แนะนำเรื่องฟิลเลอร์ มีกี่ชนิด ทำหน้าที่ช่วยเรื่องอะไร? ฉีดส่วนไหนได้บ้าง
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องรู้ ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับฟิลเลอร์ที่จะทำให้การฉีดฟิลเลอร์ได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย ได้รับการฉีดที่ถูกต้องที่ทำให้ฟิลเลอร์คงสภาพนานขึ้นได้ ดูเป็นธรรมชาติ ใครอยากฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกให้เห็นผลดีควรอ่าน
ทำความรู้จักฟิลเลอร์กันก่อน
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรรู้จักก่อนว่าฟิลเลอร์คืออะไรและฉีดเพื่ออะไร ฟิลเลอร์จะเป็นสารเติมเต็มผิวชนิดไฮยาลูโรนิค แอซิด หรือ HA สารประเภทนี้จะเป็นสารที่พบในผิวหนัง มีหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว การฉีดฟิลเลอร์จึงเหมือนเป็นการเพิ่มเนื้อในผิวหนังให้ดูเต่งตึงเรียบเนียน นำไปใช้ในรูปแบบและการปรับสภาพผิวได้ในลักษณะหลากหลาย
ฟิลเลอร์ฉีดเพื่อแก้ไขเรื่องอะไรบ้าง?
การฉีดฟิลเลอร์จะเป็นการเติมเต็มเนื้อในส่วนที่ขาดให้ดูเต็มขึ้น หรือฉีดเพื่อปรับรูปหน้าให้ดูอวบอิ่มขึ้น ตามแต่ละส่วนที่ทำการฉีด โดยฟิลเลอร์สามารถฉีดเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ต่างๆ ได้ดังนี้
-
ฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมชั้นผิว
-
ฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดร่องลึกต่างๆ ให้เต็ม
-
ฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้เกิดความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
-
ฉีดฟิลเลอร์เพื่อช่วยให้เกิดความเต่งตึง ผิวเรียบเนียน
-
ฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าให้สมส่วน ทรงสวยขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์มีกี่ประเภท?
ฟิลเลอร์ที่พบกันทั่วไปในตอนนี้แบ่งออกเป็น 2 แบบหลักๆ ควรเลือกประเภทที่เหมาะสมเพื่อป้องกันผลข้างเคียงหลังกฉีดที่อันตราย หรือผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไปตามต้องการ
ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler)
ฟิลเลอร์ประเภทนี้จะเป็นสารที่ฉีดแล้วคงอยู่ตลอดไป แต่จะไม่สามารถกำหนดรูปทรงหรือทิศทางแบบเดิมได้ อาจเกิดการเปลี่ยนรูป กลายเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล หรือเกิดพังผืดขึ้นได้เนื่องจากไม่สลายตัว กลายเป็นสารตกค้างในผิว ซึ่งไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีในการฉีดเพราะไม่ผ่านอย. คุณภาพไม่ดี และอาจทำมาจากสารอื่นๆ ที่ไม่ใช่ HA เช่น ซิลิโคน Biosynthetic Polymers Calcium Hdroxylaptite หรือ Polymethylmethacrylate เป็นต้น
ฟิลเลอร์กึ่งถาวร หรือคงสภาพชั่วคราว (Non Permanent Filler)
ฟิลเลอร์ที่ได้จากสารเติมเต็ม HA ที่ถูกต้อง เป็นสารที่มีตามธรรมชาติใกล้เคียงกับในร่างกายมนุษย์ สามารถใช้ฉีดเติมเต็มได้อย่างปลอดภัย ไม่เิดการต่อต้าน มีอย.รองรับ และจะไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ เพราะสามารถสลายตัวได้เอง หรือเลือกฉีดสลายได้หากต้องการปรับเปลี่ยน
ตำแหน่งที่สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้
ไม่ว่าจะเป็นการเติมเต็มผิวด้วยฟิลเลอร์ ปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ หรือการปรับสภาพผิวด้วยฟิลเลอร์สามารถทำได้ในส่วนที่เป็นผิวหนังทั้งหมด ตามปกติแล้วสามารถฉีดได้ในตำแหน่งต่อไปนี้
-
ฟิลเลอร์จมูก : ฉีดเพื่อปรับทรงจมูก เติมสันจมูก หรือปรับเนื้อจมูกสองด้านไม่เท่ากันให้ดูสมมาตรขึ้น
-
ฟิลเลอร์คาง : ปรับรูปคางให้มีเนื้อเต่งตึง คางดูนูนขึ้น แก้ปัญหาคางเป็นตะปุ่มตะป่ำ หรือแก้คางบุ๋มได้
-
ฟิลเลอร์ปาก : ฉีดเติมเนื้อปากเพิ่มความอวบอิ่ม ปรับรูปปากให้ตรงกับเทรนด์บิวตี้ ฉีดเติมเนื้อปากที่แหว่งให้เต็มขึ้น ฉีดยกมุมปาก หรือฉีดเติมร่องปาก ทำปากกระจับก็ได้เช่นกัน
-
ฟิลเลอร์ใต้ตา : ฉีดแก้ตาคล้ำ แก้ตาโหล หรือใต้ตาหย่อนคล้อยให้ดูเต่งตึงขึ้น
-
ฟิลเลอร์ขมับ : ฉีดเติมขมับตอบให้ดูมีมิติขึ้น ปรับใบหน้าโดยรวมให้อ่อนเยาว์
-
ฟิลเลอร์ร่องแก้ม : แก้ปัญหาร่องลึกที่ข้างแก้มให้ดูเต็ม กระชับขึ้น ช่วยลดอายุได้ดี
-
ฟิลเลอร์หน้าผาก : ฉีดปรับโหงวเฮ้งหน้าผากให้โหนกนูนขึ้น ใบหน้าดูอิ่ม แก้หน้าผากแบน

ฟิลเลอร์ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ทำได้ง่ายกว่า เทียบกับการผ่าตัด หรือหัตถการอื่นๆ เพราะเห็นผลได้ไว ช่วยแก้ปัญหาได้หลายด้าน มีข้อดีที่ทำให้เป็นที่นิยมดังนี้
-
ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องศัลยกรรม
-
ช่วยปรับโหงวเฮ้งได้ง่ายขึ้น
-
ช่วยแก้ปัญหาสัดส่วนใบหน้าไม่สมมาตรจากเนื้อแหว่งหรือเบี้ยว
-
ช่วยลดอายุ ให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
-
ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ปรับบุคลิกภาพให้ดีขึ้น
-
ช่วยให้เห็นผลลัพธ์การปรับสภาพผิว แต่งทรงใหม่ได้เร็วโดยไม่ต้องพักฟื้น
ใครที่สามารถแก้ปัญหาด้วยฟิลเลอร์ได้บ้าง?
-
คนที่มีปัญหารูปหน้าไม่สมมาตร เนื้อแหว่งในบางจุด
-
คนที่มีสัดส่วนบนใบหน้าผิดรูป ขาดความสวยงาม
-
คนที่มีอายุเพิ่มขึ้น เริ่มมีริ้วรอย หรือร่องลึกในจุดต่างๆ
-
คนที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น ปรับผิวให้ดูอิ่มน้ำ
-
คนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยเร็วแต่ยังมีความเป็นธรรมชาติสูง
-
คนที่ต้องการผลลัพธ์หลังทำแบบชั่วคราว อยากปรับเปลี่ยนในภายหลัง
ฟิลเลอร์ไม่ควรฉีดในบุคคลใด?
-
ผู้ที่มีอาการแพ้สารไฮยาลูโรนิค แอซิด
-
ผู้ที่แพ้ยาชา
-
คุณแม่ที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
-
บุคคลที่มีประวัติเป็นแผลคีลอยด์ได้ง่าย
-
คนไข้ที่มีปัญหาเลือดไหลแล้วหยุดยาก
-
คนไข้ที่มีการทานยาประเภทแอสไพริน สารสกัดแปะก๊วย หรือยาคลายกล้ามเนื้อเป็นประจำ
-
คนที่มีปัญหาผิวหนัง เป็นเริม หรืองูสวัด
ฟิลเลอร์มีขั้นตอนการฉีดอย่างไร?
การฉีดฟิลเลอร์แต่ละจุดจะมีเทคนิคการฉีดต่างกันตามวัตถุประสงค์ที่ไม่เหมือนกัน แต่ในภาพรวมจะมีขั้นตอนที่ใกล้เคียงกันทั้งหมด 5 ขั้นตอนตามลำดับดังนี้
-
พูดคุยกับแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิว ปัญหา และผลลัพธ์ที่ต้องการ
-
ทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
-
แพทย์ทำการเปิดกล่องต่อหน้าคนไข้เพื่อให้เช็กฟิลเลอร์ว่าเป็นของแท้ เพิ่มความมั่นใจในการฉีด (คนไข้สามารถนำกล่องกลับบ้านได้)
-
แพทย์และผู้ช่วยทำการประคบน้ำแข็งให้คนไข้ ก่อนฉีดฟิลเลอร์
-
เสร็จขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ให้คำแนะนำการดูแลตัวเองหลังทำ
ความรู้สึกระหว่าฉีดฟิลเลอร์เป็นอย่างไร
หลายๆ ครั้งคนไข้จะมีความกังวลว่าระหว่างฉีดฟิลเลอร์จะเจ็บไหม ทนไหวหรือไม่ ประเด็นนี้ไม่น่ากังวลเพราะระหว่างฉีดจะมีการประคบน้ำแข็งให้เพื่อลดความเจ็บ ฟิลเลอร์บางตัวยังมีการผสมยาชาในตัวซึ่งช่วยลดอาการได้ค่อนข้างมาก หลังฉีดเสร็จอาจรู้สึกปวดๆ ตึงๆ หรือมีอาการบวมได้ ซึ่งแพทย์จะทำการจ่ายยาแก้ปวดหรือยาลดอักเสบให้ตามความเหมาะสมให้ในแต่ละเคส
ฟิลเลอร์มีกี่ยี่ห้อ ต้องเลือกยังไง?
ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันจะมี 4 ยี่ห้อ เป็นยี่ห้อที่ได้รับมาตรฐานและคลินิกหลายแห่งเลือกใช้ฉีดให้กับคนไข้ เนื่องจากได้ผลลัพธ์หลังฉีดที่ดี ได้แก่
ฟิลเลอร์ Restylane
เป็นฟิลเลอร์ของสวีเดน มีจุดเด่นตรงที่ใช้เทคโนโลยีเฉพาะที่เน้นทำให้เนื้อฟิลเลอร์ยืดหยุ่นได้ดี มีความคงตัว และชุ่มชื้นสูง เหมาะกับฉีดในหลายๆ ตำแหน่งให้คงสภาพได้นาน
ฟิลเลอร์ Juvederm
ฟิลเลอร์อเมริกาที่ได้รับความนิยมสูง มีเทคโนโลยี Hylacross ที่ทำให้ฟิลเลอร์ไม่เกิดการเคลื่อนไหวได้ง่ายจึงคงสภาพได้นาน ยือดหยุ่น ตัวฟิลเลอร์หลายรุ่นมีเนื้อที่เนียน ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ กลืนไปกับผิวได้ดี
ฟิลเลอร์ Belotero
ฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการเกาะตัว ฟิลเลอร์ไม่ไหลง่าย หรือเกิดเป็นก้อนหลังทำ เหมาะสำหรับฉีดเพื่อปรับสัดส่วนเพราะปั้นทรงได้ง่าย
ฟิลเลอร์Perfectha
ฟิลเลอร์ฝรั่งเศสที่คงสภาพได้นาน มีความเข้มข้นของสาร HA สูง อุ้มน้ำได้ดี
ฉีดฟิลเลอร์ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?
ฉีดฟิลเลอร์เป็นการฉีดเติมเต็มผิวที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทันทีที่ทำ แต่ผลลัพธ์หลังทำในตอนแรกจะยังไม่ชัดเจนเพราะจะมีอาการบวมเข็มร่วมด้วย ฟิลเลอร์จะใช้เวลาในการเข้าที่ และได้สัดส่วนใหม่ตามที่ปรับแต่ง หรือดูเรียบเนียนเต็มประสิทธิภาพที่สุดหลังฉีดประมาณ 7 - 14 วันหลังทำ
ฟิลเลอร์ต้องฉีดเยอะไหม? ใช้กี่ CC?
ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน การฉีดในปริมาณมากน้อยต้องคำนึงถึงคุณสมบัติของฟิลเลอร์รุ่นที่ใช้ ปัญหาใบหน้าเดิม และผลลัพธ์หลังทำที่ต้องการ แพทย์จะช่วยประเมินให้ว่าต้องใช้ปริมาณในการฉีดกี่ CC โดยปกติแต่ละตำแหน่งจะใช้จำนวน CC ดังนี้
-
ฉีดหน้าผาก 3 - 5 CC
-
ฉีดเติมคาง 1 - 2 CC
-
ฉีดฟิลเลอร์จมูก 2 - 3 CC
-
ฉีดขมับ 2 - 4 CC
-
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 2 - 4 CC
-
ฉีดเติมร่องแก้ม 1 - 3 CC
-
ฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 - 2 CC
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเปลี่ยนยี่ห้อภายหลังได้ไหม?
ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดเติมในตำแหน่งเดิมสามารถเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้อใหม่ได้ แต่ต้องเป็นการเปลี่ยนหลังจากที่ฟิลเลอร์ตัวเก่าสลายไปหมดแล้ว หรือฉีดสลายฟิลเลอร์เก่าเพื่อความมั่นใจ เพราะฟิลเลอร์ต่างรุ่นกันจะให้โมเลกุลไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดผลลัพธ์ต่างกัน แพทย์จะให้คำแนะนำว่าควรใช้ยี่ห้อไหนให้เกิดผลลัพธ์แบบที่คนไข้ต้องการ รวมไปถึงประเมินให้ว่าสามารถเปลี่ยนยี่ห้อได้หรือไม่
ฉีดฟิลเลอร์พร้อมโบท็อกได้ไหม?
สามารถฉีดฟิลเลอร์พร้อมโบท็อกได้ภายใต้การแนะนำของแพทย์ ฟิลเลอร์จะเป็นการฉีดเติมความเต่งตึงให้ผิว เติมร่องลึกต่างๆ ส่วนโบท็อกจะช่วยกระชับริ้วรอย ผลลัพธ์ในการฉีดควบคู่กันจะทำให้เกิดความเรียบเนียนขึ้นในกรณีฉีดเพื่อลดริ้วรอย นอกจากนี้ยังทำให้ฟิลเลอร์คงสภาพได้นานขึ้นด้วยเนื่องจากโบท็อกจะทำการลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ฟิลเลอร์ไม่สลายเร็ว แต่จะเห็นผลต่างกันไปในแต่ละคนและตำแหน่งที่ฉีด
ฉีดฟิลเลอร์แล้วต้องฉีดสลายไหม?
ฟิลเลอร์ไม่จำเป็นต้องฉีดสลายหากไม่ได้มีความจำเป็น เช่น ต้องการคืนสภาพก่อนฉีดในทันที เพราะฟิลเลอร์แท้จะสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ แต่ใช้ระยะเวลา 6 - 18 เดือนหลังฉีด แล้วแต่ยี่ห้อที่ใช้ แต่หากต้องการเปลี่ยนยี่ห้อฟิลเลอร์ ไม่พึงพอใจในผลลัพธ์ หรือต้องการให้ฟิลเลอร์สลายตัวเพื่อเปลี่ยนไปปรับสัดส่วนด้วยการศัลยกรรม ก็สามารถฉีดสลายได้
ขูดฟิลเลอร์คืออะไร ทำไมต้องทำ?
การขูดฟิลเลอร์เป็นวิธีเอาฟิลเลอร์ออก โดยต่างจากการฉีดสลายตรงที่การขูดฟิลเลอร์จะใช้กับฟิลเลอร์ของปลอมเท่านั้น เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ประเภทที่ไม่สามารถแก้ได้ด้วยการฉีดสลาย หลังขูดฟิลเลอร์จะนำฟิลเลอร์ออกได้เพียง 60 - 70% เท่านั้น จะยังคงมีสารตกค้างหลงเหลืออยู่ไม่สามารถนำออกได้ทั้งหมด คนที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์จึงควรตรวจสอบให้มั่นใจทุกครั้งก่อนฉีดว่าได้รับฟิลเลอร์ที่เป็นสาร HA แท้ๆ
อาการข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์
หลังฉีดฟิลเลอร์จะเกิดรอยเข็มและอาการบวมเข็ม หรือผิวกลายเป็นสี่แดงบริเวณที่ฉีด จะใช้เวลา 1 - 2 สัปดาหืจึงจะกลับไปเป็นปกติ ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นปกติหลังฉีดจากปฏิกิริยาของผิวและการใช้เข็ม ไม่เป็นอันตราย หากดูแลรักษาหลังฉีดให้ดีก็จะป้องกันไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อหรืออักเสบได้
ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนเกิดจากอะไร?
ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนหลังฉีดเกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก นั่นคือการใช้ฟิลเลอร์ของปลอมทำให้ฟิลเลอร์ไหลไปรวมตัวกันเป็นก้อน ไม่สามารถเกาะยึดผิวตามทรงที่ปั้นได้เหมือนฟิลเลอร์ของแท้
หรืออาจเกิดจากการฉีดโดยขาดความชำนาญ ใช้ยี่ห้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีด ฉีดในปริมาณมากเกินไป หรือไม่มีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง คนไข้ที่ฉีดฟิลเลอร์ควรเลือกคลินิกให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว เพราะคลินิกที่ดีจะใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ และให้แพทย์ที่มีประสบการณ์เป็นผู้ฉีดให้
วิธีเช็กฟิลเลอร์ของแท้
จุดสังเกตฟิลเลอร์ว่าเป็นฟิลเลอร์ของแท้หรือปลอมดูได้จาก 10 ข้อประกอบกันดังนี้
-
กล่องฟิลเลอร์ยังไม่ผ่านการเปิดมาก่อน
-
ฟิลเลอร์มีการระบุวันหมดอายุ และราคาไว้อย่างชัดเจน
-
ในกล่องฟิลเลอร์ต้องมาพร้อมฉลากภาษาไทย
-
ที่กล่องฟิลเลอร์และหลอดฟิลเลอร์ต้องระบุเลข lot ตรงกัน
-
ฟิลเลอร์มีชื่อบริษัทนำเข้าระบุไว้ สามารถตรวจสอบได้
-
ฟิลเลอร์จะได้รับอนุญาตให้ใช้ในคลินิกและสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น
-
ฟิลเลอร์ที่ผ่านมาตรฐานในไทยโดยอย.จะมี 7 ยี่ห้อได้แก่ Restylane, Juvederm, Belotero, Perfectha, Neuramis, Revanesse Ultha และ Yviore
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์
-
เลี่ยงการสัมผัส นวด กด บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
-
เลี่ยงการขยับใบหน้าในส่วนที่ฉีดฟิลเลอร์หลังทำ 3 วัน
-
งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนทั้งการออกกำลังกาย ตากแดด เลเซอร์ผิว หรือรับประทานอาหารหน้าเตา
-
ควรอยู่ในพื้นที่อากาศถ่ายเทหรือในห้องแอร์ เพื่อเลี่ยงฟิลเลอร์สลายตัวในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
-
งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ อย่างน้อย 14 วัน
สรุป
ฉีดฟิลเลอร์สามารถแก้ปัญหาได้หลายอย่าง การฉีดเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีและพึงพอใจควรฉีดในคลินิกที่วางใจได้ โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง หากต้องการคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านฟิลเลอร์
บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที