี พ.ร.บ. ก็จะไม่สามารถต่ออายุได้ พ.ร.บ.รถยนต์อนุญาตให้ต่ออายุล่วงหน้าได้สูงสุด 3 เดือนก่อนวันหมดอายุทั้ง พ.ร.บ. และภาษีรถยนต์ หากนำรถมาวิ่งบนถนนโดยไม่มี พ.ร.บ. รถยนต์ มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
นอกจาก พ.ร.บ. รถยนต์แล้ว พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถก็มีความสำคัญเช่นกัน เนื่องจาก พ.ร.บ. กำหนดให้รถยนต์ทุกคันต้องทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับเพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
นอกจากค่าภาษีที่คุณต้องจ่ายทุกปีแล้วยังมี พ.ร.บ. ก็จำเป็นต้องจ่ายทุกปีเหมือนกัน โยรถแต่ละขนาดจะต้องชำระตามที่กฎหมายกำหนด ดังนี้
รถยนต์ที่นั่งไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รถเก๋ง) 600 บาท
รถยนต์เกิน 7 ที่นั่ง ไม่เกิน 15 ที่นั่ง (รถตู้) 1,100 บาท
รถยนต์โดยสารเกิน 7 ที่นั่ง เกิน 15 ที่นั่ง ไม่เกิน 20 ที่นั่ง 2,050 บาท
รถยนต์โดยสารเกิน 7 ที่นั่ง เกิน 20 ที่นั่ง ไม่เกิน 40 ที่นั่ง 3,200 บาท
รถยนต์โดยสารเกิน 7 ที่นั่ง เกิน 40 ที่นั่ง 3,740 บาท
รถยนต์บรรทุก น้ำหนัก ไม่เกิน 3 ตัน (รถกระบะ) 900 บาท
รถยนต์บรรทุก น้ำหนัก เกิน 3 ตัน ไม่เกิน 6 ตัน 1,220 บาท
รถยนต์บรรทุก น้ำหนัก เกิน 6 ตัน ไม่เกิน 12 ตัน 1,310 บาท
ต้องต่อภาษีรถยนต์ทุกปีหรือทุก 6 หรือ 12 เดือนขึ้นอยู่กับประเภทของรถ เพื่อรักษาทะเบียนรถตามกฎหมายและทำให้เจ้าของรถสามารถขับต่อไปบนถนนสาธารณะได้
การต่อภาษีรถยนต์มีความสำคัญเนื่องจากการขับรถโดยไม่มีภาษีที่ถูกต้องอาจส่งผลให้มีโทษ ปรับ และอาจถึงขั้นยึดหรือยึดรถได้ นอกจากนี้ หากรถประสบอุบัติเหตุหรือตำรวจหยุดรถ คนขับอาจถูกขอให้แสดงหลักฐานการเสียภาษีที่ถูกต้อง
การต่ออายุภาษีรถยนต์ยังช่วยให้แน่ใจว่ารัฐบาลจะได้รับรายได้ที่จำเป็นในการบำรุงรักษาและปรับปรุงเครือข่ายถนนของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ถนนทุกคน จำนวนภาษีรถยนต์ที่ต้องชำระสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกปี ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องติดตามอัตราล่าสุดล่าสุดและชำระจำนวนเงินที่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงการลงโทษหรือปัญหาทางกฎหมาย
หากคุณละเลยและไม่ต่อภาษีคุณจะต้องจ่ายค่าปรับตามกฎหมายกำหนด ซึ่งระยะเวลาของรถที่ขาดการชำระก็จะต้องเสียค่าปรับที่แตกต่างกันออกไป
ทะเบียนจะไม่ถูกยกเลิก โดยเจ้าของรถ สามารถต่อทะเบียนและชำระค่าภาษีรถโดยมีค่าปรับเพิ่มร้อยละ 1 ต่อ เดือน.
ทะเบียนจะถูกยกเลิกโดยเจ้าของรถต้องส่งคืนป้ายทะเบียนและเอกสารการจดทะเบียนให้กรมการขนส่งทางบกภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ยกเลิก หากฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 1,000 บาท จากนั้นเจ้าของรถสามารถต่อทะเบียนและชำระค่าปรับภาษีรถย้อนหลังพร้อมกับค่าภาษีรถปกติได้
ก่อนจะต่อภาษีรถยนต์แต่ละครั้งนอกจากจะต้องตรวจเช็คสภาพรถแล้วจะต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมและมีสิ่งที่คุณควรรู้ดังนี้
ตรวจสอบวันที่ต่ออายุในจดหมายเตือนภาษีรถยนต์ของคุณ เนื่องจากคุณสามารถต่ออายุภาษีรถยนต์ได้สูงสุด 4 สัปดาห์ก่อนที่ภาษีจะหมดอายุ หากคุณไม่มีจดหมายเตือน คุณสามารถตรวจสอบวันต่อภาษีรถยนต์ของคุณทางออนไลน์ได้โดยใช้หมายเลขทะเบียนรถของคุณ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีรายละเอียดรถยนต์ที่ถูกต้อง รวมถึงยี่ห้อ รุ่น หมายเลขทะเบียน และชั้นภาษีปัจจุบัน คุณอาจต้องอัปเดตรายละเอียดเหล่านี้หากมีการเปลี่ยนแปลง
ตรวจสอบระดับการปล่อยมลพิษของรถของคุณ เนื่องจากจะส่งผลต่อจำนวนภาษีรถยนต์ที่คุณต้องจ่าย หากคุณมีรถยนต์ที่ใหม่กว่า อาจมีสิทธิ์ได้รับการปล่อยมลพิษน้อยลงและอัตราภาษีที่ลดลง
ตัดสินใจว่าคุณต้องการชำระค่าต่ออายุภาษีรถอย่างไร คุณสามารถชำระเงินออนไลน์ ทางโทรศัพท์ หรือทางไปรษณีย์ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการผ่อนชำระ 6 หรือ 12 งวดต่อเดือน
ตรวจสอบว่ารถของคุณได้รับการยกเว้นภาษีรถยนต์หรือไม่ เช่น เป็นรถของผู้พิการหรือรถเก่าที่มีอายุมากกว่า 40 ปี
ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถของคุณมีประกันรถยนต์ที่ถูกต้องและใบรับรอง MOT ที่ถูกต้อง เนื่องจากคุณอาจต้องใช้สิ่งเหล่านี้ในการต่ออายุภาษีรถยนต์ของคุณ
การต่อภาษีรถยนต์เป็นกระบวนการประจำปีที่กฎหมายกำหนดสำหรับรถทุกคันที่จดทะเบียนในประเทศหนึ่งๆ ในการต่อภาษีรถยนต์ เจ้าของรถต้องแจ้งรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เช่น หลักฐานการประกันภัย ลงทะเบียนออนไลน์ หรือไปที่เคาน์เตอร์บริการเพื่อชำระค่าภาษีรถ และขอรับใบเสร็จรับเงินจากกรมการขนส่งทางบก การไม่ต่อภาษีรถยนต์อาจมีโทษปรับและค่าปรับ ส่วนการต่ออายุรถยนต์ที่ขาดการชำระภาษีรถเกิน 3 ปี จะมีการยกเลิกการต่อทะเบียนและค่าปรับเพิ่มเติม สิ่งสำคัญที่ต้องรู้คือ พ.ร.บ. รถยนต์ และ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งมีความสำคัญต่อการต่อภาษีรถยนต์
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที