metahealth

ผู้เขียน : metahealth

อัพเดท: 24 ธ.ค. 2023 23.04 น. บทความนี้มีผู้ชม: 6589 ครั้ง

บทความแนะนำ แหล่งความรู้เกี่ยวความงามสำหรับผู้หญิง


ปัญหาหน้าแก่ก่อนวัยเพราะรอยตีนกา รักษายังไงได้บ้าง

รอยตีนกาหรือริ้วรอยที่เกิดบริเวณหางตาทั้งสองข้าง สาเหตุของปัญหาความกังวลใจและทำให้หลายคนหมดความมั่นใจ ซึ่งรอยตีนกาสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งหญิงและชายเมื่อก้าวเข้าสู่วัยชรา เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงช่วงอายุที่มากขึ้นและมักเกิดขึ้นอย่างชัดเจนเวลาคุณยิ้มหรือหัวเราะ ซึ่งทำให้คุณดูแก่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม จึงกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นเรามาดูวิธีการรักษารอยตีนกาเพื่อให้คุณกลับมายิ้มได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง
 
 
ลักษณะรอยตีนกาเป็นอย่างไร
 

รอยตีนกาคืออะไร?

รอยตีนกา คือริ้วรอยที่เกิดขึ้นบริเวณหางตาทั้งสองข้าง มีลักษณะเป็นร่องลึกยาวจนถึงขมับพาดผ่านกันไปมาจนคลายรอยเท้าของอีกา เกิดเองตามธรรมชาติและส่วนใหญ่เกิดกับผู้ที่มีอายุมาก เนื่องจากเป็นริ้วรอยที่เกิดจากพฤติกรรมการแสดงอารมณ์ยิ้ม หัวเราะ สะสมกันเป็นเวลานาน ประกอบกับผิวหนังบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางสูง ทำให้เกิดเป็นริ้วรอย
 

รอยตีนกาเกิดจากอะไร?

รอยตีนกา ที่พบเห็นได้ทั่วไปเกิดจากหลายปัจจัยโดยแบ่งเป็น 4 ปัจจัยดังต่อไปนี้
 
1. อายุที่เพิ่มมากขึ้น รอยตีนกาจะเริ่มเกิดขึ้นเมื่ออายุเข้าสู่วัย 30 ปีขึ้นไป โดยปกติผิวหนังของคนเราจะประกอบไปด้วยคอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งทำมีหน้าที่ทำให้ผิวตึงกระชับและยืดหยุ่นแข็งแรง แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นร่างกายจะสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินน้อยลง ผิวหนังจึงขาดความตึงกระชับ ขาดความแข็งแรง และไม่ยืดหยุ่นเหมือนวัยรุ่น จึงทำให้ผิวหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะบริเวณดวงตาที่บอบบางกว่าบริเวณอื่นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดรอยตีนกา
2. การแสดงสีหน้า พฤติกรรมการแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้าเป็นพฤติกรรมเฉพาะตัวของคนเรา ที่เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ในคนที่ชอบหัวเราะ ยิ้ม ดีใจ โกรธ หรือร้องไห้ ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมปกติที่ต้องแสดงออกผ่านบริเวณรอบดวงตา แต่ก็เป็นสาเหตุของการเกิดรอยตีนกาได้ง่าย เนื่องจากผิวหนังบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางอยู่แล้ว และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
3. แสงยูวีจากแสงแดด เนื่องจากประเทศไทยจัดอยู่ในประเทศเขตร้อน ทำให้กิจวัตรประจำวันของเราต้องพบเจอกับแสงยูวีที่มากับแสงแดดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงเปิดโอกาสให้แสงยูวีเข้าไปทำลายเซลล์ผิว ทำให้ผิวมีสภาพดำคล้ำ แห้งเสีย และยังเป็นตัวเร่งที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพก่อนวัย นำมาสู่รอยตีนกาก่อนวัยอันควรได้เร็วขึ้น
4. พฤติกรรมการใช้ชีวิต กิจวัตรประจำวันบางอย่างของคนเรา อาจเป็นตัวเร่งในการเกิดรอยตีนกา ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นพฤติกรรมทางตรงและพฤติกรรมทางอ้อม ดังต่อไปนี้
 

 

ประเภทของรอยตีนกา

รอยตีนกามีกี่ประเภท?

รอยตีนกาที่พบมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่
 
 
วิธีแก้และรักษารอยตีนกา
 

วิธีรักษารอยตีนกามีอะไรบ้าง?

1. ครีมลดริ้วรอยหางตา

วิธีการรักษารอยตีนกาด้วยครีมเป็นวิธีที่สะดวกและทำได้ด้วยตัวเองได้ที่บ้าน โดยสามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านขายผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ซึ่งเป็นครีมลดริ้วรอยที่มีส่วนผสมของสารในกลุ่มอาทิเช่น เรตินอล (Retinol), วิตามินซี, เอเอชเอ (AHA) และบีเอชเอ (BHA), เปปไทด์ (Peptide), หรือโคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10) ซึ่งสารเหล่านี้มีคุณสมบัติช่วยลดริ้วรอย พร้อมสร้างผิวที่เรียบเนียนและอ่อนวัย จึงเหมาะกับการช่วยลดรอยตีนกา
 

2. สครับผิวหรือพอกหน้าลดริ้วรอย

เป็นวิธีลดร้อยตีนกาที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน โดยใช้เพียง ผัก ผลไม้ ที่หาซื้อได้ตามท้องตลาด เช่น ว่านนางคำ ใบตำลึง ใบบัวบก แครอท เป็นต้น นำมาปั่นหยาบๆ เพื่อใช้สำหรับสครับ แต่หากต้องการใช้พอกหน้า ควรนำมาปั่นกับน้ำผึ้ง โยเกิร์ต ไข่ขาว ให้ละเอียดแล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที เพื่อช่วยลดริ้วรอยและเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว 
 

3. ฉีดโบท็อกซ์ลดรอยตีนกา

เป็นการฉีดสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม ชนิดที่เรียกว่า โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ(Botulinum toxin A) หรือชื่อทางการค้าที่เรารู้จักกันเรียกว่า โบท็อกซ์ โดยโบท็อกซ์จะออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ เพื่อให้รอยตีนกาจางลง อีกทั้งยังช่วยให้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตากลับมาตึงกระชับเรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ขึ้น หลังฉีดภายใน 4-5 วันแรกจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น และหลังจากนั้นอีก 2 สัปดาห์โบท็อกซ์จะออกฤทธิ์เต็มประสิทธิภาพผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นไปตามที่คุณต้องการ
 

4. ฉีดฟิลเลอร์รักษาริ้วรอย

ด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์ซึ่งเป็นสารเติมเต็ม หรือ Hyaluronic Acid ที่สกัดจากธรรมชาติ จึงถูกนำมาใช้ในการลดเลือนริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาหรือรอยตีนกา เพื่อทำให้ร่องลึกถูกเติมเต็ม นอกจากนั้นยังช่วยยกกระชับผิวให้ดูเต่งตึง ชุ่มชื้น ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และช่วยชะลอการเกิดรอยตีนกาในอนาคตได้อีกด้วย
 

5. เลเซอร์ตีนกา

สำหรับวิธีเลเซอร์รอยตีนกาเหมาะสำหรับผู้ที่มีรอยตีนกาถาวรและไม่ลึกมาก เพราะด้วยหลักการของเลเซอร์คือการกำจัดเซลล์ที่ไม่เรียบเนียน และช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนซึ่งมีคุณสมบัติทำให้ผิวหนังเต่งตึง นุ่มฟู กระชับและยืดหยุ่น ให้กลับมาเติมเต็มร่องลึกจากรอยตีนกา
 

6. ไฮฟู (HIFU) แก้รอยตีนกา

ไฮฟู คือการใช้พลังคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวให้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นและเรียงตัวกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผิวหนังที่มีร่องลึก กลับมาดูกระชับ เรียบเนียนมากขึ้น
 

7. เอ็นโดไทน์หน้าผากลดตีนกา

เป็นวิธีผ่าตัดขนาดเล็กโดยการนำอุปกรณ์ทางการแพทย์ขนาดเล็กไม่ถึง 1 เซนติเมตรที่เรียกว่า Endotine (เอนโดไทน์) ซึ่งมีลักษณะคล้ายหมุดและมาหนามรอบบริเวณหมุดสอดบริเวณใต้ผิวหนังรอบดวงตาที่หย่อนคล้อย เพื่อยึดดึงให้ร่องลึกรอยตีนกากลับมาตึงกระชับ และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อลดเรือนรอยตีนกา
 
8. นวดหน้าสลายตีนกา
 
การสลายรอยตีนกาด้วยวิธีการนวด เป็นหลักใช้แรงจากนิ้วมือเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว เปรียบเสมอการเกลี่ยกล้ามเนื้อให้เรียบเนียน โดยวิธีการคือใช้นิ้วมือค่อยๆ คลึงไปบริเวณหางตา และวนไปด้านใดด้านหนึ่งให้รอบผิวหนังดวงตา ใช้เวลาในการ ประมาณ 10-20 นาที ทำเป็นประจำจนรอยตีนกาค่อยจางลงและสามารถใช้วิธีการนวดเพื่อป้องกันการเกิดรอยตีนกาได้ในอนาคต
 
9. กัวซาลดริ้วรอยตีนกา
 
กัวซาหรือการนวดด้วยหินที่เรียกว่าหินกัวซา คือหนึ่งในภูมิปัญญาแพทย์พื้นบ้านของจีน เพื่อขับสารพิษใต้ผิวหลังออกจากร่างกาย และช่วยให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น ด้วยข้อดีของกัวซาจึงถูกนำมาประยุกต์กับการลดเรือนรอยตีนกาเพื่อขับสารพิษต่างๆ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวรอบดวงตาเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และยังกระตุ้นการทำงานของผิวใต้บริเวณรอบดวงตา ทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตากลับมาเรียบเนียนขึ้น รอยตีนกาดูจางลง
 
10. Ulthera ยกกระชับริ้วรอย
 
วิธีนี้คือการใช้เครื่องสร้างคลื่นไมโครโฟกัสอัลตร้า ผ่านหัวยิงที่ส่งคลื่นพลังงานที่ต่างกันซึ่งสามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อลดรอยตีนกาตามระดับความลึกของร่องตีนกา เพื่อไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว เพื่อให้ผิวกลับมาเรียบเนียนดังเดิม
 
11. Thermage ยกกระชับผิว
 
เป็นวิธีการส่งผ่านพลังงานความร้อนในรูปแบบของคลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว ไปยังหนังแท้ (Dermis) จนถึงชั้นกล้ามเนื้อ (SMAS) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่เสื่อมสภาพให้กลับฟื้นคืนมาอีกครั้ง ส่งผลให้รอยตีนกาดูจางลง ผิวกลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง
 
12. ผ่าตัดศัลยกรรมลบรอยตีนกา
 
วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอยตีนกาแบบลึกมากและหย่อนคล้อยขั้นรุนแรง โดยเฉพาะในผู้สูงวัย ซึ่งอาศัยการผ่าตัดเอาผิวที่หย่อนคล้อยออก พร้อมกับการดึงผิวให้ตึงและเย็บตกแต่งแผลให้เรียบเนียน และใบหน้าดูตึงกระชับอ่อนวัย
 
จากข้อมูลสาเหตุการเกิดรอยตีนกา ประกอบกับวิธีการรักษา จะพบว่าวิธีการรักษารอยตีนกามีให้เราเลือกมากมาย แต่ทั้งนี้ต้องอาศัยการประเมินของตัวเราเองด้วยว่ารอยตีนกาที่เกิดขึ้นกับเราเกิดจากสาเหตุใด และอยู่ในระดับใด เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถประเมินเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะกับตัวเราได้ง่ายขึ้น
 
สามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการแก้ปัญหาเพิ่มเติมต่อได้ที่ : https://www.gangnamconsult.com/how-to-reduce-crows-feet/
 

บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ ht.ro.apt@ecivres-bew เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที