เบาะรถยนต์ เป็นส่วนประกอบสำคัญและเป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายทำให้เรานั่งนอนได้อย่างมีความสุข แต่จะมีใครรู้บ้างว่า เบาะรถยนต์เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดีอีกด้วย และถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ให้สะสมเป็นเวลานาน ทั้งคนขับและผู้โดยสารจะได้รับเชื้อโรคเหล่านี้อย่างแน่นอน ด้วยความห่วงใย เราจึงนำเทคนิคการทำความสะอาดเบาะรถยนต์ มาฝากทั้งวิธีฟอกเบาะหนังรถยนต์และเบาะหนัง รวมทั้งวิธีซักเบาะรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นคราบมากแค่ไหนเราก็เอาอยู่
การฟองเบาะหนังรถยนต์ ดู ๆ แล้วเหมือนจะดูแลรักษาง่าย สกปรกยาก หลาย ๆ คนอาจไม่ได้สนใจที่จะทำความสะอาดเบาะหนังกัน ซึ่งจริง ๆ แล้วคราบต่าง ๆ อาจกำลังสะสมขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งในเบาะหนังและเบาะผ้า โดยที่เราไม่ทันสังเกต วิธีสังเกตได้ง่าย ๆ จากเบาะหนังที่มีสีเปลี่ยนไปอาจมีคราบเหลือง ๆ บางจุดเกิดขึ้น
วิธีดูแลไม่ให้เกิดคราบบนเบาะหนังคือหมั่นเช็ดถูกด้วยผ้าสะอาดทุกวัน แต่ถ้าหากสีหนังเริ่มหมองลงให้ใช้น้ำยาล้างจาน หรือน้ำสบู่เหลว และใช้ฟองน้ำชุบเช็ดทำความสะอาด น้ำยาล้างจาน หรือน้ำสบู่เหลวจะช่วยขจัดคราบได้เป็นอย่างดี
หลังทำความสะอาดเสร็จแล้วให้นำผ้าสะอาดมาเช็ดให้แห้งแล้วทิ้งไว้สักพัก จากนั้นเช็ดด้วยครีมบำรุงผิว หรือโลชั่นก็จะช่วยให้เบาะหนังไม่แห้งแข็งหรือแตกเป็นริ้วรอย แค่นี้ก็สะอาดเอี่ยมไม่ทิ้งคราบให้เห็นอีกต่อไป
แต่ถ้ามีคราบเกิดขึ้นมานาน อาจจากเศษอาหาร เครื่องดื่ม หรือคราบจากสิ่งต่าง ๆ ที่เบาะทั้งแบบเบาะหนังหรือเบาะผ้า เรามีขั้นตอนวิธีทำการฟอกเบาะหนังรถยนต์แบบเบาะหนัง และทำความสะอาดเบาะผ้าที่มีคราบเกิดขึ้นมาก ๆ แบบละเอียด มาฝากในหัวข้อต่อไป
สำหรับคนที่ใช้รถเป็นประจำทุกวัน นอกจากจะต้องดูแลเรื่องเครื่องยนต์ แล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการรักษาความสะอาดภายนอกและภายในตัวรถให้สะอาดอยู่เสมอ และในห้องโดยสารเป็นส่วนที่เราควรใส่ใจที่สุด เพราะเราใช้รถยนต์นาน ๆ แน่นอนว่าต้องมีคราบสกปรกเกิดขึ้น รวมทั้งมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ หากปล่อยทิ้งไว้จะส่งผลทำให้รถไม่น่ามอง
ดังนั้นในหัวข้อนี้เราจะมาแนะวิธีฟอกเบาะหนังรถยนต์ ให้กลับมาดูดีเหมือนใหม่อยู่เสมอ ทั้งเบาะหนังและเบาะผ้า ไปดูกันว่ามีขั้นตอนการทำความสะอาดอย่างไรบ้าง
การทำความสะอาดเบาะหนัง ก่อนอื่นเราต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนลงมือในการฟอกเบาะหนังรถยนต์ มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
• แปรงขนอ่อนนุ่ม ๆ แปรงสีฟันเก่า หรือแปรงที่ใช้ขัดรองเท้าก็ใช้ได้
• สบู่เหลว ผสมน้ำอุ่นแบบอ่อน ๆ (ถ้าใช้สบู่สูตรออแกนิคก็จะได้กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติอีกด้วย)
• ผ้าขนหนูเนื้อนุ่ม สะอาด ๆ 2-3 ผืน หรือ เป็นผ้าไมโครไฟเบอร์ เพราะใช้ได้กับทุกพื้นผิว
• สเตคลีน หรือน้ำยาทำความสะอาดเบาะหนัง จะใช้ในกรณีที่เบาะสกปรกมาก
• วาสลีนหรือพวกเบบี้โลชั่นไว้ใช้สำหรับเคลือบเบาะ
• เครื่องดูดฝุ่น
ต่อไปเป็นขั้นตอนวิธีทำความสะอาดเบาะหนัง ไม่ยากอย่างที่คิดมาดูกัน
การทำความสะอาดเบาะหนัง เราไม่ต้องถอดเบาะออกมาล้างทั้งตัวเหมือนเบาะผ้า และเบาะกำมะหยี่ สามารถเข้าไปล้างในตัวรถได้เลย ถ้าพร้อมแล้วไปลุยเลย
• ใช้แปรงขนอ่อนปัดฝุ่นละอองตามตะเข็บเบาะและซอกมุมต่างๆ ออกมา และใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดฝุ่นเหล่านั้นออกให้หมดก่อน
• ใช้ผ้าขนหนูที่เตรียมไว้ ชุบน้ำสบู่ที่ผสมไว้ในข้างต้นแล้วบิดหมาด เช็ดทำความสะอาดให้ทั่วตัวเบาะ ประมาณ
2 – 3 รอบ
• ใช้แปรงสีฟัน จุ่มกับน้ำสบู่ที่ผสมไว้ ขัดเบา ๆ วนเป็นวงกลม บริเวณที่มีคราบหรือรอยเปื้อน ตามร่องเบาะต่าง ๆ แปรงค่อย ๆ หากแปรงแรง จะทำให้เบาะหนังที่เปียกอยู่เป็นขลุย
• เมื่อแปรงเสร็จแล้ว ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเปล่าบิดหมาด ๆ เช็ดน้ำสบู่ออกให้หมด อาจเช็ดซัก 2 – 3 รอบก็ได้ เพียงเท่านี้ก็จะได้เบาะที่มีหนังเงางาม และแง้มกระจกหรือประตูรถไว้ เพื่อไล่ความชื้นและเป็นการตากเบาะให้แห้ง
• หากทำไปครบทั้ง 4 ขั้นตอนแล้วตัวหนังยังมีความสกปรกอยู่ ก็ถึงเวลาที่ต้องใช้สเตคลีน หรือน้ำยาฟอกเบาะหนังรถยนต์ เช็ดในบริเวณที่สกปรกมากซ้ำอีกครั้ง ไม่ต้องทาทั้งตัวเบาะ
• เมื่อเบาะแห้งสนิทดีแล้ว ก็ถึงขั้นตอนลงเงาถนอมเบาะ โดยใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเบาะหนังโดยเฉพาะ หรือใช้วาสลีน และ เบบี้โลชั่น มาทาลงไป เพื่อรักษาไม่ให้หนังแห้งและแตก เท่านี้หนังก็จะนุ่มนวล เป็นเงางาม
ข้อควรระวัง
• ห้ามใช้สารตัวทำลาย (Solvent) เช็ดรอยด่าง
• ไม่ควรใช้ผ้าที่มีผิวหยาบเช็ดทำความสะอาดเบาะหนัง เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายได้
• ไม่ควรเช็ดเบาะด้วยน้ำยาเคลือบบ่อยเกินไป เนื่องจากน้ำยาจะฝังตัวลงไปทำให้หนังแข็งได้
เบาะผ้าเป็นที่รู้จักกันดีว่าเบาะประเภทนี้สกปรกง่าย กักเก็บฝุ่นละออง คราบต่าง ๆ ได้เร็ว เบาะผ้าเหมาะกับรถยนต์ที่ใช้งานในประเทศที่มีอากาศร้อนมากกว่าเบาะหนัง แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ถ้าเปียกแล้วแห้งยาก สะสมความชื้นที่อาจก่อให้เกิดกลิ่นอับ ดังนั้นควรซักเบาะผ้ารถยนต์ในวันที่มีแดดจัด ๆ ก่อนทำความสะอาด เราต้องจัดเตรียมอุปกรณ์ฟอกเบาะหนังรถยนต์กันก่อน อุปกรณ์ต่าง ๆ มีดังนี้
• น้ำยาซักเบาะผ้า หรือน้ำสบู่
• กระบอกฉีดน้ำ แบบฟอกกี้
• กระป๋องใส่น้ำ
• ฟองน้ำอย่างดีหรือฟองน้ำล้างรถ
• แปรงขนอ่อน ๆ หรือแปรงสีฟัน
• ไดร์เป่าผมหรือโบลเวอร์เป่าลม
• ผ้าขนหนูสะอาด ๆ
• เครื่องดูดฝุ่น
ขั้นตอนวิธีทำความสะอาดเบาะผ้า หรือการซักเบาะรถยนต์ ทำได้ดังนี้
- เริ่มด้วยการใช้แปรงขนอ่อนปัดฝุ่น เส้นผม หรือขนสุนัขให้หลุดออกมาจากเนื้อผ้า หรือใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นออกจนหมด
- ผสมน้ำยาซักเบาะกับน้ำสะอาดในสัดส่วนที่ฉลากของผลิตภัณฑ์แนะนำ
- จากนั้นขจัดคราบสกปรกเฉพาะจุด โดยใช้แปรงสีฟันชุบน้ำสบู่แล้วค่อยๆ ขัดคราบสกปรกออก ใช้ฟองน้ำชุบน้ำเปล่าซับเฉพาะจุดที่ขจัดคราบออกจนรอยสกปรกจางหายไป
-เติมน้ำยาที่ผสมแล้วใส่กระบอกฉีด และฉีดไปที่เบาะบางๆ อย่าให้เปียกมาก ฉีดบริเวณที่จะทำความสะอาดทีละส่วน ใช้ฟองน้ำค่อยๆ ไล่เช็ดเบาๆ ให้ทั่วบริเวณที่ฉีดน้ำยาไว้
-ถ้าสกปรกมากก็ทำซ้ำตรงจุดนั้นจนสะอาด ใช้แปรงขนอ่อนขัดเบาๆ หากมีคราบสกปรกฝังอยู่ อาจใช้แปรงสีฟันขัดตามด้วยตามซอกเล็ก ๆ เพื่อความสะอาดมากขึ้น
- เมื่อขัดทั่วแล้ว ล้างน้ำยาที่อยู่บนเบาะโดยใช้ฟองน้ำสะอาดค่อยๆ ลูบบนเบาะเบา ๆ ทำซ้ำหลายครั้งจนฟองหมด
-ใช้ไดร์เป่าผมหรือโบลเวอร์เป่าเบาะรถให้แห้งพอประมาณ จากนั้นนำรถไปจอดกลางแจ้ง เปิดประตู หน้าต่างรถออกให้หมด ตากแดดไว้เพื่อให้เบาะแห้งสนิท
-เมื่อเบาะแห้งสนิทแล้ว ควรตรวจเช็กความเรียบร้อยอีกครั้งเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
วิธีขจัดรอยเปื้อนบนเบาะผ้ารถยนต์อีกวิธีที่สามารถใช้ได้ คือ นำกระดาษทิชชูชุบน้ำเช็ดตรงรอยเปื้อน พร้อมกับโรยแป้งฝุ่นเด็ก แป้งฝุ่นจะดูดน้ำออกและจับตัวกันเป็นก้อน ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก แต่ถ้ายังมีคราบสกปรกหลงเหลืออยู่ อาจต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะผ้ามาเป็นตัวช่วยสุดท้าย เพื่อให้ได้เบาะที่สะอาดเหมือนเดิม
วิธีทําความสะอาดเบาะรถยนต์กํามะหยี่
การดูแลรักษาเบาะรถยนต์ที่หุ้มด้วยกำมะหยี่อาจต้องใช้ความพิถีพิถันมากกว่าเบาะหนังและเบาะผ้า เริ่มด้วยการใช้มือตบลงบนเบาะเบาๆ แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดฝุ่นละอองทั้งหลายออกก่อน ในกรณีที่บนเบาะกำมะหยี่มีฝุ่นเกาะสะสมอยู่มาก ให้แปรงด้วยแปรงขนม้าหรือแปรงที่ใช้สำหรับแปรงผ้ากำมะหยี่โดยเฉพาะ จากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดบนเบาะและโครงผ้ากำมะหยี่อีกรอบ
ในกรณีที่มีรอยเปื้อนหรือคราบสกปรกฝังแน่น เช่น รอยหมึกหรือคราบกาแฟ แนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะกำมะหยี่สูตรสำเร็จจะได้ผลมากกว่า หลังจากที่ฉีดน้ำยาและไล่เช็ดจดสะอาดแล้ว ให้นำฟองน้ำที่สะอาดชุบน้ำสะอาดบิดให้หมาดที่สุดเท่าที่จะทำได้มาเช็ดคราบน้ำยาฟอกเบาะหนังรถยนต์ที่อาจตกค้างตามเบาะจนหมด
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที