หลายคนที่ไม่ค่อยมีเวลาได้ไปออกกำลังกายตามฟิตเนส หรือออกไปเล่นกีฬากับเพื่อน ก็ยังมีผู้ช่วยดีๆ อยู่ที่บ้านคุณอย่าง “ลู่วิ่งสายพาน” ที่ช่วยให้คุณได้ลดไขมัน เพิ่มความกระชับให้สัดส่วนของคุณได้แม้อยู่ที่บ้าน แต่สำหรับหลายคนที่กำลังมองหาและเลือกซื้อลู่วิ่งสายพานอยู่นั้น แต่ไม่รู้ว่ามีประเภทไหนบ้าง วันนี้เราได้รวบรวมทริคดีๆ ในการเลือกซื้อมาฝากทุกคนกัน
เลือกจากประเภทและลักษณะการใช้งาน
แน่นอนว่าฟังก์ชันในการใช้งานของคุณควรเป็นสิ่งแรกที่คุณต้องพิจารณาก่อนเลือกซื้อลู่วิ่งสายพานเสมอ โดยเราขอแนะนำให้คุณเลือกซื้อตามประเภทการใช้งาน หรือจุดประสงค์ในการใช้งาน เช่น หากคุณต้องการลู่วิ่งสำหรับออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ก็อาจจะเลือกลู่วิ่งขนาดเล็ก หรือลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีพลังมอเตอร์เทียบเท่า 2 HP หรือหากคุณต้องการซ้อมวิ่งเพื่อเพิ่มกำลังให้กับแรงขา หรือเพื่อเพิ่มทักษะ ก็อาจจะเลือกลู่วิ่งแบบโค้ง หรือลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีพลังมอเตอร์เทียบเท่า 4 HP หรือมากกว่า เพื่อให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานที่หนักขึ้น รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานมากกว่า
เลือกจากประเภทและลักษณะของมอเตอร์ภายในตัวเครื่อง
มอเตอร์ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงานภายในลูวิ่ง โดยนอกจากจะให้ความเร็วในการใช้งานที่เหมาะสมแล้ว ถือเป็นการรองรับพลังงานของตัวเครื่องอีกด้วย โดยความแรงของมอเตอร์ในลู่วิ่งก็มีระดับของแรงม้าที่แตกต่างกันออกไปดังนี้
1-2 แรงม้า: สำหรับผู้ที่ต้องการเดินเร็วเพื่อสุขภาพ หรือวิ่ง Jogging เบาๆ เพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก
3-6 แรงม้า: สำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายเป็นประจำในบ้าน หรือคอนโด
7 แรงม้าขึ้นไป: สำหรับผู้ต้องการใช้งานภายในยิมหรือฟิตเนส หรือผู้ที่ต้องการฝึกวิ่งสำหรับการแข่งขัน หรือสำหรับนักกีฬามืออาชีพ
เลือกจากความเร็วและระดับความชันของลู่วิ่ง
เนื่องจากระดับความเร็วและระดับมอเตอร์เป็นสิ่งที่สัมพันธ์กันในขณะที่ใช้งานลู่วิ่งสายพาน หากเครื่องไหนที่มีมอเตอร์แรงม้าที่สูง ก็จะสามารถเลือกปรับระดับความเร็วได้สูงขึ้นเช่นกัน โดยระดับความเร็วของลู่วิ่งทั่วไปสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
ความเร็ว 0-6 กิโลเมตร/ชั่วโมง: เหมาะกับการเดินเร็วเพื่อสุขภาพ และสำหรับการลดน้ำหนัก
ความเร็ว 7-10 กิโลเมตร/ชั่วโมง: เหมาะกับการวิ่งพื้นฐานหรือการออกกำลังกายทั่วไป
ความเร็ว 11 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขึ้นไป: เหมาะกับการวิ่งฝึกซ้อม เพิ่มทักษะในการแข่งขัน
นอกจากนี้ ระดับความชันก็มีผลต่อการออกแรงในการวิ่งเช่นกัน หากลู่วิ่งสายพานมีความชันมาก ก็จะยิ่งช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น
ระดับ 1-10: เหมาะสำหรับการเดินหรือการออกกำลังกายทั่วไป
ระดับ 11 ขึ้นไป: เหมาะสำหรับการฝึกซ้อมขึ้นเขา หรือการแข่งขันวิ่ง
เมื่อรู้เทคนิคดีๆ แบบนี้แล้ว ก็อย่าลืมเลือกซื้อลู่วิ่งสายพานให้ตรงกับการใช้งาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการออกกำลังกายของคุณได้มากขึ้น
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที