Kriangkrai

ผู้เขียน : Kriangkrai

อัพเดท: 20 ก.พ. 2023 18.24 น. บทความนี้มีผู้ชม: 1646 ครั้ง

รวบรวมความรู้เกี่ยวกับการเสริมจมูกที่คุณควรรู้ ทั้งการเสริมจมูกแบบใช้ซิลิโคนทั่วไปเพื่อเสริมให้จมูกโด่งขึ้น (Close Rhinoplasty) รวมถึงการเสริมจมูกแบบโอเพ่น หรือการแก้จมูก (Open Rhinoplasty , Open Reconstruction) ใครกำลังคิดจะเสริมจมูกต้องอ่าน!


10 สัญญาณเตือนก่อนจมูกทะลุ ใครเสริมจมูกอยู่เช็คด่วน!

จมูกทะลุ เป็นผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการผ่าตัดเสริมจมูก แก้จมูก สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเลือกใช้ซิลิโคนที่ไม่เหมาะสมกับฐานจมูกเดิมของคนไข้ ใช้ซิลิโคนยาว ปลายแหลม หรือซิลิโคนหนาเกินไปจนฝืนเนื้อจมูกมาก ซิลิโคนที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน ตลอดจนการวางซิลิโคนผิดตำแหน่งจนทำให้จมูกทะลุ สำหรับสาวๆ คนไหนที่กำลังสนใจอยากเสริมจมูกหรือเสริมจมูกมาแล้ว และเกิดความกังวลใจว่าจมูกจะทะลุหรือไม่ บทความนี้รวม 10 สัญญาณเตือนก่อนจมูกทะลุ มาให้สาวๆ ได้ตรวจเช็กกัน จมูกทะลุมีอาการอย่างไร? อาการแบบไหนเข้าข่ายจมูกทะลุ

 

10 สัญญาณเตือนก่อนจมูกทะลุ ใครเสริมจมูกอยู่เช็คด่วน!

  1. รู้สึกตึงๆ ที่สันจมูกหรือปลายจมูก เมื่อใช้มือลูบที่จมูกจะรู้สึกเสียว หรือเจ็บแปล๊บ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะในเคสที่เสริมจมูกทรงยาวมากๆ หรือทรงโด่งสูง ปลายพุ่งเยอะๆ จนเกิดการฝืนเนื้อจมูก หลังการผ่าตัดจะทำให้เนื้อที่สันและปลายจมูกเริ่มตึงและบางลงเรื่อยๆ เมื่อใช้มือสัมผัสที่จมูกจะรู้สึกเสียว หรืออาจมีการเจ็บแปล๊บๆ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาการเหล่านี้จัดเป็นอาการเบื้องต้นของปัญหาจมูกทะลุ
  2. ผิวที่จมูกทั้งบริเวณสันและปลายจมูกเริ่มใส จนมองเห็นแท่งซิลิโคนได้อย่างชัดเจน เมื่อผิวที่จมูกตึงและบางลงมากๆ จะทำให้เริ่มมองเห็นทรง หรือสังเกตเห็นขาของซิลิโคนค่อนข้างชัดเจน นี่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวจมูกเริ่มบางมาก และอาจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาจมูกทะลุได้
  3. สันจมูก หรือปลายจมูกสะท้อนแสง ในผู้ที่ผ่าตัดเสริมจมูกบางเคส เมื่ออยู่กลางแจ้งหรือตอนส่องกระจก จะเห็นได้เลยว่าสันจมูกและปลายจมูกสะท้อนแสง โดยผิวจะดูมันวาวมากกว่าผิวส่วนอื่นๆ บนใบหน้า หากปล่อยทิ้งไว้นานๆ ก็อาจจะเกิดปัญหาจมูกทะลุได้เช่นเดียวกัน
  4. เนื้อที่บริเวณปลายจมูกเริ่มเปลี่ยนสี ปลายจมูกเริ่มมีสีแดง ในบางคนอาจเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด หรือมีรอยดำคล้ำ ซึ่งสามารถสังเกตเห็นความต่างของสีผิวบริเวณปลายจมูกกับผิวส่วนอื่นบนใบหน้าได้อย่างชัดเจน เป็นสัญญาณเตือนขั้นต้นว่าจมูกเริ่มมีอาการอักเสบและติดเชื้อ
  5. มีสิวขึ้นที่ปลายจมูก โดยอาจจะเป็นสิวหัวช้าง หรือสิวอักเสบขนาดใหญ่ และเป็นชนิดที่รักษาไม่หาย เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานๆ จะทำให้จมูกเกิดอาการติดเชื้อและอักเสบ จนทำให้จมูกทะลุได้
  6. จมูกดูยาว และงุ้มตกมากกว่าปกติ ปัญหาเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ในเคสที่เสริมจมูกมาเป็นเวลานาน จนเนื้อเยื่อหุ้มบริเวณซิลิโคนหนาและแข็งมากจนทำให้ซิลิโคนเคลื่อนตัวต่ำ และทำให้จมูกทะลุได้ในที่สุด
  7. จมูกผิดทรง จมูกเบี้ยว จมูกเอียง ในบางเคสที่เสริมจมูกมาเป็นเวลานานหลายปี อาจเกิดปัญหาเนื้อเยื่อหรือพังผืดรัดแกนซิลิโคนมากเกินไป จนทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าจมูกเบี้ยว จมูกเอียง เมื่อเนื้อที่จมูกโดนรั้งมากเกินไปก็อาจทำให้จมูกทะลุได้
  8. จมูกบุ๋ม เห็นรอยบุ๋มได้อย่างชัดเจน อาจเกิดได้จากตัวซิลิโคนจมูกเข้าไปยึดติดกับผิวหนังชั้นบนมากเกินไป จนทำให้มองเห็นร่องหรือขอบของซิลิโคนได้อย่างชัดเจน จมูกมีรอยบุ๋ม ดูตะปุ่มตะป่ำ โดยเฉพาะในเคสที่เสริมจมูกมาเป็นเวลานานหลายปี หากเริ่มมีอาการเหล่านี้ให้สันนิษฐานได้เลยว่าอาจมีปัญหาจมูกทะลุ และควรรีบเข้าปรึกษาแพทย์เจ้าของเคสตั้งแต่เนิ่นๆ
  9. รู้สึกเจ็บที่ปลายจมูกเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในเคสที่เพิ่งผ่าตัดเสริมจมูกมาใหม่ๆ ซึ่งปกติจะมีอาการปวดและบวมในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก และอาการเหล่านี้จะหายไปหลังผ่านไป 1 เดือน แต่หากเวลาผ่านไปนานมาก หรือทานยาที่คลินิกจ่ายมาให้จนครบแต่อาการปวดบวมที่จมูกไม่หายไป และเริ่มปวดมากขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นสัญญาณว่าจมูกเริ่มอักเสบและติดเชื้อ หากปล่อยทิ้งไว้นานอาจทำให้จมูกเน่า จมูกทะลุได้
  10. มีซิลิโคนโผล่ออกมาที่ปลายจมูก ในบางเคสอาจไม่มีอาการผิดปกติใดๆ หลังการผ่าตัด แต่เมื่อเวลาผ่านมาได้สักระยะกลับพบว่าซิลิโคนโผล่พ้นเนื้อออกมา โดยอาจจะทะลุที่บริเวณสันจมูกด้านบน หรือที่บริเวณปลายจมูก แบบนี้คืออาการจมูกทะลุอย่างชัดเจน ไม่ควรใช้นิ้วสัมผัส หรือพยายามจัดทรงซิลิโคนด้วยตนเอง เพราะอาจเสี่ยงทำให้จมูกอักเสบและติดเชื้อ จนเกิดปัญหาขั้นรุนแรงที่แก้ไขได้ยาก ควรรีบเข้าพบแพทย์เจ้าของเคสเพื่อทำการรักษาในทันที

และนี่ก็เป็น 10 สัญญาณเตือนให้รู้ก่อนจะเจอปัญหาจมูกทะลุ ที่ผู้ที่ทำจมูกทุกคนควรรู้เอาไว้ หากเริ่มสังเกตถึงความผิดปกติที่บริเวณจมูก หรือมีอาการที่เข้าข่ายใน 10 ข้อนี้ ก็ควรรีบเข้าพบแพทย์ทันที อาการจมูกทะลุหากเรารู้ตัวไว สังเกตเห็นอาการได้เร็ว ก็จะสามารถรักษาและแก้ไขปัญหาได้ง่ายกว่า แต่หากฝืนปล่อยทิ้งไว้นานๆ ปัญหาก็จะยิ่งลุกลามจนสายเกินแก้ และอาจเสี่ยงทำให้จมูกผิดรูปอย่างถาวร ที่สำคัญคือการแก้จมูกนั้นควรเลือกคลินิกแก้จมูกให้ดี เพราะโดยปกติแล้วการแก้จมูกจะแก้ไขโดยใช้เทคนิคโอเพ่น (Open Rhinoplasty) ซึ่งจะมีวิธีการที่ซับซ้อน หากเลือกคลินิกไม่ดีอาจต้องเสียเวลามาแก้ใหม่หลายรอบ เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลาโดยใช่เหตุ

 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก: https://vogue.co.th/beauty/beauty-treatment-rhinoplasty-silicone-coming-out


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที