เงินด่วน ที่ไหนดี

ผู้เขียน : เงินด่วน ที่ไหนดี

อัพเดท: 28 ก.พ. 2023 04.56 น. บทความนี้มีผู้ชม: 625 ครั้ง

ประกันภัย


เลือก ประกันภัยรถยนต์ อย่างไร ให้ตอบโจทย์สไตล์การขับขี่ของคุณ

ถึงเวลาแล้วหรือยังกับการต่อภาษีรถยนต์ประจำปี? ถ้าคุณที่เป็นเจ้าของรถยนต์ที่ต้องต่อ พ.ร.บ. ซึ่งเป็นประกันรถยนต์ภาคบังคับคิดว่าประกัน พ.ร.บ. เพียงพอแล้ว คุณกำลังคิดผิด เพราะพ.ร.บ.นั้นให้ความคุ้มครองแค่ตัวบุคคลหากเกิดอุบัติเหตุ หากต้องการความคุ้มครองที่มากขึ้นสำหรับทั้งคนขับขี่และรถยนต์ โดยเฉพาะเจ้าของรถใหม่ป้ายแดงหรือคนเพิ่งหัดขับรถ การทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

มาทำความรู้จักและเข้าใจในประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจว่ามันคืออะไร ดีอย่างไร พร้อมประเภทของประกันชั้นต่างๆ ความคุ้มครองที่คุณเลือกเองได้ รวมทั้งค่าเสียหายส่วนแรก และขั้นตอนการเคลม เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกประกันรถยนต์ แบบไหนกันที่จะตอบโจทย์ ตรงสไตล์การขับขี่ของคุณมากที่สุดด้วย 10 แหล่งเช็คประกันรถยนต์ที่ไหนดี

ประกันภัยรถยนต์

 

ประกันภัยรถยนต์ คือ

ประกันภัยรถยนต์ คือ ประกันวินาศภัยที่เกิดจากการใช้งานรถยนต์ ประกันนี้คุ้มครองผู้เอาประกันภัยและบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องทั้งร่างกายและทรัพย์สิน การทำประกันเป็นขั้นตอนที่ผู้เอาประกันภัยได้จัดการความเสี่ยงที่เกิดจากการใช้รถโดยยกให้ความเสี่ยงนั้นไปที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ ผู้เอาประกันต้องจ่ายเบี้ยประกันรถยนต์เป็นจำนวนที่ขึ้นอยู่กับทุนประกัน หรืออายุ ยี่ห้อ และรุ่นของรถ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุผู้เอาประกันก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทน (การชดใช้ค่าเสียหาย) ตามที่เกิดขึ้นจริงๆ หรือไม่เกินวงเงินประกันภัยที่เขียนไว้ในเล่มกรมธรรม์

ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ภาคสมัครใจให้ความคุ้มครองแตกต่างกันออกไปตามแต่ละประกันแต่ละประเภท แบ่งเป็นประกันภัยรถยนต์ชั้น 1, ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2/2+, และประกันภัยรถยนต์ชั้น 3/3+ ซึ่งให้ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอกทั้งชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน รวมถึงความเสียหายที่เกิดต่อตัวรถยนต์ นอกจากนี้ยังให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมอย่างประกันอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาล และการประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญาอีกด้วย

 

แหล่งเช็คราคา ประกันภัยรถยนต์ ที่ไหนดี

เราขอแนะนำ 10 แหล่งเช็คราคาประกันรถยนต์ออนไลน์ ที่ไหนดีในปี 2566 รวบรวมประกันแผนต่างๆ จากบริษัทประกันชั้นนำทั่วไทย ให้คุณได้เปรียบเทียบในแง่ต่างๆ ได้อย่างลงตัว

 

เพื่อนแท้ ประกันภัย

เช็คราคาเบี้ยประกันภัยรถยนต์กับเพื่อนแท้ประกันภัย ดูแลทั้งคุณและรถด้วยใจ ให้บริการประกันภัยพร้อมคุ้มครองทันทีหลังทำสัญญาเสร็จ เราร่วมมือกับบริษัทประกันภัยชั้นนำกว่า 10 แห่ง พร้อมประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2,2+ และชั้น 3,3+ ให้คุณได้เลือกตามความต้องการ พิเศษผ่อนนาน 0% ถึง 12 เดือน

TIP Insure

เช็คราคาเบี้ยประกันภัย และซื้อประกันออนไลน์จากทิพยประกันภัยที่เป็นที่รู้จักอันดับ 1 คุ้มครองครอบคลุมทุกความต้องการ เพียงเลือกแผนประกันรถยนต์ตามที่ต้องการ พร้อมระบุปีที่จดทะเบียน ยี่ห้อรถ รุ่น แล้วกดเช็คราคา ระบบจะแสดงแพ็คเกจของประกันต่างต่างๆ ให้ได้เลือกสรร

Priceza Money

เปรียบเทียบราคาประกันภัยรถยนต์ผ่าน Priceza ให้คุณเก็บข้อมูลได้ง่ายกว่าค้นหาจากที่อื่นๆ ไม่เน้นขายประกัน แต่เน้นให้คุณสามารถเทียบได้หลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นราคา ความคุ้มครอง และโปรโมโมชั่นหลากหลาย ณ ขณะนั้นจากบริษัทประกันภัยชั้นนำต่างๆ

PrakunRod

เช็คราคาประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ PrakunRod (ประกันรถ) ช่วยให้คุณประหยัดค่าประกันภัย มีข้อมูลครบ เรียกดูได้เลยรู้ทุกบริษัทเพียงเช็คเบี้ยแค่ครั้งเดียว ไม่ต้องโทรสอบถาม เพียงเลือกประกันภัยตามที่คุณสนใจ ซื้อ จ่ายแบบไม่ใช้บัตรเครดิต ผ่อนสบาย 0% นานถึง 10 เดือน

EasyCompare

หาราคาที่ดีที่สุดเมื่อต้องการซื้อประกันรถยนต์ผ่านเว็บไซต์ EasyCompare ให้คุณสามารถเทียบข้อมูลของประกันรถยนต์ได้จากบ.ประกันภัยชั้นนำของประเทศไทย เช็คได้ไวใน 10 วินาที เพียงกรอกข้อมูลของปีรถยนต์ ยี่ห้อ รุ่น และช่องทางติดต่อ จากนั้นก็กดเช็คเบี้ยได้เลย

TQM

เช็กราคาประกันภัยรถยนต์กับ TQM ไม่ต้องไปรวบรวมหาข้อมูลจากหลายที่ เพราะที่นี่มีข้อมูลครอบคลุมจากทุกบริษัทอันดับต้นๆ ของประเทศไทย พร้อมศูนย์ประสานงานกว่า 90 สาขาทั่วประเทศและบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชม. ซื้อประกันผ่านเว็บผ่อนสบายๆ 0% พร้อมเครดิตเงินคืนสูงสุด 500 บาท

Mr.Kumka

ค้นหาราคาประกันรถยนต์ที่ดีที่สุดจาก Mr. Kumka พร้อมเปรียบเทียบเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2,2+ และชั้น 3,3+ จากบริษัทประกันชั้นนำทั่วไทย ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วยราคาจริงที่คุณเห็นได้ด้วยตา พร้อมฟังก์ชันเปรียบเทียบรวดเร็ว และง่ายดาย และความคุ้มครองที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ไม่ซับซ้อนหรือยุ่งยาก

direct asia

ขับขี่อย่างปลอดภัยและอุ่นใจเริ่มจากการทำประกันภัยรถยนต์ เช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ที่ได้ราคาดีจาก direct asia เพื่อเปรียบเทียบประกันชั้นต่างๆ ให้ตอบโจทย์กับสไตล์การขับขี่ของคุณมากที่สุด พิเศษผ่อน 0% 10 เดือนทั้งบัตรเดบิตและบัตรเครดิต และเลือกศูนย์ซ่อมและอู่ในเครือได้ ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม.

Roojai

เช็คราคาประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ เพื่อหาเบี้ยประหยัดและคุ้มครองสูงสุดผ่านรู้ใจที่สามารถปรับแต่งแผนเองได้ตามความต้องการของคุณ ให้คุณประหยัดค่าประกันมากถึง 30% พร้อมการให้บริการที่ดีที่สุด ดูแลกรมธรรม์และส่งเคลมออนไลน์ได้พร้อมบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชม.

Viriyah Insurance

เช็คราคาประกันภัยรถยนต์กับวิริยะประกันภัยอันดับหนึ่งที่ให้บริการมานานกว่า 35 ปี เช็คเบี้ยประกันและรับบริการพร้อมทั้งคำปรึกษาด้านประกันภัยรถยนต์ได้อย่างรวดเร็ว อุ่นใจจากทีมงานมืออาชีพ มีศูนย์บริการมากกว่า 72 จังหวัด และศูนย์ซ่อมมากกว่า 500 แห่งทั่วไทย

 

ข้อดีของการเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ ออนไลน์

เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ออนไลน์ดีอย่างไร หมดยุคของการเช็คประกันผ่านตัวแทน โทรศัพท์ หรือเดินทางไปที่สำนักงาน นั่งอยู่บ้านคุณก็สามารถรวบรวมข้อมูลมาเปรียบเทียบเองได้ อ่าน 5 ข้อดีของการเช็คประกันที่จะทำให้ชีวิตคุณสะดวกขึ้น ตามนี้

เปรียบเทียบเบี้ยประกันรถยนต์ออนไลน์สะดวก

เป็นธรรมดาที่จะเปรียบเทียบสินค้าก่อนซื้อจริงเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ของดีโดนใจมากที่สุด ประกันภัยนถยนต์ก็เช่นกัน มีมากมายเป็นหลายสิบเจ้าภายในตลาด พร้อมกับประเภทต่างๆ ที่คุณอาจตัดสินใจเลือกไม่ถูกจนต้องหันมานั่งเทียบเคียงความคุ้มครองโปรโมชั่นต่างๆ ว่าแบบไหนจะให้ความคุ้มครองมากที่สุด และเจ้าไหนกันที่จะให้บริการหลังการขายได้ดีที่สุด การเทียบเบี้ยประกันภัยเดี๋ยวนี้ทำได้สะดวกมากเพียงเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ที่ยกตัวอย่างมาก่อนหน้า เพียงกรอกรายละเอียดไปไม่กี่อย่างระบบก็จะแสดงผลถึงข้อมูลประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด

หาข้อมูลประกันรถยนต์ง่ายและปลอดภัย 

เมื่อดูเปรียบเทียบของประกันประเภทต่างๆ แล้ว ข้อมูลของประกันต่างๆ คุณก็สามารถค้นหาได้บนเว็บไซต์ ทั้งเบี้ยประกันภัย และโบรกเกอร์ประกันภัย นอกจากนั้นแล้ว คุณยังสามารถออกแบบรูปแบบความคุ้มครองของประกันได้อย่างตามใจ เช่นปรับแต่งความคุ้มครองต่างๆ ในส่วน ค่ารักษาพยาบาล หรือ ประกันอุบัติเหตุ รวมถึงการเลือกอู่ซ่อมรถได้ตามที่คุณสะดวก

จะที่ไหน เวลาไหนก็ซื้อประกันรถยนต์ได้

แน่นอนว่าการซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์สามารถทำได้อย่างสะดวกสบายมากๆ แบบที่คุณไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงสำนักงาน เพราะคุณจะเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ออนไลน์พร้อมทั้งสอบถามขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลาผ่านระบบบนเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นระบบส่งข้อความถาม อีเมล หรือโทรศัพท์ เท่านี้คุณก็ซื้อประกันได้อย่างสบายใจพร้อมกับจ่ายเบี้ยประกันตามงบที่ตั้งไว้

รับโปรโมชันพิเศษ ผ่อน 0% นาน 12 เดือน

เบี้ยประกันภัยมีราคาสูงมากขึ้นอยู่กับความคุ้มครอง โดยเฉพาะเบี้ยประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่ตอนนี้คุณสามารถผ่อนเบี้ยประกันได้นานสูงสุดทั้งผ่านหรือไม่ผ่านบัตรเครดิตแบบ 0% กับ เพื่อนแท้ ประกันภัย นานถึง 12 เดือน คุ้มครองทันทีตั้งแต่งวดแรก พร้อมให้คุณขับขี่รถยนต์ได้อย่างอุ่นใจ ปลอดภัยบนท้องถนน

สะดวกรอรับจัดส่งกรมธรรม์ถึงที่บ้าน

นอกจากจะไม่ต้องออกไปซื้อประกันถึงสำนักงานแล้ว คุณยังรอรับกรมธรรม์ได้จากที่บ้านแบบง่ายๆ โดยกรมธรรม์ของคุณจะถูกจัดส่งแบบไปรษณีย์ด่วนพิเศษถึงมือคุณ ซึ่งเมื่อได้รับแล้วก็อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ว่าตรงกับที่คุณตกลงรายละเอียดไว้กับเจ้าหน้าที่หรือไม่ หากพบเห็นปัญหาหรือตรวจเจอข้อผิดพลาดให้รีบติดต่อกับบริษัทประกันภัยทันที

 

ประเภทของประกันภัยรถยนต์

ประกันภัยรถยนต์มีอะไรบ้าง แต่ละชั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร เราได้รวบรวมข้อมูลของประกันชั้นต่างๆ ที่จะช่วยให้คุณทำความรู้จักและใช้ประกอบตัดสินใจก่อนซื้อ จะประกันภัยรถยนต์ชั้น 1, 2/2+, หรือ 3/3+ ก็อ่านได้เลย โดยทั้งหมดมีดังนี้

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุดแต่ไม่ทั้งหมด และเป็นที่นิยมมาก โดยประกันชั้น 1 คุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกทั้งทรัพย์สินและบุคคล อีกทั้งคุ้มครองตัวรถเอาประกันภัยในกรณีที่สูญหาย เสียหายจากไฟไหม้ ชนรถกับรถคันอื่นๆ และชนกับสิ่งของ นอกจากนี้ยังคุ้มครองรถที่เสียหายจากน้ำท่วม แผ่นดินไหว ลูกเห็บ ลมพายุ รวมถึงอย่างอื่นที่เป็นอุบัติเหตุส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาล วงเงินประกันตัวผู้ขับขี่ และภัยที่เกิดจากก่อการร้ายอีกด้วย

ซึ่งพอมาพิจารณาดูดีแล้ว ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 นับว่าเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองเต็มที่มากที่สุด เหมาะสมกับผู้เอาประกันภัยที่ใช้รถป้ายแดงและเป็นเจ้าของรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 - 10 ปี ผู้ขับขี่ที่ควรทำประกันชนิดนี้ยังแบ่งเป็น ผู้ขับขี่ที่ยังไม่ชำนาญหรือเพิ่งหัดขับรถ และผู้ขับขี่ที่ใช้รถอยู่เป็นประจำ ใช้งานรถหนัก หรือต้องวิ่งทางไกลบ่อย

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+

ในส่วนของประกันรถยนต์ชั้น 2+ นี้ก็จะให้ความคุ้มครองที่คล้ายกับประกันรถยนต์ชั้น 1 โดยที่คุณจะได้จ่ายเบี้ยประกันภัยที่ถูกกว่า แต่ประกันรถยนต์ชั้น 2 จะคุ้มครองเพียงความเสียหายที่เกิดจากการชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น ไม่รวมถึงคุ้มครองในแบบไม่มีคู่กรณีหรือในเหตุการณ์ที่ระบุคู่กรณีไม่ได้ อย่างไรก็ตามก็ยังคุ้มครองรถที่สูญหาย เสียหายจากไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ลูกเห็บ และลมพายุ รวมถึงมีประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาล วงเงินประกันตัวผู้ขับขี่ และคุ้มครองภัยจากก่อการร้ายอีกด้วย

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 เหมาะสำหรับคนที่มีงบจำกัด น้อยกว่าประกันชั้น 1 โดยรวมถึงคนขับขี่ที่ต้องใช้รถอย่างสม่ำเสมอ หรืออาศัยและทำงานในพื้นที่เสี่ยงกับภัยธรรมชาติ ต้องจอดรถในที่เสี่ยง ไม่ว่าจะริมรั้ว หรือที่คับแคบ ถ้าคุณมีรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 5+ ปีขึ้นไปก็ควรทำประกันตัวนี้

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 ให้ความคุ้มครองทั้งตัวบุคคลและทรัพย์สินจากการขับขี่รถยนต์บนท้องถนน คุ้มครองตัวรถเอาประกันภัยในกรณีที่รถของคุณสูญหายหรือไฟไหม้ แต่ไม่คุ้มครองตัวรถในกรณีที่เกิดการชน เจอน้ำท่วม หรือจากแผ่นดินไหว ลูกเห็บ และลมพายุ นอกจากนั้นยังมีการคุ้มครองเพิ่มเติมในกรณีค่ารักษาพยาบาล อุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันตัวผู้ขับขี่ รวมถึงภัยก่อการร้ายอีกด้วย

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+

ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ให้ความคุ้มครองทั้งทรัพย์สินและบุคคล พร้อมทั้งคุ้มครองตัวรถเอาประกันที่เกิดจากการชนกับยานพาหนะทางบกและต้องมีคู่กรณีเท่านั้น บางบริษัทประกันภัยอาจมีแผนประกัน 3+ ที่คุ้มครองในกรณีน้ำท่วมอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการคุ้มครองภัยพิเศษอย่างประกันอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาล และมีวงเงินประกันตัวผู้ขับขี่อีกด้วย

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ นี้เหมาะกับคนขับที่ชำนาญและมั่นใจกับการขับขี่ของตนเอง หรือกับเจ้าของรถเอาประกันที่ใช้รถค่อนข้างเก่าโดยมีอายุการใช้งานเกิน 7 ปีขึ้นไป รวมถึงควรทำประกันชนิดนี้กับรถที่ใช้งานอยู่เป็นประจำ เพราะการทำประกันทำให้คุณนึกถึงอยู่ตลอดเวลาว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอด ถ้าทำไว้จะช่วยลดความเสี่ยงลง

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ให้ความคุ้มครองครอบคลุมน้อยมาก เปรียบเทียบดูแล้วไม่คุ้มค่า และไม่เป็นที่นิยมสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ คุ้มครองเพียงบุคคลเท่านั้นไม่รวมถึงตัวรถ นั่นหมายความว่าไม่คุ้มครองรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ลูกเห็บ และลมพายุ เราจึงขอแนะนำว่าให้คุณเพิ่มเบี้ยประกันภัยแล้วตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ชั้น 3+ หรือประกันรถยนต์ชั้น 2+ เพื่อรับความคุ้มครองจากประกันที่มากกว่า เพื่อให้คุณได้ใช้รถอย่างอุ่นใจมากยิ่งขึ้น

ประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.)

พ.ร.บ. เป็นประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับที่ผู้ขับขี่ต้องทำ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ซึ่งต้องทำตอนต่อภาษีรถยนต์ประจำปี โดยพ.ร.บ.รถยนต์นี้จะคุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาลทั้งคนขับ ผู้โดยสาร รวมถึงคู่กรณี และคุณควรนึกเสมอว่าประกัน พ.ร.บ. ไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถเอาประกัน หากเจ้าของรถไม่ได้ทำประกันภัยภาคบังคับก็จะโทษปรับตามกฎหมายไม่เกิน 10,000 บาท

 

ความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท

เลือกความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ให้ตรงใจคุณ หาข้อมูลประกันภัยรถยนต์แต่ละรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2/2+ หรือ ชั้น 3/3+ เราชวนคุณมาดูว่าการคุ้มครองแบบไหนบ้างที่ตอบกับความต้องการในการใช้รถยนต์ของคุณ ดังนี้

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3

ประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.)

ประกันภัยภาคบังคับเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จะให้ความคุ้มครองผู้ประสบภัยเท่านั้น ไม่รวมถึงความคุ้มครองที่เกิดกับตัวรถยนต์จากความเสียหายจากภัยธรรมชาติ และความเสียหายต่อรถยนต์เนื่องจากสูญหายหรือไฟไหม้ อีกทั้งยังกำหนดวงเงินตามกฎหมาย เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ซึ่งแบ่งเป็นดังนี้

  1. ค่ารักษาพยาบาล ซึ่งมีวงเงินคุ้มครองไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน

  2. กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร ซึ่งมีวงเงินคุ้มครองไม่เกิน 35,000 บาทต่อคน

  1. ค่ารักษาพยาบาล มีวงเงินคุ้มครองไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน

  2. กรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวร มีวงเงินคุ้มครองไม่เกิน 300,000 บาทต่อคน

  1. นิ้วขาด 1 ข้อ ไม่เกิน 200,000 บาทต่อคน

  2. อวัยวะ 1 ส่วน ไม่เกิน 250,000 บาทต่อคน

  3. อวัยวะ 2 ส่วน ไม่เกิน 300,000 บาทต่อคน

 

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เหมาะกับใคร? 

ซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เพื่อรับความคุ้มครองสูงสุด แต่คุ้มครองไม่หมดทุกอย่าง มาอ่าน 5 กรณีกันดูว่าประกันชั้น 1 เหมาะกับใครบ้าง และผู้ขับขี่แบบไหนที่ควรทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1

ผู้ขับขี่หัดขับรถมือใหม่

แน่นอนว่าผู้ขับขี่มือใหม่ย่อมมีโอกาสประมาทจนทำให้เกิดความเสียหายบนตัวรถมากกว่าคนขับขี่ที่ชำนาญแล้ว เช่น การชนแบบทั้งที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จึงตอบโจทย์พร้อมมอบความคุ้มครองให้กับตัวผู้ขับขี่ ตัวรถ และบุคคลภายนอกได้อย่างสูงสุด

ผู้ขับขี่ที่ออกรถใหม่ป้ายแดง

ออกรถป้ายแดงโดยทั่วไปผู้ซื้อก็ได้ส่วนลดรายการอื่นๆ มามากมาย นั่นรวมถึงประกันภัยภัยรถยนต์ชั้น 1 มาด้วย เพื่อคุ้มครองรถคันใหม่จากความเสียหายต่างๆ ให้ครอบคลุม แม้จะคุ้มครองไม่หมดทุกอย่าง (ทำความเข้าใจกับเงื่อนไขก่อนซื้อทุกครั้ง) แต่มีประกันไว้ก็จะทำให้คุณขับขี่รถยนต์ได้อย่างปลอดภัย อุ่นใจบนท้องถนน

รถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี

โดยทั่วไปรถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 10 ปีสามารถทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ได้เพื่อความคุ้มครองสูงสุดแก่รถที่คุณรัก ในกรณีที่คุณต้องการทำประกันประเภทนี้กับรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 10 ปีอาจจะหายากหน่อย ยกเว้นว่าคุณจะต่อประกันชั้น 1 กับเจ้าเดิมที่ซื้อติดกันมานานหลายปี คุณก็จะสามารถซื้อประกันประเภทนี้ได้เช่นกัน

ผู้ขับขี่ที่ใช้รถยนต์เดินทางทุกวัน

ผู้ขับขี่ที่ใช้รถยนต์อยู่ทุกวัน ขับขี่ไปไหนมาไหนทุกที่ไม่ว่าจะจากบ้านไปที่ทำงาน จอดรถในที่ๆ เสี่ยงได้รับความเสียหาย หรือไปท่องเที่ยวพักร้อนที่ต่างจังหวัด คุณก็ควรพิจารณาทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ไว้ หากกังวลว่าเบี้ยประกันภัยชั้น 1 จะสูงเกินไปก็สามารถปรึกษาตัวแทน หรือโบรกเกอร์ออนไลน์ขายประกันเพื่อมองหาหลักเกณฑ์ที่คุณถูกใจมากที่สุด

ผู้ขับขี่ที่ต้องการความคุ้มครองสูงสุด

รถที่ใช้งานอยู่ทุกวันถ้าอยากได้ความคุ้มครองครบ ต้องทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ารถยนต์ของคุณจะได้ความคุ้มครองทุกอย่าง ยังมีบางกรณีที่ประกันชั้น 1 ปฏิเสธไม่คุ้มครองอยู่เช่นกัน เช่น คุณขับขี่รถยนต์ในขณะที่เมาอยู่โดยมีปริมาณแอลกอฮอลล์ในเลือดเกิน 150 มิลลิกรัม เป็นต้น

 

ค่าเสียหายส่วนแรกคืออะไร?

คุณอาจมีข้อสงสัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถยนต์บนท้องถนน เช่น ซื้อประกันชั้น 1 ไว้แล้วแต่ทำไมยังต้องจ่ายเงินไปก่อนอีก ค่าใช้จ่ายตรงนี้มันคืออะไรกันแน่ คำตอบคือ มันเป็นค่าใช้จ่ายที่เรียกว่าค่าเสียหายส่วนแรก ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

ค่าเสียหายส่วนแรกแบบบังคับ (Excess)

ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ คือ ค่าใช้จ่ายที่บังคับเก็บโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกันภัย เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เอาประกันภัยแจ้งเคลมโดยที่ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุจริง โดยทั่วไปคุณต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับประมาณ 1,000 บาท

ค่าเสียหายส่วนแรกแบบสมัครใจ (Deductible)

ค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ คือ ค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันภัยยินยอมจ่ายโดยสมัครใจในทุกครั้งที่มีการเคลมเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยค่าเสียหายส่วนแรกแบบสมัครใจมีขึ้นมาเพื่อทำให้คุณประหยัดเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายในขั้นตอนซื้อประกัน และเป็นการช่วยส่งเสริมให้คนใช้รถขับขี่อย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้น

 

ทำไมต้องซื้อประกันรถยนต์กับเพื่อนแท้

ซื้อประกันรถยนต์กับเพื่อนแท้ผ่านโบรกเกอร์มืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญในด้านประกันภัยรถยนต์โดยเฉพาะ จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่คุณในขั้นตอนที่ยุ่งยากและเสนอข้อมูลให้แก่คุณอย่างหลากหลาย เพื่อนแท้จะช่วยเหลือให้คุณสามารถ

  1. วางแผนประกันภัยให้คุณสามารถเลือกซื้อประกันได้ในราคาที่เหมาะสม ตอบโจทย์กับทุกความต้องการ โดยที่คุณไม่ต้องเสียเบี้ยประกันที่แพงมากจนเกินไป

  2. ให้คุณได้เห็นตัวเลือกที่มากมายจากบริษัทประกันภัยรถยนต์ชั้นนำกว่า 10 แห่งทั่วประเทศไทย ให้คุณได้เลือกประกันที่มีความคุ้มครองโดนใจมากที่สุด และตรงกับสไตล์การขับขี่

  3. รับโปรโมชั่นและข้อเสนออื่นๆ ได้อย่างทันท่วงที พร้อมรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการซื้อประกันกับเพื่อนแท้

  4. สะดวก และดำเนินการอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งช่วยเหลือไม่ให้การซื้อประกันของคุณเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ หรือยุ่งยากอีกต่อไป

  5. เรายังช่วยเหลือคุณในทุกขั้นตอน หากคุณพบเจอปัญหาก็สามารถสอบถามหรือปรึกษาได้กับโบรกเกอร์ที่มีคุณภาพจากเพื่อนแท้

 

วิธีการซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่อนได้ กับ เพื่อนแท้ มีขั้นตอนดังนี้

ซื้อประกันภัยรถยนต์กับเพื่อนแท้ประกันภัย สามารถทำได้หลากหลายช่องทาง ทั้งที่สาขา เพื่อนแท้เงินด่วน ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือติดต่อเพื่อนแท้อินชัวรันซ์โทร. 02-114-3386 หรือ 02-114-8988

  1. ติดต่อเพื่อนแท้ประกันภัย แล้วเลือกแผนประกันภัยที่คุณต้องการ

  2. ระบุข้อมูลของคุณและรถยนต์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่คำนวณเบี้ยประกันภัย โดยข้อมูลเหล่านั้นควรประกอบไปด้วย

    • ข้อมูลของผู้ขับขี่

    • ข้อมูลของรถยนต์

    • ลักษณะการใช้งาน

  3. ข้อมูลอื่นๆ ตามที่เจ้าหน้าที่หรือคุณประสงค์จะแจ้ง

  4. จากนั้นให้คุณปรับแต่งแผนของความคุ้มครองตามที่คุณต้องการ โดยเราจะมีเจ้าหน้าให้ความช่วยเหลือในทุกขั้นตอนเพื่อตอบข้อสงสัยและความต้องการ

  5. สั่งซื้อกรมธรรม์ พร้อมทั้งชำระเงิน

  6. รอรับเล่มกรมธรรม์ภายในเวลา 7 วันทำการ

 

ช่องทางการแจ้งอุบัติเหตุ

เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันจากการใช้รถยนต์ คุณต้องแจ้งหรือปฏิบัติตัวอย่างไร เราได้รวบรวมขั้นตอนที่คุณควรทำเมื่อเกิดความเสียหายจากการใช้รถ ดังนี้

  1. แจ้งบริษัทประกันให้ทราบทันทีเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น

  2. หากมีผู้บาดเจ็บให้นำส่งสถานพยาบาลทันที พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ให้รับทราบ

  3. ถ่ายรูปลักษณะการเกิดเหตุความเสียหายเก็บไว้ (ถ้าทำได้) แล้วแจ้งรายละเอียดต่อไปนี้ให้บริษัทประกันทราบ

    • เลขทะเบียนและยี่ห้อรถยนต์

    • หมายเลขกรมธรรม์

    • เบอร์โทรศัพท์ของผู้ขับขี่ และ/หรือผู้แจ้ง

    • ลักษณะการเกิดเหตุ พร้อมสถานที่เกิดเหตุ และที่นัดหมาย

  4. ไม่เคลื่อนย้ายรถยนต์ที่เกิดเหตุจนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้ง จากนั้นให้ตำรวจทำแผนที่เกิดเหตุพร้อมลงลายมือชื่อผู้เกี่ยวข้อง

  5. รอเจ้าหน้าที่สำรวจภัย ณ จุดที่นัดหมาย จากนั้นตรวจสอบความรับผิดตามกฎหมาย และความรับผิดชอบตามกรมธรรม์

  6. รอรับใบรับแจ้งเหตุ หรือใบตรวจสอบรายการความเสียหาย หรือหลักฐานอื่นๆ แล้วส่งให้แก่บริษัทประกัน

  7. รอบริษัทประกันแจ้งการพิจารณาหลักฐานติดต่อกลับประมาณ 1 - 2 สัปดาห์

 

ขั้นตอนการเคลมประกันภัยรถยนต์

เกิดอุบัติเหตุไปแล้วต้องตั้งสติ และอย่าลืมเก็บหลักฐานต่างๆ ก่อนโทรไปยังบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่คุณทำด้วยไว้ เพื่อเรียกเคลมประกันภัยรถยนต์ มาทำความรู้จักกับการเคลมทั้ง 2 ประเภทว่าแตกต่างกันอย่างไร และมีขั้นตอนอะไรบ้างที่คุณต้องทำตาม ดังนี้

เคลมแห้ง

ถ้าคุณทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แล้วเกิดอุบัติเหตุแบบไม่รุนแรง เช่น การเฉี่ยวชนต่างๆ ก็สามารถขอเคลมแห้งได้ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไปแล้วประมาณ 2 - 3 วัน โดยควรบันทึกรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไว้ เช่น เกิดขึ้นจากอะไร ที่ไหน เวลาเท่าไร และชนกับอะไร จากนั้นให้เคลมตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. เก็บภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมเวลา และสถานที่ที่เกิดเหตุให้ชัดเจน

  2. ติดต่อบริษัทประกัน พร้อมนัดให้เจ้าหน้าเข้ามาตรวจสอบความเสียหาย

  3. รอใบประเมินความเสียหายจากบริษัท จากนั้นให้นำใบนั้นไปเคลมที่อู่ในเครือ

เคลมสด

การเคลมสดเป็นการเคลมประกันภัยรถยนต์ ณ ที่เกิดเหตุ โดยบริษัทจะส่งเจ้าหน้าที่เพื่อมาตรวจสอบ และประเมินความเสียหายในเบื้องต้น แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ

เคลมสดแบบมีคู่กรณี

เมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบชนกันเอง ฝ่ายที่ประเมินแล้วว่าผิดจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ (Deductible) ให้กับคู่กรณีตามที่ตกลงกันไว้กับบริษัทประกัน

เคลมสดแบบไม่มีคู่กรณี

เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่รถยนต์ชนเข้ากับสิ่งของจนเกิดความเสียหายต่อตัวรถยนต์ การเคลมสดผู้เอาประกันภัยต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับก่อน (Excess) เสมอ

ในขั้นตอนของการเคลมสด คุณสามารถทำได้ดังนี้

  1. โทรแจ้งบริษัทประกันภัยรถยนต์ พร้อมแจ้งหมายเลขกรมธรรม์ และรายละเอียดของอุบัติเหตุ

  2. เตรียมเอกสารยืนยันตัวตนเช่น ใบขับขี่ เล่มทะเบียนรถ และกรมธรรม์เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงจุดนัดหมาย

  3. หากมีคู่กรณีต้องรอการตรวจสอบว่าผู้ใดเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด โดยฝ่ายผิดต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก

  4. รอการตรวจสอบและประเมินความเสียหายจากเจ้าหน้าที่ เพื่อนำเอาใบประเมินไปเคลมกับอู่ในเครือ

 

ใบเคลมที่พนักงานเคลมออกให้ มีอายุกี่ปี 

ใบเคลมที่พนักงานเคลมออกให้ คือ ใบเคลมประกันรถ หรือ ใบรับรองความเสียหายของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากบริษัทประกันภัยรถยนต์ เมื่อได้แล้วให้คุณนำเอาใบเคลมนี้ไปยืนยันกับศูนย์บริการซ่อมรถ หรืออู่ในเครือของบริษัทประกัน โดยบริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น

ใบเคลมประกันรถโดยทั่วไปมีอายุ 2 ปี นับจากวันเกิดเหตุที่พนักงานออกให้ คุณสามารถนำเอาใบเคลมนี้ไปยืนยันกับอู่ในเครือได้เลยภายใน 2 ปีนี้ แต่จะเป็นการดีกว่าถ้าคุณสามารถนำรถไปส่งเข้าศูนย์ซ่อมภายใน 15 วันนับจากวันที่เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นฝ่ายถูกเพื่อที่จะไม่ได้เสียสิทธิเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ โดยรถยนต์ส่วนบุคคลแบบไม่เกิน 7 ที่นั่งจะได้ไม่ต่ำกว่า 500 บาทต่อวันตามข้อกำหนดของ คปภ.

 

เมื่อรถยนต์เกิดอุบัติเหตุ แต่ไม่มีฝ่ายใดยอมรับผิด จะทำอย่างไร?

ถ้าหลังจากเจรจาจากเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยทั้ง 2 ฝ่ายแล้วยังไม่ได้ข้อสรุป ไม่มีการตกลงยอมความ หรือไม่มีฝ่ายใดยอมรับผิด อย่าเพิ่งขยับรถ และอย่าเพิ่งลงชื่อในเอกสารใดๆ แต่ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุ จากนั้นรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ และทำเครื่องหมายบริเวณที่เกิดเหตุการณ์ก่อน เมื่อเจ้าหน้าตำรวจสำรวจ ตรวจสอบได้ผลสรุปเสร็จแล้ว ก็ให้คุณแจ้งบริษัทประกันภัยต่อไป

 

วิธีการขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลกรมธรรม์

หลังจากที่คุณได้กรมธรรม์มาแล้วควรทำการตรวจสอบข้อมูลในใบกรมธรรม์ให้ถี่ถ้วนว่าข้อมูลเหล่านั้นครบถ้วนและถูกต้องสมบูรณ์ เช่น 

หากพบว่าข้อมูลของคุณผิดพลาดหรือมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เช่น เปลี่ยนชื่อในกรมธรรม์ หรือเปลี่ยนชื่อผู้เอาผลประโยชน์ คุณสามารถแจ้งได้ที่บริษัทประกันภัยเพื่อแก้ไขข้อมูลในสลักหลังกรมธรรม์รถยนต์ที่เป็นเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ (สลักหลังกรมธรรม์จะเก็บไว้ที่บริษัทประกัน 1 ฉบับ และกับผู้เอาประกันอีก 1 ฉบับ) หลังจากที่คุณยื่นเรื่องขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลก็อย่าลืมเตรียมเอกสารเพื่อนำข้อมูลไปยืนยันถึงรายละเอียดที่เปลี่ยนแปลง โดยให้สอบถามโดยตรงกับบริษัทว่าคุณต้องส่งเอกสารอะไรไปบ้าง

 

เงื่อนไขการยกเลิกกรมธรรม์

สัญญาประกันภัยจะสิ้นผลบังคับเมื่อคุณยกเลิกกรมธรรม์ โดยทั่วไปแล้ว กรมธรรม์รถยนต์จะสิ้นสุดจาก 2 กรณี ซึ่งประกอบไปด้วย ประกันสิ้นผลตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ และ สิ้นสุดจากการบอกเลิกกรมธรรม์

การยกเลิกกรมธรรม์สามารถทำได้เหมือนกับยกเลิกสินค้าประเภทอื่นๆ ซึ่งสามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. ให้ติดต่อโบรกเกอร์ หรือ บ. ประกันภัย พร้อมแจ้งว่าต้องการยกเลิกกรมธรรม์

  2. แจ้งยกเลิกประกันโดยระบุเลขทะเบียนรถยนต์ และผู้เอาประกัน พร้อมกับบอกเหตุผล

  3. จากนั้นให้ทำตามขั้นตอนที่บริษัทประกันแนะนำต่อไป

 

สรุป - ประกันภัยรถยนต์

เนื่องจากว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การทำประกันรถยนต์จึงสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับคนขับขี่และคนที่คุณรัก เราจึงสนับสนุนทุกคนให้ขับขี่รถยนต์บนท้องถนนด้วยความระมัดระวัง มีสติอย่างปลอดภัย โดยเพิ่มความอุ่นใจไปทุกวันที่ต้องขับขี่รถยนต์บนท้องถนนด้วยการทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจเพื่อรับความคุ้มครองเพิ่มเติมทั้งตัวบุคคลและรถที่เอาประกัน สนใจทำประกันหรือต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อ เพื่อนแท้ ประกันภัย ได้ที่สาขาใกล้บ้านคุณตลอดเวลาทำการ หรือ โทร. 02-114-3386 หรือ 02-114-8988


บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที