สำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน การเปิดศักราชใหม่ก็เหมือนเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ใครที่กำลังมองหาสิ่งดี ๆ ให้ตัวเองด้วยการเสริมสร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่มั่นใจกว่าเดิม คลินิกปลูกผมคือสิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับคุณ เรามีเช็กลิสต์ดี ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าควรไปใช้บริการปลูกผมที่คลินิกไหนดี แบบพรีเมียม ลองมาดูกัน
ให้การรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีใบประกอบวิชาชีพจากแพทยสภา
เพราะการปลูกผมถาวรต้องอาศัยความชำนาญพิเศษของแพทย์ ที่ไม่ใช่เพียงการใช้ยาสระผมเท่านั้น แต่หมายถึงการศัลยกรรมที่ลงลึกไปถึงการย้ายเซลล์รากผม ดังนั้น ศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดศัลยกรรมจึงต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภา จึงควรตรวจสอบว่าแพทย์ที่ให้บริการในคลินิกปลูกผมนั้น ผ่านการรับรองจากแพทยสภาหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้มีความรู้ความสามารถจริง (ตรวจสอบรายชื่อแพทย์จากฐานข้อมูลแพทยสภาได้ที่นี่)
ผ่านการรับรองจากสถาบันด้านการปลูกผมระดับโลก
นอกจากมีใบประกอบวิชาชีพจากแพทยสภาแล้ว คลินิกปลูกผมที่ดีควรมีแพทย์ซึ่งผ่านการรับรองจากสถาบันระดับโลกด้านการปลูกผมโดยเฉพาะ เพื่อให้แน่ใจว่ามีประสบการณ์และเทคนิคการรักษาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งเป็นที่ยอมรับระดับโลก โดยตัวอย่างสถาบันต่าง ๆ ด้านการปลูกผม ได้แก่
AAHRS (Asian Association of Hair Restoration Surgery) หรือสมาคมศัลยกรรมปลูกผมแห่งเอเชีย
WFI (World FUE Institute) หรือสถาบันปลูกผมระดับโลกที่มุ่งเน้นเทคนิค FUE โดยเฉพาะ หรือเทคนิค Follicular Unit Extraction ซึ่งเป็นการปลูกผมถาวรแบบย้ายเซลล์ผมโดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว
ISHRS (International Society of Hair Restoration Surgery) หรือสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ ซึ่งถือเป็นสมาคมศัลยกรรมปลูกผมที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสมาชิกกว่า 1,000 คน จาก 70 กว่าประเทศ
ให้บริการด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ปลอดภัย ตามมาตรฐานหลักสากล
เนื่องจากเทคนิคการปลูกผมมีการศัลยกรรมที่ลงลึกไปถึงชิ้นเนื้อเซลล์รากผม ดังนั้น คลินิกปลูกผมจึงต้องมีความปลอดภัย สะอาด ปลอดเชื้อ ได้รับมาตรฐานตามหลักสากลของกระทรวงสาธารณสุข เครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีต่าง ๆ ต้องมีคุณภาพและผ่านการฆ่าเชื้ออย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเจาะและหัวเจาะ ปากกาปลูกผม (Implanter Pen) กล้องจุลทรรศน์สำหรับทำ Micrograft ซึ่งเป็นการใช้กล้องจุลทรรศน์มาช่วยตกแต่ง หรือแบ่งกอเส้นผมลอกเลียนแบบธรรมชาติ (Microscopic dissection) ตลอดจนน้ำยาแช่กราฟท์ (Graft Holding Solution) เพื่อคงสภาพของเซลล์รากผมที่ขาดออกซิเจนและเลือด มาเลี้ยงระหว่างรอกระบวนการปลูกผม ก็ต้องมีคุณภาพที่ดีที่สุด
มีบริการปลูกผมให้เลือกหลากหลายเทคนิค
เพราะคนไข้แต่ละคนอาจเหมาะกับเทคนิคการปลูกผมไม่เหมือนกัน ดังนั้น คลินิกปลูกผมที่มีบริการให้เลือกอย่างหลากหลายย่อมสร้างความพึงพอใจได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นวิธีการ ระยะเวลาเห็นผล รวมไปถึงงบประมาณของแต่ละโปรแกรม เพื่อเป็นตัวเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนไข้มากที่สุด เช่น ปลูกผมถาวร แบบ FUE Shaven, FUE Non-Shaven, DHI (Implanter), การฉีดบำรุงเส้นผมแบบ PRP (Platelet Rich Plasma) ที่รากผม, การฉีด Cell Plus บำบัด ไปจนถึงการฉายเลเซอร์บำรุงผม LLLT (Low-Level Laser Therapy)
ที่สำคัญคือ ควรเลือกคลินิกปลูกผมที่มีบริการหลังการปลูกผมที่ดีและต่อเนื่อง เพื่อติดตามความครบสมบูรณ์ของเส้นผมคนไข้อย่างใกล้ชิด ตลอดจนมีรีวิวที่น่าเชื่อถือ เห็นผลลัพธ์ของผู้ใช้จริง โดยมีรูปเปรียบเทียบภายหลังการทำ 6 เดือน 1 ปี ที่เห็นผลชัดเจนโดยไม่ผ่านการตกแต่งภาพ
เหล่านี้คือเช็กลิสต์เบื้องต้นที่สำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับบริการปลูกผมที่ดีที่สุด จากคลินิกที่เชื่อถือได้ ให้คุณมีผมสวยครบสมบูรณ์ที่มั่นใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที